ร่วมกันปฏิบัติ สร้างสรรค์อนาคตที่สันติและเจริญรุ่งเรือง

Huyền – Hiếu
Chia sẻ
(VOVWORLD) -  การประชุมสุดยอดแห่งอนาคตและกิจกรรมที่สำคัญฯ ในกรอบสัปดาห์ผู้นำสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 7ได้เปิดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐเมื่อวันที่ 22 กันยายน เลขาธิการพรรค ประธานประเทศเวียดนาม โตเลิม พร้อมบรรดาผู้นำประเทศ องค์กรระหว่างประเทศและภูมิภาค ตัวแทนขององค์การ NGO นักวิทยาศาสตร์ การเงินและสถานประกอบการเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก 
ร่วมกันปฏิบัติ สร้างสรรค์อนาคตที่สันติและเจริญรุ่งเรือง - ảnh 1ภาพการประชุม

ในการนี้ ท่านเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนามจะกล่าวปราศรัยที่ยืนยันสารของเวียดนามว่า จะมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพต่อความพยายามร่วมเพื่อสร้างสรรค์โลกแห่งสันติภาพ การพัฒนาที่ยุติธรรมเพื่อชีวิตที่อิ่มหนำผาสุกของมนุษยชาติ

การประชุมสุดยอดแห่งอนาคตได้มีขึ้นภายใต้หัวข้อ มาตรการแก้ไขพหุภาคีเพื่ออนาคตที่ดีงามมากขึ้นโดยมีผู้นำจาก 130 ประเทศเข้าร่วม จากเนื้อหาที่จะได้รับการหารือในการประชุมครั้งนี้ คาดว่า ประเทศสมาชิกจะอนุมัติข้อตกลงเพื่ออนาคต ซึ่งเป็นเอกสารที่จะช่วยผลักดันความร่วมมือในทั่วโลกและรับมือความท้าทายต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและคนรุ่นหลัง

ผลประโยชน์ของมนุษย์ต้องเป็นศูนย์กลาง

ในการกล่าวปราศรัยในการประชุมครบวงนัดแรก เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้กล่าวว่า สติปัญญาของมนุษย์ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงโลกและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แต่มนุษย์ก็เป็นผู้ที่ก่อให้เกิดความท้าทายต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพพูมิอากาศ โรคระบาด การสูญเสียทรัพยากรและการผลิตอาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างสูง เป็นต้น ดังนั้น การคัดเลือกในปัจจุบันจะช่วยกำหนดอนาคต ซึ่งต้องถือเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลกและผลประโยชน์ของมนุษย์เป็นศูนย์กลางและเป็นเป้าหมายสูงสุด

“ จากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลกและผลประโยชน์ของมนุษย์ต้องเป็นศูนย์กลางและเป็นเป้าหมายสูงสุดของเรา ผลสำเร็จของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต้องสนับสนุนความก้าวหน้าในสังคมและมุ่งสู่มนุษย์ ช่วยปลดปล่อยมนุษย์และพัฒนามนุษย์อย่างสมบูรณ์ ปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง ค้ำประกันผลประโยชน์และความผาสุกของมนุษย์เพื่อคนรุ่นหลัง ผลสำเร็จของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต้องเป็นพลังขับเคลื่อนในความร่วมมือ ไม่ควรกลายเป็นเครื่องมือที่ใช้ต่อต้านประเทศต่างๆและเดินสวนกับความคาดหวังเกี่ยวกับสันติภาพ การพัฒนา ความยุติธรรมและมโนธรรมของทุกประชาชาติ ผลสำเร็จของปัญญาของมนุษย์ต้องเน้นถึงการพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างสรรค์สังคมที่ยุติธรรม อารยธรรม ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นและแก้ปัญหาความยากจน”

แต่อย่างใดก็ตาม เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ในช่วงเวลาที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ทุกประเทศต้องส่งเสริมความสามัคคี ความร่วมมือและให้ความเคารพระหว่างกัน ปฏิบัติตามกฏหมายสากลและกฎบัตรของสหประชาชาติ แก้ไขความขัดแย้งและการพิพาทด้วยสันติวิธี ผลักดันการลงทุนและการวิจัยในด้านต่างๆ ที่สนับสนุนมนุษย์ เช่น สาธารณสุข การศึกษาและฝึกอบรม การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล การปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียวและมาตรการต่างๆ เพื่อรับใช้ประชาชน

“บรรดาประเทศมหาอำนาจควรมีการปฏิบัติอย่างมีความรับผิดชอบ แลกเปลี่ยนผลสำเร็จร่วมในการวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อร่วมกันพัฒนา สหประชาชาติ  องค์กรระดับภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งอาเซียนควรเดินหน้าด้วยภารกิจคือ ขยายความร่วมมือและประสานงานในการปฏิบัติเพื่อรับมือความท้าทายระดับโลกและใช้โอกาสจากความคืบหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่”

เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ยังให้ข้อสังเกตว่า มนุษย์กำลังอยู่ในโอกาสครั้งประวัติศาสตร์เพื่อนำโลกย่างเข้าสู่ยุคใหม่ ซึ่งเป็นยุคแห่งการพัฒนาที่ดีงามมากขึ้น นั่นคือโลกเพื่อการพัฒนา ความก้าวหน้า ความยุติธรรมในสังคม ชีวิตความเป็นอยู่ที่อิ่มหนำผาสุก เสรีภาพและความผาสุกของประชาชน โดยทุกฝ่ายมีความเห็นพ้องในด้านความรู้ ร่วมกันปฏิบัติ ร่วมกันพยายามและมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพ

หาเสียงพูดร่วมกันเพื่อแก้ไขความท้าทายระดับโลก

ในการประชุมครั้งนี้ คณะผู้แทนเวียดนามและประเทศสมาชิกได้เห็นพ้องอนุมัติเอกสารเพื่ออนาคต เอกสารดิจิทัลแห่งโลกและแถลงการณ์เกี่ยวกับคนรุ่นหลัง ซึ่งเป็นเอกสารที่มีเนื้อหาอย่างรอบด้าน วางแผนการปฎิบัติและเป้าหมายในทุกด้านสมาชิกในสหประชาชาติกำลังร่วมมือกัน ดังคำยืนยันของนาย แอนโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติว่า โลกกำลังอยู่ในระยะการปรับเปลี่ยนและการประชุมสุดยอดครั้งนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญเพื่อวางมาตรการแก้ไขที่มีลักษณะเชิงก้าวกระโดดสำหรับปัญหาต่างๆในระดับโลก

สำหรับประเทศเวียดนาม นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติเมื่อปี 1977 ที่เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนามได้เข้าร่วมการประชุมใหญ่สหประชาชาติ ซึ่งถือเป็นการยืนยันว่า เวียดนามนับวันให้ความสำคัญต่อการทูตพหุภาคีของสหประชาชาติ ซึ่งในฐานะองค์กรที่ใหญ่ที่สุดของโลกมีบทบาทเป็นศูนย์กลางและเวียดนามได้มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็ง เป็นฝ่ายรุกมากขึ้นต่อกิจกรรมต่างๆของสหประชาชาติ

การที่เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้นำคณะผู้แทนระดับสูงของเวียดนามเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมอย่างมีความรับผิดชอบของเวียดนามต่อประชาคมระหว่างประเทศต่อไปและนำความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหประชาชาติและหุ้นส่วนต่างๆให้เข้าสู่ส่วนลึกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น.

คำติชม