(VOVworld) – การปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนสาธารณะและสถานประกอบการภาครัฐเป็น๒ด้านที่สำคัญของโครงการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจแบบเบ็ดเสร็จและก็เป็นหัวข้อของการสัมมนา๒ครั้งที่มีขึ้น ณ กรุงฮานอย เมื่อวันที่๓เดือนนี้ โดยมีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจกว่า๑๐๐คนเข้าร่วม
|
ปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนให้มีประสิทธิภาพ (Photo:Internet) |
(VOVworld) – เงินลงทุนสาธารณะในเวียดนามมาจาก๓แหล่งสำคัญคือ งบประมาณแผ่นดินที่สูงถึงร้อยละ๔๐ในช่วงปี๑๙๙๕ถึงปี๒๐๑๑ เงินกู้จากพันธบัตรรัฐบาลและเงินกู้จากต่างประเทศที่สูงถึงร้อยละ๓๗ในปี๒๐๑๐ การลงทุนสาธารณะอย่างกระจัดกระจาย และขาดประสิทธิภาพในหลายปีที่ผ่านมาได้ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นซึ่งจนถึงปี๒๐๑๐ เวียดนามมีหนี้สาธารณะคิดเป็นร้อยละ๕๖.๗ของGDP นายVũ Đình Ánh ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจกล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะที่สวนทางกับการลงทุนสาธารณะที่มีแนวโน้มลดลงนั้นมีสาเหตุมาจากโครงการลงทุนสาธารณะหลายโครงการ ไม่สามารถชำระหนี้และดอกเบี้ยได้ เนื่องจากการชำระหนี้ต้องขึ้นอยู่กับรายจ่ายงบประมาณซึ่งส่งผลให้เกิดการขาดดุลย์ในขณะที่ยังคงต้องกู้เงินเพื่อลงทุน หนี้สาธารณะและหนี้ต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นจะสร้างความเสี่ยงทางการเงินดังนั้นต้องปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนสาธารณะตามแนวทางยกระดับประสิทธิภาพของเงินลงทุนและไม่ให้ส่งผลกระทบต่อหนี้สาธารณะ “ในอีก๕ ถึง๑๐ปีข้างหน้า การลงทุนสาธารณะต้องอาศัยการขยายตัวทางเศรษฐกิจและรายรับงบประมาณที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำและในสภาวการณ์ที่แหล่งการเงินมีข้อจำกัดต้องเน้นการลงทุนโครงการที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจเพื่อสามารถชำระหนี้และดอกเบี้ยได้” ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจจำนวนมากยังเห็นว่า เพื่อปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนสาธารณะในสภาวการณ์ปัจจุบัน จำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดในการลงทุนสาธารณะ ดร.Trần Đình Thiên หัวหน้าสถาบันเศรษฐศาสตร์เวียดนามกล่าวว่า “ต้องยกระดับประสิทธิภาพของการลงทุน รัฐจำเป็นต้องลงทุนหลายโครงการแต่ไม่สามารถบริหารควบคุมได้ ดังนั้นในเมื่อมีงบประมาณมีจำกัดก็ต้องจัดลำดับความสำคัญของโครงการพร้อมทั้งต้องยึดมั่นหลักการตลาดเมื่อตัดสินใจลงทุน”
|
ผลักดันการแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วน(Photo:Internet) |
บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังเห็นว่า สถานประกอบการภาครัฐจะต้องเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ในเวลาที่ผ่านมา ประสิทธิภาพการดำเนินงานของสถานประกอบการเหล่านี้ยังไม่ทัดเทียมกับขนาด และศักยภาพแม้ว่าจะถือครองแหล่งสินเชื่อของเศรษฐกิจถึงครึ่งหนึ่ง นายTrương Đình Tuyển อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์กล่าวว่า ต้องกำหนดแขนงอาชีพและสัดส่วนที่ต้องการการเข้าร่วมของสถานประกอบการภาครัฐ นอกจากการผลักดันการแปรรูปสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วนแล้วยังต้องส่งเสริมการแข่งขันอย่างเสมอภาคระหว่างสถานประกอบการภาครัฐกับสถานประกอบการภาคอื่นๆพร้อมทั้งปรับปรุงวิธีการบริหารงาน นายTrần Xuân Giá อดีตรัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุนกล่าวว่า สถานประกอบการภาครัฐต้องเข้าร่วมในด้านที่ประเทศต้องการพัฒนาที่ภาคเอกชนไม่สามารถทำได้ เช่น การป้องกันประเทศ ความมั่นคง และความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม ส่วนที่เหลือก็ให้ภาคเอกชนทำ โดยรัฐมีหน้าที่บริหารควบคุมและเก็บภาษีเท่านั้น นายLê Đăng Doanhผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจกล่าวว่า “สถานประกอบการภาครัฐควรลงทุนในด้านที่ตนบริหาร เช่น สถานประกอบการไฟฟ้าต้องลงทุนในด้านไฟฟ้า สถานประกอบการปีโตรเลี่ยมต้องลงทุนในด้านปีโตรเลี่ยมเท่านั้น ไม่ควรนำเงินไปลงทุนในด้านอื่นเช่น อสังหาริมทรัพย์ และหลักทรัพย์ ปัจจุบัน เงินลงทุนในด้านที่ไม่เกี่ยวข้องสูงถึง๒๐พันพันล้านด่งซึ่งจะต้องทำการถอนทุนตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี หวังว่า ตั้งแต่นี้ สถานประกอบการภาครัฐจะดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและบรรลุหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย” บรรดาผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจยังเตือนสถานประกอบการให้ปรับปรุงการบริหารอย่างค่อยเป็นค่อยไป ยกระดับคุณภาพการบริหารภายใน เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ปฏิบัติการตรวจเงินแผ่นดินอย่างเป็นอิสระ มีการลงทุนให้แก่การพัฒนาเครื่องหมายการค้าและเทคโนโลยีใหม่อย่างเหมาะสม ถ้าทำได้เช่นนี้ การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจก็จะเกิดประโยชน์อย่างจริงจัง./.