(VOVworld)- การเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่16-17มกราคมนี้ของนายกฯญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ จะเป็นการเปิดระยะการพัฒนาใหม่ให้แก่ทั้งสองประเทศ ช่วยขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ญี่ปุ่นให้เข้าสู่ส่วนลึกและผลักดันความร่วมมือในทุกด้านทั้งการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน
|
| นายกฯญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ (photo internet) |
ในเกือบ40ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เวียดนามและญี่ปุ่นสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี1973จนถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์ร่วมมือและมิตรภาพระหว่างสองประเทศได้รับการธำรงเสริมสร้างอย่างไม่หยุดยั้งทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการศึกษาและถึงแม้การเมืองญี่ปุ่นได้มีความเปลี่ยนแปลงแต่พรรคการเมืองที่ขึ้นกุมอำนาจทุกพรรคต่างก็ให้ความสนใจต่อการกระชับความร่วมมือกับเวียดนาม โดยเฉพาะให้การสนับสนุนแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่และเปิดประเทศของเวียดนามอยู่เสมอ สนับสนุนเวียดนามผสมผสานเข้ากับภูมิภาคและโลกผ่านองค์การระหว่างประเทศต่างๆเช่น ฟอรั่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเซียแปซีฟิกหรือเอเปก องค์การการค้าโลก ฟอรั่มความร่วมมือเศรษฐกิจเอเซีย-ยุโรปหรืออาเซม เป็นต้น และสำหรับญี่ปุ่น เวียดนามคือประเทศที่มีสถานะทางภูมิศาสตร์และการเมืองที่สำคัญยิ่งรวมทั้งเป็นหุ้นส่วนที่มีศักยภาพในความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ปี2010 ในโอกาสนายกฯญี่ปุ่นนาโอโตะคังเยือนเวียดนาม นายกฯทั้งสองประเทศได้ลงนามแถลงการณ์ร่วมเวียดนาม-ญี่ปุ่นเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์แบบบูรณาการเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในเอเซีย ต่อจากนั้นในการเยือนญี่ปุ่นปี2011ของนายกฯเวียดนามเหงวียนเตินหยุง ทั้งสองฝ่ายก็ได้ลงนามแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยปฏิบัติการในกรอบหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ญี่ปุ่นเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในเอเซีย จนถึงปัจจุบัน ญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจสำคัญชั้นนำของเวียดนามและเป็นประเทศจี7ประเทศแรกที่รับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนาม นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังเป็นนักอุปถัมภ์โอดีเอรายใหญ่ที่สุดและเป็นนักลงทุนอันดับ1ของเวียดนาม และอยู่อันดับ3ด้านหุ้นส่วนการค้า เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
|
| นายกฯญี่ปุ่น นาโอโตะคังเยือนเวียดนามปี2010(photo internet) |
นาย ฝามแทงบิ่ง รองอธิบดีกรมเอเซียตะวันออกเฉียงเหนือแห่งกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่าความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ญี่ปุ่นจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและจะเน้นใน2ประเด็นสำคัญคือความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนโดยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจนั้นกำลังเป็นไปอย่างดีงาม เงินลงทุนโดยตรงหรือเอฟดีไอเพิ่มขึ้นอย่างเข้มแข็ง ส่วนเงินโอดีเอที่ญี่ปุ่นได้สงวนให้แก่เวียดนามยังคงอยู่ในระดับสูงในขณะที่ได้มีการปรับลดเงินโอดีเอจากผู้อุปถัมภ์รายอื่นๆ ประเด็นที่สองคือทั้งสองฝ่ายกำลังเตรียมจัดกิจกรรมรำลึก40ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี2013 ปีเวียดนามในญี่ปุ่นและปีญี่ปุ่นในเวียดนามซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งด้านการเมืองการทูตและวัฒนธรรม
ในด้านการค้านั้นจนถึงปัจจุบันมูลค่าการค้าทวิภาคีเวียดนาม-ญี่ปุ่นบรรลุ2หมื่น3พันล้านเหรียญสหรัฐและทั้งสองฝ่ายต่างพยายามเพิ่มตัวเลขนี้ขึ้นเป็น2เท่าภายในปี2020 นอกจากนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นยังให้การช่วยเหลือเวียดนามใน3ด้านที่สำคัญคือ โครงสร้างพื้นฐาน ฝึกอบรมบุคลากรและปรับปรุงโครงสร้างสถานประกอบการภาครัฐ ซึ่งทั้งนี้ ความร่วมมือและสัมพันธไมตรีอันดีงามที่มีต่อกันในเกือบ4ทศวรรษที่ผ่านมาได้สร้างพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อนำความสัมพันธ์เวียดนามและญี่ปุ่นพัฒนาอย่างเข้มแข็ง และเป็นรูปธรรมในเชิงลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกมาเยือนเวียดนามเป็นประเทศแรกหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯของนายชินโซอาเบะก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่กำลังพัฒนาอย่างดีงามระหว่างสองฝ่าย เอื้อให้การเยือนประสบความสำเร็จและมีส่วนร่วมนำความสัมพันธ์เวียดนาม-ญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่
|
| นายกฯเวียดนามเหงวียนเตินหยุงเยือนญี่ปุ่นปี2011(photo internet) |
ท่านดว่านซวนฮึงรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่านายกฯชินโซอาเบะเป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเวียดนามมานานแล้วโดยเมื่อ6ปีก่อนนายกฯอาเบะได้ร่วมกับนายกฯเวียดนามเหงวียนเตินหยุงวางพื้นฐานให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และในโอกาสเดินทางมาเยือนเวียดนามครั้งนี้ นายกฯทั้งสองท่านจะได้มีโอกาสพบปะกันอีกครั้ง ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า การเยือนนี้จะมีความหมายที่ยิ่งใหญ่มีส่วนร่วมกระชับและเสริมสร้างให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ญี่ปุ่นพัฒนาลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยประชาชนทั้งสองชาติต่างรู้สึกปรื้มปิติยินดีเมื่อเห็นว่าทั้งสองฝ่ายคือมิตรที่ใกล้ชิดกันและจากการเยือนเวียดนามครั้งนี้ จะมีการขยายความร่วมมือใหม่ในหลายด้านต่อไป
จากพื้นฐานความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่พัฒนาอย่างเข้มแข็งและเป็นรูปธรรมระหว่างสองประเทศ การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกฯญี่ปุ่นพร้อมคณะผู้แทนรัฐบาลจะช่วยเสริมสร้างให้ความสัมพันธ์นั้นมีความแน่นแฟ้นและจริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะในโอกาสที่ทั้งสองประเทศกำลังเตรียมจัดปีมิตรภาพเวียดนาม-ญี่ปุ่นเพื่อรำลึกครบรอบ40ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต อันเป็นการเปิดระยะใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในสภาวการณ์ที่ภูมิภาคและโลกเต็มไปด้วยความซับซ้อน./.