ปัญหาทะเลตะวันออกบนโต๊ะการประชุม AMM -48

Anh Huyen - VOV5
Chia sẻ
(VOVworld) – วันที่ 4 สิงหาคม การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 48 หรือ AMM 48 และฟอรั่มความมั่นคงภูมิภาคอาเซียนหรือเออาร์เอฟครั้งที่ 22 ได้มีขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งนอกจากปัญหาการจัดตั้งประชาคมอาเซียนในปลายปีนี้และขั้นตอนการปฏิบัติวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนหลังปี 2015แล้ว ที่ประชุมยังมีการหารือถึงทัศนะเกี่ยวกับปัญหาต่างๆของภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะปัญหาทะเลตะวันออก
(VOVworld) – วันที่ 4 สิงหาคม การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 48 หรือ AMM 48 และฟอรั่มความมั่นคงภูมิภาคอาเซียนหรือเออาร์เอฟครั้งที่ 22 ได้มีขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งนอกจากปัญหาการจัดตั้งประชาคมอาเซียนในปลายปีนี้และขั้นตอนการปฏิบัติวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนหลังปี 2015แล้ว ที่ประชุมยังมีการหารือถึงทัศนะเกี่ยวกับปัญหาต่างๆของภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะปัญหาทะเลตะวันออก
ปัญหาทะเลตะวันออกบนโต๊ะการประชุม AMM -48 - ảnh 1
ภาพการประชุม

การประชุม AMM 48 และการประชุมที่เกี่ยวข้องต่างๆมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ประเทศหุ้นส่วนและประเทศคู่เจรจาประมาณ 20 คนเข้าร่วม แม้ปัญหาทะเลตะวันออกไม่ถูกระบุในระเบียบวาระการประชุมแต่แน่นอนว่าจะเป็นเนื้อหาที่ใช้เวลาหารือมากที่สุดเพราะว่า ปัญหาการพิพาทอธิปไตยในเขตทะเลที่เป็นแหล่งปิโตรเลี่ยมที่หลายประเทศประกาศอธิปไตยนี้นับวันมีความตึงเครียดมากขึ้น
“ร้อนระอุ”ตั้งแต่ยังไม่เริ่มการประชุม AMM 48
ก่อนการประชุมประจำปีที่สำคัญนี้ของอาเซียน ปัญหาทะเลตะวันออกได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของสื่อมวลชนนานาชาติเนื่องจากคำแถลงและคำปราศรัยต่างๆของเจ้าหน้าที่ระดับสูง วงการนักวิเคราะห์ทั้งภายในและนอกภูมิภาค ซึ่งนาย Anifah Aman รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียได้ยืนยันว่า ปัญหาทะเลตะวันออกจะ “ร้อนแรงมาก” ในการประชุม AMM 48 เพราะว่าหลายประเทศกำลังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความท้าทายด้านความมั่นคงที่เพิ่งเกิดขึ้นในภูมิภาค โดยเฉพาะปัญหาการเดินเรืออย่างเสรีและปลอดภัยในทะเลตะวันออก พร้อมทั้งย้ำว่า สถานการณ์เมื่อเร็วๆนี้ในทะเลตะวันออก โดยเฉพาะการก่อสร้างเกาะเทียมอย่างผิดกฎหมายของจีนได้ส่งผลให้ความตึงเครียดในภูมิภาคทวีความรุนแรงมากขึ้นและทำลายความไว้วางใจของทุกฝ่าย ในขณะเดียวกันโฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ Restituto Padilla ได้เรียกร้องให้ทุกประเทศอาเซียนสามัคคีกันและมีเสียงพูดเดียวกันเพื่อยับยั้งการกระทำละเมิดกฎหมายและยั่วยุของจีนในทะเลตะวันออก ส่วนเจ้าหน้าที่การต่างประเทศสหรัฐได้ยืนยันว่า ทะเลตะวันออกจะเป็นปัญหาหลักในการประชุม AMM 48 เพราะทั้งอาเซียนและสหรัฐต่างมีความกังวลเกี่ยวกับขอบเขต ความรวดเร็วและแผนการก่อสร้างเกาะเทียมที่จีนกำลังปฏิบัติ ดังนั้น การประชุม AMM 48 จึงเป็นโอกาสให้ทุกประเทศอาเซียนแสดงความกังวลโดยตรงต่อจีนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่หลายประเทศถือว่า มีลักษณะยั่วยุ
ส่วนจีนได้มีท่าทีที่สวนทางกับทัศนะและคำปราศรัยของหลายประเทศ โดยได้เผยว่า อาเซียนไม่ใช่ฟอรั่มเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก โดยในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ นายหลิว เจิ้น หมินรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เผยว่า การพบปะประจำปีระหว่างอาเซียนกับประเทศอื่นๆเพื่อความร่วมมือและสร้างความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ หากไม่ใช่เป็นฟอรั่มเพื่อหารือถึงเรื่องทะเลตะวันออก และจีนยังปฏิเสธการแทรกแซงกิจการภายในที่ไม่จำเป็นของบางประเทศนอกภูมิภาคอย่างแข็งกร้าวอีกด้วย
ปัญหาทะเลตะวันออกบนโต๊ะการประชุม AMM -48 - ảnh 2
ต้องแสวงหาความเป็นเอกฉันท์ต่อมาตรการแก้ไขปัญหา
ทะเลตะวันออก

ต้องแสวงหาความเป็นเอกฉันท์ต่อมาตรการแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออก
ในหลายปีมานี้ ปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกนับวันรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อปี 2014 จีนได้ตั้งแท่นขุดเจาะไหหยาง 981 ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนาม ซึ่งการแสวงหามาตรการแก้ไขความตึงเครียดในทะเลตะวันออกได้รับความสนใจในภูมิภาคและจากสหรัฐ ญี่ปุ่นและบางประเทศหุ้นส่วนของอาเซียน ในขณะที่ฟิลิปปินส์แสวงหาการสนับสนุนจากอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ส่วนเวียดนามและบรรดาประเทศอาเซียนได้พยายามผลักดันให้มีการจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซี ซึ่งชงักงันมาเป็นเวลาหลายปีโดยเร็ว
1 ปีได้ผ่านพ้นไปนับตั้งแต่การประชุม AMM 47 แต่กระบวนการจัดทำซีโอซียังไม่ประสบความคืบหน้าโดยมีเพียงการออกแถลงการณ์และการพบปะทั่วไปเท่านั้น แต่ยังไม่ประสบผลอย่างจริงจัง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้มีสัญญาณที่น่ายินดีครั้งแรกเพราะอาเซียนและจีนได้เห็นพ้องกันเกี่ยวกับการจัดตั้ง “โทรศัพท์สายด่วน” เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องถึงการพิพาทในทะเลตะวันออก นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นด้วยที่จะปฏิบัติขั้นตอนต่อไปของซีโอซี ในด้านขอบเขต องค์ประกอบและปัจจัยต่างๆของซีโอซี รวมถึงปัญหาซับซ้อนที่เกี่ยวข้อง
บรรดาผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า โทรศัพท์สายด่วนนี้เป็นก้าวเดินที่น่ายินดี ซึ่งช่วยปลดชนวนความตึงเครียดเพราะการกระทบกระทั่งในทะเลตะวันออก แต่การจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องเร่งบรรลุซีโอซีเพื่อแก้ไขสถานการณ์ความไว้วางใจต่อกันในปัจจุบันถูกกัดกร่อน ในขณะที่กำลังปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและเร่งจัดทำซีโอซี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทุกฝ่ายต้องยุติปฏิบัติการที่ยั่วยุและเปิดเผยหลักฐานเกี่ยวกับคำประกาศอธิปไตยตามกฎหมายสากล หลีกเลี่ยงการปฏิบัติที่อาจนำไปสู่การใช้กำลังโดยเป็นกลไกร่วมมือที่เปิดกว้าง อาเซียนนับวันยืนยันว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ดังนั้น ประชามติจึงตั้งความหวังไว้สูงต่อความเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออกในการประชุมครั้งนี้.

คำติชม