 วางดอกไม้เพื่อรำลึกถึงผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุวินาศกรรม 9 กันยายน ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ (THX) |
หัวข้อของวันสากลรำลึกผู้เคราะห์ร้ายจากการก่อการร้ายปีนี้คือ “เสียงพูดเพื่อสันติภาพ: ผู้เคราะห์ร้ายจากการก่อการร้ายในฐานะผู้สนับสนุนและให้การศึกษาเกี่ยวกับสันติภาพ”
รับฟังความคิดเห็นของผู้เคราะห์ร้าย
ในข้อความที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม นาย อันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้ย้ำว่า การที่สหประชาชาติเลือกหัวข้อในปีนี้คือ “เสียงพูดแห่งสันติภาพ” เพื่อค้ำประกันว่า ผู้เคราะห์ร้ายและผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ก่อการร้ายจะได้รับฟังความคิดเห็นอยู่เสมอและจะไม่ถูกหลงลืม สหประชาชาติระบุว่า ผู้เคราะห์ร้ายจากการก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ ดังนั้น ชีวิตของผู้รอดชีวิตจากการก่อการร้ายหรือญาติมิตรของพวกเขาต้องเผชิญความสูญเสียที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ ผู้คนจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีก่อการร้ายในหลายปีที่ผ่านมายังคงได้รับบาดแผลทางจิตใจ เช่นที่สหรัฐ ภายหลังเกือบ 23 ปีที่เกิดเหตุโจมตีใส่ตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์กเมื่อวันที่ 11 กันยายนปี 2001 มีผู้คนหลายพันคนยังคงไม่หายจากอาการหวาดกลัวและยังต้องได้รับการรักษาความผิดปกติทางจิต ที่ยุโรป การโจมตีของผู้ก่อการร้ายใส่ขบวนรถไฟเมื่อเดือนมีนาคมปี 2004 ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 193 คนและผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 2,000 คนยังคงทิ้งบาดแผลที่รักษาไม่หาย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในโอกาสรำลึกครบรอบ 20 ปีการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ในยุโรป สมาคมและครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากได้เรียกร้องให้รัฐบาลลงทุนเพิ่มเติมเพื่อก่อสร้างกิจการรำลึกและการเก็บรักษาเอกสารและความทรงจำของเหยื่อในเหตุการณ์นี้ อีกทั้งแก้ไขข้อกำหนดทางกฎหมายบางข้อ โดยเพิ่มการลงโทษสำหรับการก่อการร้ายเพื่อนำความยุติธรรมมาให้แก่ผู้เสียชีวิตและผู้รอดชีวิต ที่ฝรั่งเศส เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายของจิตรกร เฟรด เดไวลด์ (Fred Dewilde) ผู้รอดชีวิตจากการโจมตีก่อการร้ายที่โรงละครบาตาคลอง (Bataclan) ในกรุงปารีสเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2015 ได้สร้างความตกใจต่อประชามติ โดยก่อนหน้านั้น จิตรกร เฟรด เดไวลด์ (Fred Dewilde) เคยกล่าวหลายครั้งว่า เขาไม่สามารถทนความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจจากการโจมตีก่อการร้ายอีกต่อไป ถึงแม้เขาได้ทุ่มเทกับงานจัดทำหนังสือการ์ตูน 4 เล่มเพื่อเก็บรักษาความทรงจำเกี่ยวกับการโจมตีก่อการร้ายใส่โรงละครบาตาคลอง ก่อนกรณีฆ่าตัวตายของจิตรกร เฟรด เดไวลด์ ก็มีเหยื่ออีก 2 คนจากการเหตุก่อการร้ายที่โรงละครบาตาคลองฆ่าตัวตายเนื่องจากปัญหาทางจิตใจ
ตามคำกล่าวของนาย อันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุก่อการร้ายจำนวนมากต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้นตัวจากผลร้ายต่างๆ และหลายคนยังคงอยู่ในภาวะบาดเจ็บทางจิตใจอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ประชาคมระหว่างประเทศต้องรับฟัง “เสียงพูดแห่งสันติภาพ” ของผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้ และต้องมอบภารกิจให้พวกเขาในฐานะเป็นผู้สนับสนุนและให้ความรู้เกี่ยวกับสันติภาพที่กระตือรือร้นที่สุดเพื่อช่วยให้คนรุ่นต่อ ๆ ไปมีความเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบที่ร้ายแรงจากการก่อการร้าย
“การก่อการร้ายได้สร้างความเจ็บปวดที่ไม่อาจจินตนาการได้ ครอบครัวและชุมชนที่ถูกทำลายจากการก่อการร้ายจะถูกเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ดังนั้น การตระหนักได้ดีเกี่ยวกับความเจ็บปวดของเหยื่อเพื่อให้การศึกษาแก่ผู้อื่นจึงเป็นการกระทำที่กล้าหาญอย่างยิ่ง ดังนั้น นี่คือโอกาสที่จะกระตุ้นให้เรารับฟังและเรียนรู้”
 นาย อันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ (IRNA) |
ภัยคุกคามใหม่ๆ
วันสากลรำลึกผู้เคราะห์ร้ายจากการก่อการร้ายยังเป็นโอกาสเพื่อให้ประชาคมระหว่างประเทศหวนมองภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในโลกในช่วงนี้ ตามรายงานดัชนีการก่อการร้ายทั่วโลกหรือ Global Terrorism Index (GTI) ประจำปี 2024 การก่อการร้ายยังคงเป็นหนึ่งในภัยคุกคามระดับโลกที่ร้ายแรงที่สุด โดยเมื่อปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้าย 8,352 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับปี 2022 และเป็นการสูญเสียทางชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 ที่น่ากังวลกว่าคือ ตามรายงานของสหประชาชาติ ระดับของการทำลายล้างจากการโจมตีก่อการร้ายก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะ จำนวนเหยื่อที่เสียชีวิตจากการโจมตีก่อการร้ายเฉลี่ยเมื่อปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 56 เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ และเป็นอัตราสูงที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มที่น่ากังวลนี้ยังคงเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ด้วยการโจมตีที่นองเลือดของผู้ก่อการร้ายในอิหร่านเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 95 คนและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเกือบ 300 คน และเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่รัสเซียมีผู้เสียชีวิต 145 คนและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 500 คน
 นาย วลาดีเมียร์ โวรอนคอฟ รองเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติที่รับผิดชอบด้านการต่อต้านการก่อการร้าย (UN) |
ในการประชุมพิเศษของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม สหประชาชาติยังได้เตือนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มก่อการร้ายสังกัดกลุ่มไอเอสโดยเฉพาะ ในแอฟริกาตะวันตกและภูมิภาคซาเฮล นาย วลาดีเมียร์ โวรอนคอฟ รองเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติที่รับผิดชอบด้านการต่อต้านการก่อการร้ายได้เตือนว่า
“สถานการณ์การก่อการร้ายในแอฟริกาตะวันตกและภูมิภาคซาเฮลยังคงมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและเต็มไปด้วยท้าทาย กลุ่มผู้ก่อการร้ายต่งๆยังคงขยายตัวในภูมิภาคซาเฮลต่อไป และก่อให้เกิดความเสียหายอันใหญ่หลวง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในภูมิภาค สาขาของกลุ่มไอเอส 2 สาขาในภูมิภาคได้ขยายตัวและเพิ่มการเคลื่อนไหว ถ้าหากกลุ่มเหล่านี้ขยายอิทธิพลไปยังประเทศชายฝั่งแอฟริกาเหนือ พื้นที่ขนาดใหญ่ตั้งแต่มาลีไปจนถึงไนจีเรียตอนเหนืออาจตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มนี้”
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงหลายคนเห็นว่า การเคลื่อนไหวล่าสุดในแอฟริกาตะวันตกและภูมิภาคซาเฮลมีความเสี่ยงที่จะรื้อฟื้นสถานการณ์ที่กลุ่มไอเอสกลับมายึดครองดินแดนในซีเรียและภาคเหนือของอิรักเหมือนที่เคยปฏิบัติเมื่อ 10ปีก่อนและสร้างภัยคุกคามด้านความมั่นคงต่อภูมิภาค และสถานการณ์การปะทะที่บานปลายในวงกว้างในตะวันออกกลางในปัจจุบัน บวกกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองในบางประเทศในแอฟริกากำลังทำให้ความพยายามเพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าวทำได้ยากมากขึ้น.