( VOVworld )-สาระสำคัญประเด็นหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมครั้งที่ ๗ คณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ ๑๑ ณ กรุงฮานอยคือ การเปลี่ยนแปลงใหม่และขยายการนำของพรรคต่อการรณรงค์ประชาชนให้เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งได้รับความสนใจจากกระแสประชามติเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับการรณรงค์ประชาชนนั้น ท่านเหงวียนฟู้จ่องเลขาธิการใหญ่พรรคได้มีความคิดเห็นว่า การรณรงค์ประชาชนมีความหมายทางยุทธศาสตร์ต่อภารกิจการปฏิวัติของประเทศชาติตลอดมาและตลอดไป โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้นการรณรงค์ประชาชนยิ่งมีความสำคัญและไม่อาจมองข้ามได้ นายเหงวียนวันหุ่ง รองหัวหน้าคณะกรรมการรณรงค์ประชาชนส่วนกลางเห็นว่า การที่คณะกรรมการกลางพรรคให้ความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงใหม่การรณรงค์ประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบันและกำหนดมาตรการเพิ่มพลังอันแข็งแกร่งของการรณรงค์ประชาชนจะเป็นก้าวกระโดดให้งานด้านนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในเวลาข้างหน้า
นายหุ่งกล่าวว่า
“ การขยายการรณรงค์ประชาชนก็เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพรรคและประชาชนให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น การประชุมครั้งนี้กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับเป้าหมาย ทัศนคติ หน้าที่และมาตรการเพื่อขยายการรณรงค์ประชาชนของพรรคในสถานการณ์ใหม่ ซึ่งเป็นการกระทำที่จำเป็น ”
ปัญหาที่ต้องคำนึงถึงในการเปลี่ยนแปลงใหม่การรณรงค์ประชาชนในขณะนี้คือ นอกเหนือจากการปรับปรุงแนวทางและนโยบายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว ต้องเน้นปรับปรุงวิธีการรณรงค์ประชาชน โดยพรรคทุกสาขาและทางการท้องถิ่นต้องรู้จักระดมสติปัญญาของประชาชนเพื่อรวมอยู่ในกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติเพื่อให้ประชาชนแต่ละคนเป็นอาสาสมัครในการรณรงค์คนอื่นๆ ทั้งนี้จะช่วยเพิ่มความเป็นประชาธิปไตย ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่ทำหน้าที่รณรงค์ประชาชนกับเจ้าหน้าที่ สมาชิกพรรคและประชาชน อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพของการรณรงค์ มหาบัณฑิตย์ฝ่ามถิ่ญือกวิ่ง อาจารย์คณะรณรงค์ประชาชน สถาบันรัฐศาสตร์เหง่อานได้กล่าวถึงการเพิ่มคุณภาพของแถวขบวนเข้าหน้าที่ปฏิบัติการรณรงค์ประชาชนว่า “ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในปัจจุบันคือ ความรับผิดชอบของแถวขบวนเจ้าหน้าที่ในการรับใช้ประชาชน โดยเริ่มตั้งแต่แถวขบวนเจ้าหน้าที่ที่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับประชาชนคือ พรรคสาขาพื้นฐานและทางการท้องถิ่นระดับพื้นฐานตลอดจนคณะผู้บริหารพรรคระดับพื้นฐานต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ”
ส่วนนายเจืองกวางเดือกอดีตรองประธานรัฐสภาเห็นว่า ต้องปฏิบัติตามคำสั่งสอนของประธานโฮจิมินห์เกี่ยวกับการรณรงค์ประชาชนคือ พูดแล้วต้องปฏิบัติทันที ซึ่งเป็นเข็มทิศให้แก่การรณรงค์ประชาชนในทุกสภาวการณ์ โดยในขณะนี้ การรณรงค์ประชาชนต้องแก้ไขปัญหาที่เดือดร้อนของสังคมไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ใช้แรงงานและเกษตรกร การลดความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาระหว่างตัวเมืองกับชนบทและความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการปฏิบัติแนวทางและนโยบายของพรรคและรัฐให้เข้าสู่ชีวิตอย่างรวดเร็วมากขึ้น นายเจืองกวางเดือกชี้ชัดว่า “ รณรงค์คือคำกิริยาหมายถึงการปฏิบัติ หากไม่ปฏิบัติจะไม่มีการรณรงค์ โดยเราต้องเข้าถึงนโยบายและแนวทางด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้และมีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับประชาชน ระดับพื้นฐานและเหมาะกับสถานการณ์เพื่อสะท้อนสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างจริงจัง อีกทั้งมีการพบปะกับเจ้าหน้าที่และประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อเข้าใจชีวิตความเป็นอยู่และจิตใจของพวกเขา ”
การขยายและเปลี่ยนแปลงใหม่การนำของพรรคต่อการรณรงค์ประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบันจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อพรรค ขยายความสามัคคีชนในชาติและความสัมพันธ์แบบเลือดเนื้อระหว่างพรรคกับประชาชน ตลอดจนส่งเสริมพลังอันแข็งแกร่งของประชาชนเพื่อสร้างเป็นขบวนการปวงชนอันกว้างใหญ่ในการสร้างสรรค์และปกป้องประเทศ รวมถึงการปฏิบัติภารกิจพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยให้ประสบความสำเร็จ ./.