(VOVworld)-ในการประชุมครั้งที่28สภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเมื่อเร็วๆนี้ ผู้เขียนรายงานพิเศษเกี่ยวกับเสรีภาพทางศาสนาและความเลื่อมใสของสหประชาชาติได้อ่านรายงานของการเยือนเวียดนามครั้งที่ผ่านมา ซึ่งถึงแม้จะยังมีการประเมินในบางส่วนที่ขาดภาวะวิสัยแต่รายงานก็ได้ยืนยันเรื่องที่ว่าเวียดนามได้มีความก้าวหน้าที่น่ายินดีในการค้ำประกันสิทธิเสรีภาพทางศาสนาและความเลื่อมใส

นาย  Heiner Beilefeldt ในการเยือนเวียดนามเร็วๆนี้ (VNN/Chung Hoang)

ในรายงานของตน นาย  Heiner Beilefeldt ผู้เขียนรายงานพิเศษของสหประชาชาติได้ชื่นชมความร่วมมือและการอำนวยความสะดวกให้แก่การปฏิบัติงานจากสำนักงานต่างๆของเวียดนามในตลอดเวลาอยู่เยือนเวียดนามรวมทั้งผลงานที่เวียดนามได้บรรลุในการผลักดันและปกป้องสิทธิเสรีภาพทางศาสนาในเวลาที่ผ่านมา

เสรีภาพทางศาสนาและความเลื่อมใส ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธในเวียดนาม

ผู้เขียนรายงานพิเศษเกี่ยวกับเสรีภาพทางศาสนาและความเลื่อมใสของสหประชาชาติได้ย้ำถึงรายละเอียดต่างๆจากสถานการณ์ที่เป็นจริงเกี่ยวกับเสรีภาพทางศาสนาและความเลื่อมใสของเวียดนามว่า มีตัวแทนศาสนาต่างๆได้ยอมรับว่าปัจจุบันเงื่อนไขในการปฏิบัติสิทธิเสรีภาพทางศาสนาในเวียดนามได้รับการอำนวยความสะดวกมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากศาสนสถานของหลายศาสนาและการเข้าร่วมการประกอบศาสนกิจของประชาชนที่นับถือศาสนาต่างๆได้เพิ่มมากขึ้นและเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าในหลายปีมานี้เวียดนามได้มีความพยายามเพื่ออนุรักษ์หรือฟื้นฟูพิธีกรรมทางศาสนาของชนกลุ่มน้อยต่างๆพร้อมทั้งยอมรับถึงความหลากหลายของพุทธสมาคมเวียดนาม โดยเฉพาะล่าสุดคือรัฐธรรมนูญเวียดนามฉบับปี2013ได้มี1บรรพระบุเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง ซึ่งในมาตราที่24ได้มีคำที่ระบุถึงเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพทางศาสนาและความเลื่อมใสคือคำว่า “ทุกคน” มิใช่จำกัดเพียงในกลุ่มเป้าหมายคือ “พลเมืองเวียดนาม”เหมือนในรัฐธรรมนูญปี1992 ซึ่งสิ่งนี้ก็ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงท่าทีที่เข้มแข็งต่อปัญหาดังกล่าว อีกอย่างคือ การที่เวียดนามได้ผ่านความเห็นชอบกฤษฎีกาว่าด้วยความเชื่อและศาสนาก็ได้แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าในการสร้างพื้นฐานทางนิตินัยให้แก่ชมรมศาสนาต่างๆ นอกจากนี้รายงานของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติยังระบุถึงจำนวนสถาบันฝึกอบรมผู้มีสมณศักดิ์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาพร้อมทั้งยืนยันว่า ศาสนาต่างๆสามารถแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้มีสมณศักดิ์ตามกฎระเบียบของศาสนานั้นๆ ส่วนตัวแทนของพุทธสมาคมและคริสต์สมาคมต่างๆได้เพิ่มการประกอบศาสนกิจตามเรือนจำต่างๆเพื่อเผยแผ่พระธรรม หลักคุณธรรมและสังคมให้แก่นักโทษ

เวียดนามพยายามร่วมมือกับนานาประเทศเพื่อผลักดันเสรีภาพทางศาสนาและความเลื่อมใส

ศาสนาในเวียดนามนั้นมีความหลากหลายโดยมีทั้งศาสนาของต่างประเทศที่ได้รับการเผยแผ่เข้าเวียดนามเช่น พุทธศาสนาและคริสต์ศาสนานิกายต่างๆ รวมทั้งศาสนาที่ถือกำเนิดขึ้นในเวียดนามเช่น ศาสนากาวด่าย หว่าหาว บ่าฮาย เป็นต้น ซึ่งช่วยให้บรรยากาศการประกอบศาสนกิจในเวียดนามนั้นมีความหลากหลายและมีชีวิตชีวาผ่านการจัดงานเทศกาลด้านความเลื่อมใสกว่า8พันรายการในทุกๆปี

จากทัศนะที่ถือความเลื่อมใสและศาสนาเป็นความต้องการอันชอบธรรมของมนุษย์ รัฐเวียดนามได้มีแนวทางการปฏิบัติการเคารพและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนทุกคนปฏิบัติสิทธิเสรีภาพทางศาสนา พร้อมทั้งยังให้ความสำคัญต่อนโยบายสามัคคีและปรองดองระหว่างศาสนาต่างๆ ค้ำประกันความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติเพราะความต่างทางศาสนาและความเลื่อมใสตลอดจนไม่เคยมีอันที่เรียกว่า “นักโทษแห่งจรรยาบรรณ” เพราะการลงโทษบุคคลใดๆนั้นล้วนแต่มีข้อหาละเมิดกฎหมายมิใช่เพราะเหตุผลด้านศาสนาหรือมีความคิดเห็นขัดแย้งทางการเมืองและทุกกรณีต่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ไม่เพียงแต่การให้ความเคารพและปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆของมนุษย์รวมทั้งสิทธิเสรีภาพทางศาสนาตามมาตรฐานสากลเท่านั้น รัฐบาลเวียดนามยังถือการเยือนเวียดนามของบรรดาผู้เขียนรายงานพิเศษฯของสหประชาชาติเป็นก้าวเดินเพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับกลไกต่างๆของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เป็นโอกาสให้พวกเขาศึกษาสถานการณ์ที่เป็นจริงเกี่ยวกับเสรีภาพทางศาสนาในเวียดนามส่วนหน่วยงานต่างๆ องค์กรการเมืองและสังคม รวมทั้งองค์กรศาสนาในเวียดนามจะถือโอกาสนี้ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น ประสบการณ์ บทเรียนและความท้าทายที่เวียดนามต้องเผชิญในด้านนี้ ดังนั้นการอำนวยความสะดวกให้บรรดาผู้เขียนรายงานพิเศษของสหประชาชาติได้ศึกษาสถานการณ์ที่เป็นจริงในเวียดนามในกรอบของสภาสิทธิมนุษยชนพร้อมทั้งมีการสนทนาอย่างเปิดเผยคือมาตรการที่มีประสิทธิภาพ สะท้อนให้เห็นถึงเจตนาที่ดีและความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมของเวียดนามกับนานาชาติเพื่อผลักดันการปฏิบัติสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะสิทธิเสรีภาพทางศาสนาและความเลื่อมใส./.