“สเตทออฟเดอะยูเนียน” สร้างความได้เปรียบให้แก่พรรคเดโมแครต

Hong Van/VOV
Chia sẻ

(VOVworld) –ในสุนทรพจน์ “สเตทออฟเดอะยูเนียน” ฉบับสุดท้ายในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐที่นายบารัค โอบามาได้อ่านต่อสภาคองเกรสส์เมื่อเช้าวันที่ 13 มกราคมตามเวลาเวียดนาม นั้นนอกจากได้ย้ำถึงผลสำเร็จในสองวาระที่ผ่านมาพร้อมทั้งความท้าทายที่สหรัฐจะต้องเผชิญในอนาคตแล้วนายโอบามาก็ไม่ลืมที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างจุดได้เปรียบให้แก่พรรคเดโมแครตในศึกชิงตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาวสมัยต่อไป


(VOVworld) –ในสุนทรพจน์ “สเตทออฟเดอะยูเนียน” ฉบับสุดท้ายในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐที่นายบารัค โอบามาได้อ่านต่อสภาคองเกรสส์เมื่อเช้าวันที่ 13 มกราคมตามเวลาเวียดนาม นั้นนอกจากได้ย้ำถึงผลสำเร็จในสองวาระที่ผ่านมาพร้อมทั้งความท้าทายที่สหรัฐจะต้องเผชิญในอนาคตแล้วนายโอบามาก็ไม่ลืมที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างจุดได้เปรียบให้แก่พรรคเดโมแครตในศึกชิงตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาวสมัยต่อไป

“สเตทออฟเดอะยูเนียน” สร้างความได้เปรียบให้แก่พรรคเดโมแครต - ảnh 1
“สเตทออฟเดอะยูเนียน”ถือเป็นจุดเด่นในชีวิตทางการเมืองของสหรัฐช่วงต้นปี2016(AFP)

สุนทรพจน์ “สเตทออฟเดอะยูเนียน” ปี2016ของนายบารัค โอบามาประธานาธิบดีสหรัฐถือเป็นจุดเด่นของชีวิตทางการเมืองสหรัฐในช่วงต้นปี และเป็นการกำหนดกรอบระเบียบการดำเนินงานของทางการและของพรรคเดโมแครตจากนี้ ไปจนถึงวันจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี2016 ดังนั้นนอกจากได้ย้ำถึงผลสำเร็จในสองวาระที่ผ่านมาแล้วยังมีการตั้งคำถาม ใหญ่ที่ประเทศสหรัฐต้องหาคำตอบในอนาคตซึ่งได้สร้างความสนใจเป็นอย่างยิ่งจาก ทั้งชาวสหรัฐและประเทศอื่นๆทั่วโลก
ย้ำอีกครั้งถึงคำมั่นในการหาเสียงเมื่อปี2008

ในสุนทรพจน์ “สเตทออฟเดอะยูเนียน” 2016 นายโอบามาได้ย้ำอีกครั้งถึงคำขวัญที่ว่า “การเปลี่ยนแปลง”ที่เขาได้ใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี2008 โดยกล่าวว่าในกว่า7ปีที่ผ่านมาประเทศสหรัฐได้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน นั่นคือเศรษฐกิจของสหรัฐสามารถฝ่าวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ช่วงปี2007-2009ซึ่งเป็นช่วงที่เขาเพิ่งรับตำแหน่งใหม่ๆได้อย่างมั่นคง และจนถึงปัจจุบัน จีดีพีปี2015ก็ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ2 ซึ่งนับเป็นผลสำเร็จที่สำคัญที่สุดของประธานาธิบดีโอบามา เพราะการขยายตัวนี้ได้ช่วยให้สหรัฐมีความมั่นใจในการปรับขึ้นดอกเบี้ยภายหลังคงไว้ในอัตราเกือบ๐%ในรอบ7ปี  มีการสร้างงานทำใหม่อีก14ล้านตำแหน่งส่วนอัตราคนว่างงานลดจากร้อยละ10ในปี2009ลงเหลือร้อยละ5ในปัจจุบัน ชาวอเมริกันที่ได้รับประกันสาธารณสุขนับวันเพิ่มมากขึ้นและเด็กๆที่ได้เข้าถึงโอกาสการศึกศาก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ควบคู่กับการย้ำถึงผลสำเร็จในวาระที่ผ่านมานายโอบามายังสอดแทรกเป้าหมายที่สหรัฐจะมุ่งถึงในอนาคตไปพร้อมกันและนี่ก็เป็นเป้าหมายที่ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยต่อไปจากพรรคเดโมแครตมุ่งถึง ในด้านการเมืองและการเลือกตั้ง นายโอบามาได้ย้ำว่าสหรัฐต้องจำกัดอิทธิพลทางการเงินต่อภาคการเมืองพร้อมทั้งตำหนิระบบการเมืองว่ากำลังสร้างเงื่อนไขที่สะดวกให้แก่ผู้ที่มีเงินและมีอำนาจ ซึ่งนายโอบามาได้กล่าวว่าอนาคตของสหรัฐจะสามารถไปถึงจุดมุ่งหมายตามความคาดหวังได้ถ้าหากได้รับความร่วมมือโดยเรียกร้องให้รัฐสภาให้ความร่วมมือในการให้สัตยาบันข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพี ปิดเรือนจำทางทหารของสหรัฐในอ่าวกวนตานาโม ยกเลิกนโยบายคว่ำบาตรคิวบา ผลักดันการปฏิบัติข้อตกลงทางการเมืองให้แก่ปัญหาซีเรีย ปฏิบัติข้อตกลงปารีสว่าด้วยปัญหาโลกร้อนตลอดจนปฏิบัติข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านที่บรรลุเมื่อเดือนกรกฎาคมปี2015

มีนัยแฝงตำหนิผู้ลงสมัครจากพรรครีพับลิกัน

ในสุนทรพจน์ “สเตทออฟเดอะยูเนียน” ประธานาธิบดีสหรัฐไม่แสดงการสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครตอย่างชัดเจนแต่กลับแสดงท่าทีคัดค้านที่มุ่งเป้าไปที่ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรครีพับลิกันโดยเฉพาะส.ว. เท็ด ครุซ และมหาเศรษฐีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเห็นว่าเมื่อนักการเมืองได้ดูหมิ่นคนมุสลิมและเมื่อสุเหร่าแห่งใดถูกทำลายก็ไม่ทำให้ประเทศสหรัฐมีความปลอดภัยมากขึ้น “นั่นคือการกระทำที่ผิดพลาดที่ทำให้เราเสียชื่อในสายตาประชาคมระหว่างประเทศ ทำให้เรายากที่จะปฏิบัติเป้าหมายต่างๆและขัดกับคุณค่าที่สหรัฐได้สร้างไว้ เราต้องปัดปฏิเสธรูปแบบการเมืองที่มุ่งเป้าไปยังคนอื่นที่ต่างศาสนาและชนชาติ”

สำหรับคำเรียกร้องผลักดันการโจมตีองค์การก่อการร้ายรัฐอิสลามหรือไอเอสโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ของส.ว.เท็ด ครุซ  ประธานาธิบดีโอบามาได้ตำหนิว่า “คำพูดแบบนี้มีแต่จะสร้างความประทับใจเมื่อออกโทรทัศน์เท่านั้นส่วนในเวทีระหว่างประเทศก็เป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย ต้องมีปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมมากกว่าการใช้คำพูดที่แข็งกร้าวหรือการเรียกร้องโจมตีทิ้งระเบิดใส่ประชาชนซีเรีย” นอกจากนั้นนายโอบามาก็ไม่เห็นด้วยกับจุดยืนของนักการเมืองพรรครีพับลิกันหลายคนที่ว่าผู้อพยพเข้าเมืองทำให้ประเทศสหรัฐประสบความลำบากทางเศรษฐกิจ

ประชามติตอบรับอย่างเข้มแข็ง

ตามผลการสำรวจของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นที่ประกาศในวันที่14มกราคม สุนทรพจน์ “สเตทออฟเดอะยูเนียน”ฉบับสุดท้ายของนายโอบามาได้รับการชื่นชมเมื่อเทียบกับฉบับก่อนๆ โดยผู้ที่เข้าร่วมการสำรวจร้อยละ53ตอบรับอย่างเข้มแข็งและความเห็นส่วนใหญ่ยืนยันว่านโยบายต่างๆที่นายโอบามาได้เสนอจะนำประเทศสหรัฐเดินถูกทิศทาง ซึ่งสิ่งนี้ขัดกับการตำหนิจากพรรครีพับลิกันที่เห็นว่านี่คือบทปราศรัยที่ใช้คำเก่าๆไม่น่าสนใจ ไม่สามารถที่จะวางมาตรการที่เป็นรูปธรรมให้แก่ปัญหาที่คั่งค้างของสหรัฐได้

อย่างไรก็ตามสุนทรพจน์ “สเตทออฟเดอะยูเนียน”ถือเป็นจุดเด่นในชีวิตทางการเมืองของสหรัฐช่วงต้นปี2016 โดยนายโอบามาได้พยายามอย่างเต็มที่ในการใช้โอกาสนี้เพื่อสื่อถึงแผนปฏิบัติการของรัฐบาลและพรรคเดโมแครตจากนี้ไปจนถึงวันจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี2016 อันเป็นการสร้างความได้เปรียบให้แก่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคเดโมแครต.

คำติชม