(VOVworld) –  ในระเบียบวาระการประชุมสมัชชาใหญ่สหภาพรัฐสภาโลกหรือไอพียูครั้งที่๑๓๒ ที่จะจัดขึ้น ณ เวียดนามในระหว่างวันที่๒๘มีนาคมถึงวันที่๑เมษายน จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องถึงความเสมอภาคทางเพศซึ่งในฐานะประเทศเจ้าภาพ เวียดนามให้การสนับสนุนเนื้อหาและวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติของไอพียู รวมทั้งการผลักดันบทบาทและสิทธิของสตรีโดยเวียดนามก็ได้บรรลุเป้าหมายแห่งสหัสวรรษเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศและยกระดับสถานะของสตรี

สส.และผู้บริหารสตรีทั้งในและต่างประเทศกับประธานรัฐสภาเวียดนาม

เมื่อเดือนพฤษภาคมปี๒๐๐๘ ในการประชุมรัฐสภาเวียดนามสมัยที่๑๒ กลุ่มสส.สตรีได้รับการจัดตั้งซึ่งเป็นองค์กรแรกของสส.สตรีเวียดนามที่มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่คือ ผลักดันความเสมอภาคทางเพศ แม้จะอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีดัชนีพัฒนาเกี่ยวกับเพศที่ดีที่สุดในภูมิภาคแต่เวียดนามก็ถูกผลกระทบจากลัทธิขงจื๊อที่มีแนวคิด“ให้ความสำคัญต่อผู้ชายดูหมิ่นผู้หญิง” ดังนั้น การลดช่องว่างทางเพศในเวียดนามเป็นปัญหาสังคมที่ควรแก้ไขเพื่อสร้างความเสมอภาค  ภายหลังได้ดำเนินการมา๒สมัย กลุ่มสส.สตรีได้สร้างเวทีเพื่อให้สส.สตรีมีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูล วิเคราะห์นโยบาย อำนวยความสะดวกเพื่อมีเสียงพูดร่วมเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงนโยบายสตรี เด็ก และความเสมอภาคทางเพศ ดังนั้น นโยบายต่างๆที่ได้ประกาศใช้ต่างแสดงให้เห็นการคำนึงถึงความเสมอภาคทางเพศในหายมิติ  เช่น เพิ่มเวลาหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรให้แก่แรงงานสตรีจาก๔เดือนขึ้นเป็น๖เดือนและแรงงานผู้ชายได้หยุดงานเมื่อภรรยาคลอดบุตร เป็นต้น นางเหงวียนถิเกวี๊ยตเติม ผู้แทนรัฐสภานครโฮจิมินห์กล่าวว่า“สส.สตรีจำนวนมากสามารถสะท้อนความรู้สึกนึกคิด และความปรารถนาของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสตรีได้เป็นอย่างดี รวมทั้งปัญหาในทางปฏิบัติและวิทยาศาสตร์ที่ได้รับความเห็นชอบจากบรรดาสส.จึงนำไปสู่การตัดสินใจที่สำคัญของรัฐสภาในเวลาที่ผ่านมา”

นอกจากแสดงความคิดเห็นในฟอรั่มรัฐสภาภายในประเทศ กลุ่มสส.สตรีเวียดนามยังเข้าร่วมกิจกรรมร่วมมือในภูมิภาคและโลกเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศ เช่น การประชุมประจำปีของสส.สตรีไอป้าซึ่งเป็นฟอรั่มของสส.สตรีอาเซียนและการประชุมสส.สตรีสมัชชาใหญ่สหภาพรัฐสภาโลกทุกปี นางเจืองถิมาย หัวหน้าคณะกรรมาธิการปัญหาสังคม หัวหน้ากลุ่มสส.สตรีเวียดนามกล่าวว่า“หัวข้อและข้อเสนอแนะต่างๆในฟอรั่มครั้งนี้มุ่งสู่เป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืน ปกป้องสิทธิมนุษยชน โอกาสและความเสมอภาคให้แก่สตรีและเด็กหญิง มอบสิทธิและผลักดันการเข้าร่วมของสตรีในชีวิตการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมมากขึ้น นอกจากนี้  เวียดนามเข้าร่วมฟอรั่มครั้งนี้เพื่อเสริมสร้างสถานะและบทบาทของสตรีในรัฐสภาของประเทศสมาชิกและในองค์การระหว่างประเทศต่างๆ อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความร่วมมือระหว่างสส.สตรี”

ปัจจุบัน เวียดนามเป็นหนึ่งใน๕ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียที่มีอัตราสส.สตรีสูงที่สุด เวียดนามก็ได้เสร็จสิ้นเป้าหมายเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศและยกระดับสถานะของสตรีซึ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐสภาเวียดนามได้มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งในการปฏิบัติเป้าหมายแห่งสหัสวรรษเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ ในการพบปะกับสส.สตรีที่เป็นผู้บริหารสำนักงานของรัฐและองค์การระหว่างประเทศต่างๆที่เข้าร่วมการประชุมไอพียูครั้งที่๑๓๒ ท่านเหงวียนซิงหุ่งประธานรัฐสภาเวียดนามได้กล่าวว่า เวียดนามได้รับการชื่นชมว่า เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการวางนโยบายและกรอบทางนิตินัยที่เกี่ยวข้องถึงความเสมอภาคทางเพศตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี๑๙๔๖ และล่าสุดคือรัฐธรรมนูญปี๒๐๑๓และได้รับการระบุในกฎหมายและเอกสารแนะนำการปฏิบัติตามกฎหมาย นับวันมีสตรีที่ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญในไกกลพรรค รัฐและรัฐสภามากขึ้น  ท่านเหงวียนซิงหุ่งกล่าวว่า“เวียดนามเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาและต้องทำการต่อสู้อย่างกล้าหาญเพื่อช่วงชิงเอกราชมาให้แก่ประชาชาติมาหลายปี ดังนั้น ชาวเวียดนามตระหนักได้ดีว่า ความเสมอภาคทางเพศเป็นหนึ่งในมาตรฐานสำคัญเพื่อประเมินการพัฒนาของประเทศ ด้วยเหตุนี้ นโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือ สนับสนุนความพยายามเพื่อสร้างสรรค์สังคมแห่งความเสมอภาคให้แก่ทุกคน”

ด้วยเหตุนี้ ในระเบียบวาระการประชุมไอพียูครั้งที่๑๓๒ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพ เวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อกิจกรรมที่เกี่ยวข้อถึงความเสมอภาคทางเพศ เช่น จัดการประชุมนอกรอบต่างๆ เช่น “วิสัยทัศน์ปักกิ่งและทัศนะของเพศชาย”“ทาบทามยุทธศาสตร์ทั่วโลกเกี่ยวกับสุขภาพของเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เด็กและสตรี”และพิธีฉลองครบรอบ๓๐ปีการจัดตั้งสมาคมสส.สตรีไอพียู

หัวข้อของไอพียูครั้งที่๑๓๒คือ“เป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืน แปรคำพูดเป็นการปฏิบัติ”ซึ่งในนั้นเป้าหมายความเสมอภาคทางเพศเป็นประเด็นหลัก เข้าร่วมการประชุมไอพียูครั้งที่๑๓๒ กลุ่มสส.สตรีเวียดนามจะให้ความสนใจถึงนโยบายลดช่องว่างทางเพศ มุ่งสู่ความเสมอภาคอย่างแท้จริง มีส่วนร่วมยกระดับบทบาทของสตรีเวียดนามในกระบวนการ พัฒนาและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก./.