พลเอก หวอเงวียนย้าป (VNA) |
พลเอก Marcel Bigeard นายพลที่มีชื่อเสียง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นผู้บัญชาการของกองทัพฝรั่งเศสในยุทธนาการเดียนเบียนฟูให้ข้อสังเกตว่า “ด้วยชัยชนะเดียนเบียนฟู นายพล หวอเงวียนย้าปได้ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในการชี้นำกองทัพในตลอดกว่า 30 ปี ซึ่งได้สร้างความแข็งแกร่งที่ไม่เคยมีมาก่อน” และยอมรับว่า “ ในตอนนั้น ถ้าหากผมเป็นคนเวียดนาม ผมก็จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของเวียดมิงห์” ซึ่งคำพูดนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของพลเอก หวอเงวียนย้าปในการสร้างพลังจูงใจทุกคน แม้กระทั่งฝ่ายศัตรู นอกจากนี้ นายพล Marcel Bigeard ยังกล่าวว่า “ ผมมั่นใจว่า ชีวิตและภารกิจการปฏิวัติที่เป็นตำนานของพลเอก หวอเงวียนย้าปจะเป็นแบบอย่างและเป็นความภาคภูมิใจของชาวเวียดนามทุกคนตลอดกาล”
ที่สหรัฐ นายพล Westmoreland ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในสนามรบอินโดจีน ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามของพลเอก หวอเงวียนย้าป ในสมัยสงครามต่อต้านอเมริกาเพื่อกู้ชาติของประชาชาติเวียดนามได้ให้ข้อสังเกตว่า “ คุณสมบัติเพรียบพร้อมของพลเอก หวอเงวียนย้าปเหมาะสมกับการเป็นนายพลที่ยิ่งใหญ่ เช่น กล้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาด มีความเด็ดเดี่ยว มีปัญญาความสามารถที่ยอดเยี่ยม และชาญฉลาด” ซึ่ง “สงครามเวียดนามที่ยุติลงได้ก็แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญของเหล่าผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของกองทัพเวียดนาม โดยเฉพาะพลเอก หวอเงวียนย้าป ซึ่งเป็นนายพลที่มีประสบการณ์สูงในการทำสงครามกองโจร”
ในโลกได้มีการจัดทำหนังสือประวัติศาสตร์และภาพยนต์สารคดีเกี่ยวกับชีวิต ภารกิจและความสามารถที่ยากจะหาได้ในการนำกองทัพของพลเอก หวอเงวียนย้าป โดยพลเอก Peter Macdonald ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาวอังกฤษได้กล่าวในหนังสือเรื่อง "Giap an assessment" ว่า “หวอเงวียนย้าป ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพนาน 30 ปีและเข้าร่วมงานทางการเมืองในระดับผู้นำสูงสุดเกือบ 50 ปี ซึ่งนี่คือสองเรื่องใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก และยากที่จะหาใครมาเปรียบเทียบได้เพราะว่า ไม่เคยมีใครสามารถผสมผสานระหว่างสงครามกองโจรกับสงครามแบบแผนได้อย่างลงตัวเหมือนพลเอก หวอเงวียนย้าป และเขายังแสดงความสามารถในการออกกลยุทธ์การต่อสู้สำคัญในการทำสงคราม” ส่วนนักประวัติศาสตร์ Stanley Karnow ได้ยกย่องพลเอก หวอเงวียนย้าป ให้อยู่ในระดับเดียวกับผู้นำทหารชื่อดัง เช่น นายพลGrant, นายพลLee, นายพลRommel และ นายพลMacArthur ในขณะที่สารานุกรมทางทหารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่ตีพิมพ์เมื่อปี 1993 ได้ระบุว่า “ความสามารถในด้านยุทธวิธี กลยุทธ์และพลาธิการผสานอย่างกลมกลืนกับการเมืองและการทูต จนทำให้ความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี กำลังทหารและอาวุธที่เหนือกว่าของบรรดาประเทศฝ่ายตะวันตกต้องพ่ายแพ้ต่อยุทธวิธีที่ยอดเยี่ยมของนายพลที่เคยเป็นครูสอนประวัติศาสตร์” ส่วนหนังสือเรื่อง “บรรดานายพลที่มีชื่อเสียง”ที่ตีพิมพ์ในกรุงลอนดอนได้เขียนว่า “หวอเงวียนย้าป เป็นหนึ่งในนายพล 21 นายที่ยอดเยี่ยมของโลกใน 25 ศตวรรษที่ผ่านมา ผู้ที่สามารถสร้างชัยชนะและมิติใหม่ให้แก่ศิลปะของสงคราม” สารานุกรมฉบับใหม่ของอังกฤษที่พิมพ์เมื่อปี 1985 ได้แนะนำรายชื่อนายพลระดับโลกตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงยุคใหม่ ซึ่งก็ได้ระบุชื่อนายพลสองนายของเวียดนามคือ ฮึงด๋าวด๋ายเวืองเจิ่นก๊วกต๊วนและพลเอก หวอเงวียนย้าปด้วย
นิตยสาร Time ของสหรัฐลงภาพพลเอก หวอเงวียนย้าปถึง 3 ครั้ง (Time) |
ส่วนสำนักข่าวที่มีชื่อเสียงระดับโลกต่างก็ชื่นชมพลเอก หวอเงวียนย้าป ผ่านบทความต่าง ๆ โดยสำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศสได้ยกย่องว่า “พลเอกหวอเงวียนย้าปเป็นหนึ่งในนักยุทธศาสตร์การทหารที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์” และเป็น “สถาปนิก” ที่สร้างชัยชนะในสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและจักรวรรดินิยมอเมริกาเพื่อกู้ชาติของประชาชนเวียดนาม สำนักข่าวรอยเตอร์ของอังกฤษได้ประเมินว่า พลเอก หวอเงวียนย้าป คือ 1 ใน 10 นายพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล หนังสือพิมพ์ Prensa Latina ของคิวบาก็ยกย่องพลเอก หวอเงวียนย้าปว่า เป็นหนึ่งในนักยุทธศาสตร์การทหารที่ปรีชาสามารถ ซึ่งสามารถใช้ยุทธวิธีสงครามกองโจรได้ดีที่สุด โดยเฉพาะศิลปะการเปิดสงครามกองโจรของพลเอก หวอเงวียนย้าปได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่นักรบที่ต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชมาให้แก่ประชาชาติในทั่วโลก
องค์ความรู้และความสามารถด้านการทหารของพลเอก หวอเงวียนย้าป ล้วนแต่มาจากการศึกษาประวัติศาสตร์การต่อสู้ศัตรูผู้รุกรานของประชาติเวียดนามและประวัติศาสตร์การทหารของโลกบวกกับการฝึกฝนหล่อหลอมตนเองและถอดประสบการณ์จากการต่อสู้ของกองทัพเวียดนาม ที่ได้หลอมรวมกลายเป็นจุดเด่นของพลเอก หวอเงวียนย้าป จนได้รับคำชื่นชมและความเคารพจากประชาคมโลกว่า เป็นหนึ่งในนายพลที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์และเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถสร้างหัวเลี้ยวหัวต่อทางประวัติศาสตร์ได้.