ภาพการพบปะ |
แถวขบวนปัญญาชน นักวิทยาศาสตร์ นักเขียนและศิลปินเป็นกองกำลังเดินหน้าในการยกระดับความรู้และความเข้าใจของประชาชน จัดทำทฤษฎีปฏิวัติและประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน
ถ้าไม่เดินหน้าปรับตัว เรียนรู้สิ่งใหม่ๆและเป็นเจ้าของเทคโนโลยีก็จะถอยหลัง
ทั้งนี้ องค์ความรู้คือแหล่งพลังที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาและเป็นแหล่งพลังใหม่ในศตวรรษที่ 21 โดยการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีชีวภาพและพลังงานหมุนเวียนกำลังส่งผลต่อทุกด้านของชีวิตสังคมอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเลขาธิการใหญ่พรรคโตเลิม ได้เผยว่า ถ้าไม่เดินหน้าปรับตัว เรียนรู้สิ่งใหม่ๆและเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เวียดนามก็จะล้าหลัง
“ยิ่งกว่าเวลาใด บทบาทของนักวิทยาศาสตร์ ปัญญาชน นักเขียนและศิลปินในการจุดประกายเปลวไฟแห่งความรู้และความสร้างสรรค์มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยนอกจากมีบทบาทเป็นนักจิตวิทยา สถาปนิกแห่งอนาคตและเป็นผู้ที่สะท้อนพลังคนเวียดนามอย่างเต็มที่ ยังเป็นผู้ที่ทุ่มเทให้กับการอนุรักษ์และเผยแพร่คุณค่า เกียรติประวัติและอัตลักษณ์ประชาชาติเวียดนามในโลกที่มีการแข่งขันและความผันผวนเป็นอย่างมาก”
ทั้งนี้ เพื่อแปรความคาดหวังเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศ เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้กำชับให้แถวขบวนปัญญาชนและนักวิทยาศาสตร์สนับสนุนพรรคและประชาชนในการวิจัย สร้างสรรค์ มีส่วนร่วมต่อด้านสำคัญๆ เช่น วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การศึกษาและฝึกอบรม สาธารณสุข การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เศรษฐกิจดิจิทัล สังคมดิจิทัล การปรับเปลี่ยนพลังงานสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นต้น โดยคณะกรรมการกลางพรรคกำลังเตรียมให้แก่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 14 เพื่อนำประเทศย่างเข้าสู่ศักราชแห่งการเติบโตที่แข็งแกร่ง เจริญรุ่งเรืองและพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่วนในด้านวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และศิลปะ เลขาธิการใหญ่พรรคโตเลิมได้ย้ำว่า พรรคได้ระบุถึงหน้าที่ใหม่ที่สอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์วัฒนธรรมเวียดนามที่ก้าวหน้าและมีเอกลักษณ์ประชาชาติ โดยเชิดชูและส่งเสริมบทบาทการนำของแถวขบวนปัญญาชน นักเขียน ศิลปิน นักธุรกิจและผู้ที่ปฏิบัติงานด้านวัฒนธรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตทางจิตใจ ลดช่องว่างการพัฒนาวัฒนธรรมของเขตชนกลุ่มน้อย ส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างสรรค์และพัฒนารูปแบบและองค์กรด้านวัฒนธรรมที่ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเลขาธิการใหญ่พรรคโตเลิม ยังกำชับให้เดินหน้าอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรมเวียดนามที่ก้าวหน้าและเป็นเอกลักษณ์ของประชาชาติในยุคดิจิทัล
“นักเขียนและศิลปินต้องเป็นนักรบด้านวัฒนธรรม โดยสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่าด้านแนวความคิด สุนทรียศาสตร์ สามารถสร้างแรงจูงใจและแรงบันดาลใจ ยกระดับจิตใจของคนเวียดนามท่ามกลางการพัฒนาโลกาภิวัตน์และการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก แสดงจิตใจที่เข้มแข็งอย่างไม่ย่อท้อเพื่อปฏิบัติหน้าที่ เดินหน้ามีส่วนร่วมสร้างสรรค์และแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายต่างๆ อย่างมีภาวะวิสัยและมีความเป็นมนุษย์เพื่อผลประโยชน์ของชาติ ส่วนปัญญาชนไม่เพียงแต่เป็นนักวิจัยและผู้ถ่ายทอดความรู้เท่านั้น หากยังเป็นศูนย์กลางและผู้สร้างสรรค์ที่มีส่วนร่วมจัดทำและกำหนดแนวทางการพัฒนาประเทศบนเจตนารมณ์เพื่อรับใช้ประเทศ ประชาชนและการคงอยู่ของประชาชาติ”
เลขาธิการใหญ่พรรคโตเลิม |
ปัญญาชน นักวิทยาศาสตร์ นักเขียนและศิลปินคือแหล่งพลังที่สำคัญของชาติ
เลขาธิการใหญ่พรรคโตเลิม ยังเผยว่า พรรค รัฐและประชาชนตั้งความคาดหวังและเชื่อมั่นต่อแถวขบวนปัญญาชน นักวิทยาศาสตร์ในการเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่แบบก้าวกระโดดเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืนในระยะใหม่
“การที่เวียดนามมีศักยภาพ สถานะและชื่อเสียงที่สูงเด่นบนเวทีโลกในปัจจุบันก็เนื่องมาจากเกียรติประวัติและวัฒนธรรมของประชาชาติที่ได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาภายใต้การนำของพรรคในตลอด 95 ปี การสถาปนาประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในตลอด 80 ปี การเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในตลอด 40 ปี ความร่วมแรงร่วมใจ การสนับสนุน การทุ่มเททำงานและการมีส่วนร่วมของประชาชนหลายล้านคน รวมถึงปัญญาชน นักวิทยาศาสตร์ นักเขียนและศิลปิน พรรคและรัฐชื่นชมบทบาทและถือปัญญาชน นักวิทยาศาสตร์ นักเขียนและศิลปินเป็นแหล่งพลังที่สำคัญของชาติและเป็นรากฐานการคงอยู่ของประเทศ”
ทั้งนี้ พรรคและรัฐได้ประกาศมติ กลไกและนโยบายเพื่ออำนวยความสะดวกและพื้นที่การพัฒนาให้แก่วรรณศิลป์ ส่วนสภาแห่งชาติ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าแก้ไขอุปสรรคด้านระเบียบกลไก นโยบาย งบประมาณ การเงินและการลงทุนเพื่อสร้างแหล่งพลังและพื้นที่การพัฒนาสำหรับนักเขียนและศิลปิน โดยเป้าหมายการพัฒนาประเทศเวียดนามที่พัฒนาอย่างเข้มแข็ง เจริญรุ่งเรือง มีประชาธิปไตย มีความยุติธรรมและอารยธรรมไม่เพียงแต่เป็นความคาดหวังของประชาชนเท่านั้น หากยังเป็นภารกิจของประชาชาติ ซึ่งการสนับสนุนและการมีส่วนร่วมของแถวขบวนปัญญาชน นักวิทยาศาสตร์ นักเขียนและศิลปินจะมีส่วนร่วมแปรเป้าหมายดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม.