ร่างเอกสารการประชุมสมัชชาใหญ่ทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 ไม่เพียงแต่สรุปผลการปฏิบัติงานของคณะผู้บริหารพรรคสมัยที่ 11 ในวาระ 5 ปี 2011-2015 เท่านั้น หากยังสรุปผลการปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาประเทศในตลอด 30 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย ดังนั้นเนื้อหาของร่างเอกสารครั้งนี้คือ “ ขยายการสร้างสรรค์พรรคให้มีความบริสุทธ์และเข้มแข็ง พัฒนาพลังความแข็งแกร่งของชนในชาติและประชาธิปไตยของระบอบสังคมนิยม การผลักดันภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศอย่างสมบูรณ์และพร้อมเพรียง การปกป้องประเทศ การรักษาบรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพ ตลอดจนสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาประเทศเวียดนามให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในขั้นพื้นฐานโดยเร็ว” ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากประชามติ

ควบคู่กับการประเมินผลสำเร็จ จุดอ่อนและข้อจำกัดของระบบเศรษฐกิจและสังคมเวียดนามในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ร่างเอกสารฯได้ระบุถึงมาตรการพัฒนาเศรษฐกิจในเวลาข้างหน้าที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษถึงการเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นเนื้อหาสำคัญของร่างเอกสาร สำหรับปัญหานี้ ดร.เหงียนก๊วกหยุง หัวหน้าสถาบันรัฐศาสตร์ภาค 4 สังกัดสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์เผยว่า ในหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามได้ใช้รูปแบบการขยายตัวในส่วนกว้าง ซึ่งอาศัยเงินทุน ทรัพยากรธรรมชาติและแรงงานไร้ฝีมือ ทำให้ขาดพลังขับเคลื่อนของการขยายตัว ดังนั้น การระบุและเสนอมาตรการเปลี่ยนแลงใหม่รูปแบบการขยายตัวของเศรษฐกิจดังที่ได้ระบุในร่างเอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องที่ถูกต้อง “รูปแบบการขยายตัวในอนาคตคือการขยายในส่วนลึก ผมคิดว่า นี่คือสิ่งที่เหมาะสมสำหรับปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้นี้ รูปแบบการขยายตัวในส่วนลึกจะเน้นถึงแรงงานที่ได้รับการฝึกอบรมและมีทักษะความสามารถและอุสาหกรรมจะมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในการพัฒนาประเทศ ประเด็นที่สองที่ผมเห็นด้วยคือการระบุถึงการสร้างสรรค์และพัฒนากลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม ถ้าหากเราสร้างสรรค์อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ก็จะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายตัว”

ดร.เหงียนก๊วกหยุง ยังชื่นชมร่างเอกสารสมัยที่ 12 ที่ระบุเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกให้เศรษฐกิจทุกภาคเข้าร่วมระบบเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม ซึ่งจะสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ร่างเอกสารดังล่าวยังเสนอความคิดเห็นอย่างชัดเจนและรอบด้านเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจเวียดนามในช่วงปี 2011-2015 ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกประสบอุปสรรคนั้น แม้การขยายตัวของจีดีพีจะไม่บรรลุเป้าหมายที่วางไว้แต่ก็มีการพัฒนาที่ดีขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา ผลสำเร็จที่น่ายินดีอีกอย่างหนึ่งคือเศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพมากกว่าปีก่อนๆ การกำหนดเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมทั้งการขยายตัวจีดีพีให้อยู่ที่ร้อยละ 6.5 – 7 และการขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ร้อยละ 4 ล้วนเป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจเวียดนามและเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน สำหรับมาตรการแก้ไขเพื่อสร้างก้าวกระโดดในการพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนามในรอบ 5 ปีข้างหน้า รองศ.ดร.เฉิ่นหว่างเงิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยการคลังและการตลาดนครโฮจิมินห์แสดงความคิดเห็นว่า “ในร่างเอกสารฯได้ระบุเป้าหมายหลัก 6 เป้าหมาย โดยเป้าหมายที่ 3 คือใช้มาตรการแก้ไขต่างๆเพื่อยกระดับคุณภาพของการขยายตัวและผลการผลิต ผมให้ความสนใจต่อเรื่องนี้เพราะว่า ในช่วงที่ผ่านมา เรามุ่งเน้นแต่การส่งออกและการใช้พลังจากภายนอกแต่ตอนนี้เราต้องให้ความสนใจในการสร้างสมดุลย์ระหว่างตลาดส่งออก ตลาดภายในประเทศและการใช้พลังจากภายนอก โดยเน้นตลาดภายในประเทศมากขึ้น เราต้องระมัดระวังมากขึ้นในการให้ความสนใจมากเกินไปต่อตลาดส่งออก และเราหันมาสนใจตลาดภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาตลาดส่งออก”

ผู้แทนหลายคนยังชื่นชมว่า ร่างเอกสารของการประชุมสมัชชาใหญ่ทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 ได้ระบุถึงการยกระดับคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์และขยายศักยภาพของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งจำเป็นต้องมีกลไกเฉพาะเพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและดำเนินโครงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญเพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ.