การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 79 (Photo: THX/TTXVN) |
ก่อนสัปดาห์ผู้นำสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 79 ผู้นำหลายประเทศได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดแห่งอนาคตของสหประชาชาติในระหว่างวันที่ 22 -23 กันยายนและอนุมัติสนธิสัญญาอนาคต โดยกำหนด 56 คำมั่นเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในทศวรรษที่จะถึง นี่ถือเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่สัปดาห์ผู้นำสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 79 ในสภาวการณ์ที่บทบาทการค้ำประกันสันติภาพและความมั่นคงในโลกของสหประชาชาติกำลังถูกตั้งคำถาม
ความไม่ความมั่นคงในโลก
ในขณะที่กิจกรรมการทูตระดับสูงแรกๆมีขึ้นในนครนิวยอร์ก โลกต้องเผชิฐกับความเสี่ยงที่จะเกิดการสงครามครั้งใหม่ โดยในภูมิภาคตะวันออกกลาง สถานการณ์การปะทะระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนนับวันรุนแรงมากขึ้น ซึ่งทำให้ทั้งสองฝ่ายเตรียมเข้าสู่สงครามในทุกด้าน ซึ่งการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลใส่ภาคใต้ของเลบานอนเมื่อวันที่ 23 กันยายน ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 500 คน ซึ่งเป็นวันที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดในเลบานอนนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองในช่วงปี 1975 -1990 ในประเทศนี้ ก่อนหน้านั้น 1 วัน กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ประกาศเปิดการโจมตีที่ไม่มีที่สิ้นสุดกับอิสราเอล ในสภาวการณ์ที่การปะทะระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซายืดเยื้อมาเป็นเวลาเกือบ 1 ปี ซึ่งยังไม่มีสัญญาณที่จะสิ้นสุดลงและมีความเสี่ยงที่การปะทะระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นพันธมิตรและมีศักยภาพที่แข็งแกร่งมากกว่ากลุ่มฮามาสหลายเท่าอาจทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลางตกเข้าสู่สงครามในทุกด้านที่ดุเดือดมากขึ้น
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลางทำให้ความต้องการเกี่ยวกับบทบาทการค้ำประกันสันติภาพ ความมั่นคงในโลกของสหประชาชาติมีความเร่งด่วนมากขึ้น นับตั้งแต่เกิดการปะทะในฉนวนกาซาเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วมาจนถึงการปะทะในภาคใต้ของเลบานอน ได้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์เกือบ 5 หมื่นคนเสียชีวิต ซึ่งในนั้น 2 ใน 3 เป็นสตรีและเด็ก แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากกิจกรรมการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแล้ว สหประชาชาติยังประสบอุปสรรคในการส่งเสริมและปฏิบัติมาตรการทางการเมืองเพื่อยุติการปะทะ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในการปะทะในยูเครนที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี ซึ่งตัวแทนของหลายประเทศสมาชิกสหประชาชาติเห็นว่า ปัจจัยที่นำไปสู่ความชะงักงันนี้คือกลไกการดำเนินงานที่ไม่เหมาะสมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดย 5 ประเทศสมาชิกถาวรได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ รัสเซียและจีนมีสิทธิวีโต้ ดังนั้น การปฏิรูปสหประชาชาติ โดยเฉพาะคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเป็นปัญหาที่เร่งด่วน นาย กาบริเอล โบริก ประธานาธิบดีชิลีได้ประกาศว่า
“เรากำลังอยู่ในปี 2024 ไม่ใช่ปี 1945 พวกเราเคยเห็นบางประเทศใช้สิทธิวีโต้เพื่อปฏิเสธมติ เนื่องจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่โลกนี้ได้เปลี่ยนแปลง ประเทศเหล่านี้ไม่ควรมีสิทธิวีโต้และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่ใช่เป็นตัวแทนของโลกปัจจุบัน”
ส่วนนาย Hakan Fidan รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกียังเห็นว่า ต้องเพิ่มอำนาจของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีประเทศสมาชิกสหประชาชาติทั้งหมดแทนที่จะรวมศูนย์อำนาจในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเท่านั้น
นาย ฉู ตงหยู ผู้อำนวยการอ FAO (Photo: Xinhua) |
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นอกจากความต้องการที่เร่งด่วนเกี่ยวกับการปฏิรูปสหประชาชาติเพื่อผลักดันการปฏิบัติภาระหน้าที่ที่สูงสุดคือค้ำประกันสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สัปดาห์ผู้นำสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 79 ยังต้องหารือเกี่ยวกับความท้าทายต่างๆในโลก โดยเฉพาะคำมั่นเกี่ยวกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพูมิอากาศของประเทศต่างๆและกระบวนการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนจนถึงปี 2030 ของสหประชาชาติ สำหรับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ สัปดาห์ผู้นำสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 79 เป็นกิจกรรมทางการทูตระดับสูงสุดท้ายก่อนการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือ COP ครั้งที่ 29 ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ณ ประเทศอาเซอร์ไบจาน ดังนั้น ประเทศต่างๆต้องบรรลุความเห็นพ้องเกี่ยวกับเป้าหมายต่างๆอันทะเยอทะยานกว่า เช่น ข้อตกลงการเงินโลกฉบับใหม่แทนคำมั่นเกี่ยวกับการสงวนเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีที่จะหมดอายุในปีหน้า กระบวนการยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ความต้องการปฏิบัติคำมั่นต่างๆที่ประเทศต่างๆเสนอในเอกสารการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด หรือ NDC ที่จะยื่นเสนอต่อสหประชาชาติในต้นปีหน้า
สำหรับการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนจนถึงปี 2030 สหประชาชาติต้องสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ประเทศสมาชิกในสภาวการณ์ที่การปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนกำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่ความมั่นคงและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นาย ฉู ตงหยู ผู้อำนวยการองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO ได้เผยว่า
“โลกกำลังต้องเผชิญกับสถานการณ์ความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการที่น่ากังวล เมื่อปีที่แล้ว ประชาชนกว่า 730 ล้านคนในโลกต้องเผชิญกับปัญความอดอยากหิวโหยและประชาชน 2. 3 พันล้านคนอยู่ในภาวะของความไม่มั่นคงด้านอาหาร มีความเป็นไปได้ที่พวกเราจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนใดๆและกำลังเกิดความไม่เสมอภาคในหลายด้าน เช่น รายได้ เพศ การเข้าถึงทรัพย์สินและโอกาส”
ความร่วมมือใต้-ใต้ระหว่างประเทศที่กำลังพัฒนายังเป็นหัวข้อใหญ่ที่น่าสนใจของสัปดาห์ผู้นำสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 79 ในสภาวการณ์ที่ประเทศที่กำลังพัฒนามีเสียงพูดที่มีบทบาทมากขึ้นในปัญหาระหว่างประเทศ ในวันแรกของสัปดาห์ผู้นำสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 79 ได้มีการจัดการพบปะทวิภาคีระหว่างประเทศที่กำลังพัฒนาต่างๆ โดยบรรลุข้อตกลงความร่วมมือในหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การค้า พลังงานและเทคโนโลยี.