เวียดนามค้ำประกันบรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพสำหรับความร่วมมือและการพัฒนา

เวียดนามเป็นประชาชาติที่รักสันติภาพ มีเกียรติประวัติแห่งความเป็นมนุษย์และการปรองดองชาติ จากที่ต้องผ่านสงครามมาหลายครั้งเพื่อช่วงชิงเอกราชและรวมประเทศเป็นเอกภาพ เวียดนามเข้าใจคุณค่าของสันติภาพอย่างถ่องแท้ อีกทั้งรณรงค์ให้เพื่อนมิตรและประชาชนในทั่วโลกธำรงรักษา ปกป้องและพยายามสร้างโลกแห่งสันติภาพ

เกียรติประวัติแห่งความรักสันติภาพของประชาชาติเวียดนาม

เวียดนามมีเกียรติประวัติแห่งการต่อสู้ที่ทรหดกล้าหาญเพื่อต่อต้านศัตรูผู้รุกรานเพื่อปกป้องประเทศ ซึ่งสันติภาพคือความคาดหวังอันแรงกล้าของประชาชาติเวียดนามในทุกยุคทุกสมัย โดยในการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวของอินเดียเมื่อปี1954 ประธานโฮจิมินห์ได้เผยว่า เป้าหมายของตนคือ “ส่งเสริมสันติภาพ เอกภาพ เอกราชและประชาธิปไตยในทั่วประเทศ” ซึ่งเพื่อปฏิบัติเป้าหมายนี้ “เวียดนามพร้อมร่วมมืออย่างจริงใจกับองค์กรและชาวเวียดนาม รวมถึงผู้ที่สนับสนุนนโยบายดังกล่าว ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไรหรือมีความคิดทางการเมืองที่แตกต่างกันก็ตาม”

จากการต่อยอดแนวคิดสันติภาพของประธานโฮจิมินห์ บรรดาผู้นำเวียดนามได้ยืนยันร่วมแรงร่วมใจเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในโลกและมีความประสงค์ที่จะยุติการปะทะ ให้ความเคารพอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศ อีกทั้งย้ำถึงข้อความเกี่ยวกับการให้ความเคารพกฎหมายสากล กฎบัตรสหประชาชาติ การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีควรได้รับการส่งเสริมและปฏิบัติผ่านคำมั่นที่เป็นรูปธรรม เรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องแก้ไขการปะทะผ่านการสนทนาและการเจรจาเพื่อแสวงหามาตรการระยะยาว เวียดนามไม่เลือกฝ่ายใด หากเลือกความชอบธรรม ความยุติธรรม ความเที่ยงธรรมและมโนธรรม โดยในการประชุมกับคณะกรรมการพรรคสาขากระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 และการพัฒนาหน่วยงานการทูตเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้ชี้ชัดว่า

“เป้าหมายสูงสุดของงานด้านการต่างประเทศในยุคใหม่คือต้องค้ำประกันผลประโยชน์สูงสุดของประชาชาติเพื่อพรรคที่เข้มแข็งเพื่อประเทศเวียดนามที่ก้าวไปสู่สังคมนิยมอย่างเข้มแข็ง เจริญรุ่งเรือง มีบทบาทและสถานะที่สำคัญทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมระดับโลกเพื่อความอยู่ดีกินดีและความผาสุกของประชาชน การทูตเวียดนามต้องปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ รับใช้ประชาชนและทำการต่อสู้เพื่อสันติภาพ เอกราชประชาชาติ ประชาธิปไตย ความก้าวหน้าทางสังคมเพื่อการพัฒนาและเจริญรุ่งเรืองของทุกประชาชาติในภูมิภาคและโลก”

เวียดนาม: ปัจจัยที่สำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคและโลก

ปัจจุบัน สันติภาพไม่แค่ระบุถึงเอกราชประชาชาติ อธิปไตยเหนือดินแดนและความมั่นคงของชาติเท่านั้น หากอีกนัยหนึ่งก็คือบรรยากาศที่ยั่งยืน ความมั่นคงของมนุษย์ ความยุติธรรมทางสังคม การอยู่ร่วมกันเป็นอย่างดีและความเป็นมนุษย์ โดยในตลอดเกือบ 50 ปีที่เข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ เวียดนามได้มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อกิจกรรมขององค์กรนี้ เช่น การปฏิบัติหน้าที่เป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 2 ครั้ง เข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี2023 – 2025 เข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ เป็นต้น ซึ่งผลงานเหล่านี้ได้ยืนยันถึงบทบาทและเสียงพูดของเวียดนามที่นับวันได้รับการรับรองจากประชาคมโลกในการมีส่วนร่วมต่อสันติภาพและเสถียรภาพของโลก เอกอัครราชทูต ดั่งดิ่งกวี๊ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า

“คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติคือองค์กรเดียวที่มีหน้าที่รักษาสันติภาพและความมั่นคงโลก โดยมีมติที่มีข้อผูกมัดต่อทุกประเทศสมาชิก ซึ่งประเทศต่างๆล้วนมีความประสงค์ที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยเวียดนามได้มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสันติภาพและความมั่นคงโลก อีกทั้งปฏิบัติหน้าที่ประธานประจำเดือนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างลุล่วงไปด้วยดี โดยได้รับการชื่นชมจากประชาคมโลกเป็นอย่างมาก”

ทั้งนี้ สันติภาพคือความปรารถนาและความคาดหวังของประชาชนในทั่วโลก เป็นเป้าหมายของทุกกระบวนการและเป็นปัจจัยที่เชื่อมโยงประเทศต่างๆทั่วโลก การที่เวียดนามมีแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายเกี่ยวกับการค้ำประกันบรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพสำหรับความร่วมมือและการพัฒนา อีกทั้งมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อสันติภาพโลกดั่งการประเมินของนาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติว่า เวียดนามมีบทบาทสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและโลก.