นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ประกาศผลการสรุปกึ่งวาระของแผนแบบบูรณาการประชาคมอาเซียนปี 2025 (cand.com.vn) |
การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดวิกฤตด้านสาธารณสุขเท่านั้น หากยังสร้างวิกฤตเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งไม่มีประเทศใดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ประเทศต่างๆได้แสดงให้เห็นถึงพลังที่เข้มแข็ง ความยืดหยุ่นและความสามารถในการเปลี่ยนแปลงใหม่ ซึ่งอาเซียนได้เป็นตัวอย่างในเรื่องดังกล่าวเนื่องจากมีปฏิบัติการที่รวดเร็วด้วยความมุ่งมั่นทางการเมืองในระดับสูงสุด
อนุมัติกรอบการฟื้นฟูอาเซียนแบบบูรณาการ
กรอบการฟื้นฟูอาเซียนแบบบูรณาการและแผนการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมเน้นถึง 3 ระยะหลัก ประกอบด้วย การเปิดประเทศอีกครั้ง การฟื้นตัว และการพึ่งพาตนเอง
ซึ่งตามนั้น แผนการรักษาเสถียรภาพการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน การผลักดันการเชื่อมโยงและการฟื้นฟูการแลกเปลี่ยนการค้าในภูมิภาคกำลังได้รับการผลักดันอย่างเร่งด่วน อาเซียนได้สร้างกรอบการเดินทางที่ปลอดภัยสำหรับนักธุรกิจและนักลงทุนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ยังคงเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยก่อนอื่น อาเซียนอาจพิจารณาการเปิดช่องทางเฉพาะสำหรับพลเมืองอาเซียนอีกครั้งที่จุดผ่านแดน ซึ่งความมุ่งมั่นนี้ได้รับการยืนยันโดยนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ประธานอาเซียน 2020 ในการเปิดการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37 “พวกเราต้องผลักดันมาตรการสนับสนุนสถานประกอบการในการฟื้นฟูการผลิต การประกอบธุรกิจและการทำมาหากินของประชาชน สภาประชาคมอาเซียนเร่งจับมือกันเพื่อปฏิบัติกรอบการฟื้นฟูอาเซียนแบบบูรณาการและแผนการปฏิบัติทันทีหลังการประชุม เพื่อมีส่วนร่วมกำหนดโครงสร้างโลกหลังโควิด-19 อาเซียนต้องกำหนดสถานะของตนในการแลกเปลี่ยนอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศต่างๆ ตลอดจนการปรับปรุงห่วงโซ่การผลิตและอุปทานทั่วโลก ข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่อาเซียนมีนั้นจำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมด้วยการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงมาช่วยสนับสนุน ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสูง ตลอดจนความสามารถในเพิ่มความหลากหลายของตลาดนำเข้าและส่งออก”
พร้อมกับการอนุมัติกรอบฟื้นฟูอาเซียนแบบบูรณาการและแผนปฏิบัติการ บรรดาผู้นำอาเซียนได้จัดตั้งคลังสำรองอุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉินระดับภูมิภาคอย่างเป็นทางการและผลักดันการเปิดใช้กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือโควิด-19 เพื่อสนับสนุนการต่อต้านการแพร่ระบาดของภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมาตรการเหล่านี้ได้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ฟื้นฟูห่วงโซ่อุปทานและการบริการของอาเซียนให้มีความยั่งยืนทั้งในระยะกลางและระยะยาว
อาเซียนเห็นพ้องที่จะจัดตั้งคลังสำรองอุปกรณ์การแพทย์เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (cand.com.vn) |
RCEP สร้างพลังที่เข้มแข็งให้แก่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาเซียน
ที่ประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37 ยังแปรการปฏิบัติข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ RCEP ให้กลายเป็นความจริงด้วยการเสร็จสิ้นการเจรจาและการลงนาม โดย RCEP เป็น 1 ใน 13 เป้าหมายที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของอาเซียน 2020 ซึ่งทุกประเทศให้ความสนใจและเน้นแหล่งพลังในระดับสูงสุดเพื่อเสร็จสิ้นการเจรจาและนำไปสู่การลงนาม
ตามความเห็นของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เหงียนก๊วกหยุง หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-เวียดนาม RCEP จะเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การฟื้นตัวและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอาเซียนหลังวิกฤตโควิด-19 และเมื่อมีผลบังคับใช้ RCEP จะทำให้เกิดเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดโดยมีจีดีพีกว่า 2 หมื่น 8 พัน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 32.7 ของจีดีพีโลก การลงนาม RCEP เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่เข้มแข็งเกี่ยวกับเสรีภาพด้านการค้าและการเชื่อมโยงของอาเซียนและหุ้นส่วนต่างๆ “ประเทศที่เกี่ยวข้องได้ใช้เวลาหลายปีในการเจรจาเกี่ยวกับ RCEP ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ข้อตกลงนี้มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อภูมิภาค โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่โลกกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การลงนาม RCEP จะสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่และก้าวกระโดดใหม่ให้แก่การพัฒนาการค้าในภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศที่เข้าร่วม รวมทั้งเวียดนามซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปี 2020 และประเทศที่มีส่วนช่วยให้บรรลุข้อตกลงเพื่อนำไปสู่การลงนาม RCEP”
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เหงียนก๊วกหยุง หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-เวียดนาม (baoquocte.vn) |
ในภาพรวมที่หลากหลายสีสันของโลกนั้นได้ปรากฎจุดเด่นด้านความร่วมมือในการรับมือความท้าทายต่างๆในเอเชียแปซิฟิกด้วยบทบาทเป็นผู้เดินหน้าของอาเซียน ในปี 2020 ประเทศอาเซียนได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายต่างๆและคำมั่นที่เข้มแข็งทางการเมืองในการประชุมครั้งนี้จะเป็นแนวทางเพื่อให้อาเซียนมีปฏิบัติการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19และผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้สำเร็จ. /.