(VOVworld)-รายงานสถานการณ์การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของรัฐบาลที่รองนายกฯเหงวียนซวนฟุกได้เสนอในนัดเปิดประชุมรัฐสภาเมื่อเช้าวันที่20พฤษภาคมได้แสดงให้เห็นสัญญาณที่น่ายินดีในการพัฒนาเศรษฐกิจช่วง4เดือนต้นปีนี้ ซึ่งในรายงานยังได้ชี้ชัดถึง7หน้าที่หลักที่รัฐบาลจะเน้นปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายที่รัฐสภาได้วางไว้
ตามรายงานนี้ ตั้งแต่ต้นปีรัฐบาลได้ประกาศใช้และเน้นชี้นำการปฏิบัติมติ01เกี่ยวกับหน้าที่และมาตรการสำคัญในการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและร่างงบประมาณแผ่นดินปี2014ที่เน้นความสนใจค้ำประกันเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค แก้ไขอุปสรรคในการผลิตประกอบธุรกิจ รักษาสวัสดิการสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
เศรษฐกิจสังคมช่วงต้นปีมีสัญญาณที่น่ายินดี
โดยผลที่ได้รับจากการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมปี2014คือเศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพมากขึ้น สามารถรักษาความสมดุลของเศรษฐกิจในเบื้องต้น ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ0.88เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปี2013 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ4ปีที่ผ่านมา ราคาสินค้าในตลาดมีเสถียรภาพ อัตราดอกเบี้ยธนาคารลดลงอย่างต่อเนื่อง อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรามีความมั่นคง ในการประเมินการปฏิบัติเป้าหมายการขยายตัว รองนายกฯเหงวียนซวนฟุกเผยว่า“ยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีไตรมาสแรกของปี2014เพิ่มขึ้นร้อยละ4.96 สูงกว่าช่วงเดียวกันของสองปีที่แล้ว การขยายตัวภาคการเกษตร ป่าไม้ สัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการก่อสร้างและการบริการอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในช่วง4เดือนที่ผ่านมามีสถานประกอบการ27แห่งได้รับการปฎิรูปเป็นบริษัทหุ้นส่วน สถานประกอบการ12แห่งติดประกาศหุ้นครั้งแรกในตลาด การปฏิรูปในภาคธนาคารพาณิชย์ที่ขาดประสิทธิภาพบรรลุผลงานที่เข้มแข็ง การปฏิรูปการเกษตรควบคู่กับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ก็เกิดประสิทธิผล”
ในด้านวัฒนธรรมสังคม สามารถสร้างงานทำใหม่กว่า4แสน8หมื่นตำแหน่งเพิ่มขึ้นร้อยละ2.4เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี2013 รัฐบาลก็ได้ชี้นำการแก้ไขปัญหาและลงโทษผู้ที่ฉวยโอกาสจัดการชุมนุมประท้วงจีนที่ตั้งแท่นขุดเจาะอย่างผิดกฎหมายในไหล่ทวีปและเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนามซึ่งมีการทำลายทรัพย์สินทางราชการและสถานประกอบการต่างๆโดยเฉพาะสถานประกอบการต่างประเทศรวมทั้งขัดขวางเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ซึ่งจนถึงขณะนี้สถานการณ์ได้กลับสู่ภาวะปกติและและสถานประกอบการต่างๆก็กลับมาดำเนินการต่อไป
7หน้าที่หลักที่ต้องเน้นปฏิบัติ
ในสภาวการณ์ที่การฟื้นฟูการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามกำลังเป็นไปอย่างล่าช้า ความต้องการด้านการลงทุนพัฒนาและการรักษาสวัสดิการสังคมต่างๆมีสูงมากแต่แหล่งพลังที่ตอบสนองยังมีจำกัด ความมั่นคงทางการเมือง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคมและการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนแห่งชาติกำลังเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ รัฐบาลจึงได้กำหนดหน้าที่หลักที่ต้องให้ความสนใจปฏิบัติคือรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค“ต้องบริหารนโยบายการเงินอย่างคล่องตัว ประสานอย่างแน่นแฟ้นกับนโยบายการเงินและนโยบายอื่นๆเพื่อปรับเสถียรภาพของเศรษฐกิจและค้ำประกันการขยายตัวในระดับที่เหมาะสม ควบคุมราคาตลาดอย่างคล่องตัวเพื่อรักษาค่าเงินด่งของเวียดนามและเพิ่มเงินสำรองระหว่างประเทศ ปฏิบัติมาตรการที่สอดคล้องกับการพัฒนาของตลาดหุ้น เพิ่มประสิทธิภาพการระดมเงินทุนให้แก่สถานประกอบการ ค้ำประกันอัตรางบประมาณขาดดุลในกรอบที่รัฐสภากำหนด ควบคุมหนี้สาธารณะ หนี้รัฐบาลและหนี้ต่างประเทศให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย”
ควบคู่กับการตรวจสอบ ปรับปรุงและปฏิบัตินโยบายต่างๆอย่างพร้อมเพรียงเพื่อรักษาสวัสดิการสังคมในเวลาต่อไป เวียดนามต้องผลักดันการบริหารทรัพยากร อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
รองนายกฯเหงวียนซวนฟุกได้เสนอรายงานของรัฐบาลในนัดเปิดประชุมรัฐสภา
|
เกี่ยวกับการปฏิบัติรัฐธรรมนูญ2013 รัฐบาลจะเน้นการร่างกฎหมายโครงสร้างกลไกรัฐบาลฉบับแก้ไข กฎหมายโครงสร้างองค์กรทางการปกครองท้องถิ่น ค้ำประกันคุณภาพการประกาศใช้เอกสารกฎหมายต่างๆ ในด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคมและยกระดับประสิทธิภาพงานด้านการต่างประเทศและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก รองนายกฯเหงวียนซวนฟุกยืนยันว่า“ต้องปฏิบัติมาตรการปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติในทะเลตะวันออกอย่างสันติบนพื้นฐานกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982และแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี กระชับการประชาสัมพันธ์สร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และการสนับสนุนจากประชามติทั้งในและต่างประเทศ ป้องกันและแก้ไขปัญหาการละเมิดกฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม ปฏิบัติมาตรการที่จำเป็นตามกฎหมายและพันธกรณีของเวียดนามในกรอบระหว่างประเทศ รักษาความปลอดภัยให้แก่สำนักงาน สถานประกอบการและชาวต่างชาติในเวียดนาม”
รายงานของรัฐบาลได้สรุปว่าในสภาวการณ์ที่ประเทศต้องประสบกับอุปสรรคและความท้าทายนานัปการ หน้าที่ที่ทั้งประเทศต้องปฏิบัติในช่วงเวลาที่เหลือนั้นถือว่าหนักหน่วงมาก ซึ่งต้องการความตั้งใจอันแน่วแน่ ความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและความเห็นพ้องต้องกันทั้งด้านจิตสำนึกและการปฏิบัติของทั้งระบบการเมือง กองทัพและประชาชนทุกภาคส่วนรวมทั้งชมรมสถานประกอบการภายใต้การนำของพรรคเพื่อสร้างก้าวเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นในทุกแขนงงานและมุ่งปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมปี2014ให้ประสบความสำเร็จ./.