ความสัมพันธ์เวียดนาม-ญี่ปุ่น ความไว้วางใจ ประสิทธิภาพและกว้างลึก

Chia sẻ
(VOVWORLD) -วันที่4พฤษภาคม นาย โอชิมาทาคาโมริ ประธานสภาล่างญี่ปุ่นได้เริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา2วัน ซึ่งเป็นการเยือนเวียดนามต่อจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิกาะเมื่อต้นปีนี้  ซึ่งการเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานสภาล่างญี่ปุ่นก็เพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคเอเชีย  โดยเฉพาะ ช่องทางการทูตระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศ
ความสัมพันธ์เวียดนาม-ญี่ปุ่น ความไว้วางใจ ประสิทธิภาพและกว้างลึก - ảnh 1 (Photo: Internet)

เวียดนามและญี่ปุ่นได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี1973  ภายหลัง40ปี ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนับวันยิ่งได้รับการเสริมสร้างและพัฒนา โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระยะที่ดีที่สุดและมีความไว้วางใจทางการเมืองในระดับสูง

หุ้นส่วนยุทธศาสตรที่กว้างลึก

  ปัจจุบัน ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนยุทธศาสตร์และหุ้นส่วนเศรษฐกิจชั้นนำของเวียดนาม เป็นนักอุปถัมภ์โอดีเอรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ2และหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ4ของเวียดนาม  โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ14ต่อปีและคาดว่า มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศในปี2020จะอยู่ที่6หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในกรอบการเยือนเวียดนามในต้นปีนี้  นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะและนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงวียนซวนฟุกได้เห็นพ้องที่จะขยายความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุนและปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและการประกอบธุรกิจระหว่างสองประเทศ  นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เรียกร้องให้สถานประกอบการญี่ปุ่นส่งเสริมการลงทุนในด้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน  การถ่ายทอดเทคโนโลยี  การบริการที่มีคุณภาพสูง  เช่น การเงิน ธนาคาร การท่องเที่ยว  การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและอุตสาหกรรมการผลิต  โดยเฉพาะ การแปรสถานประกอบการภาครัฐเป็นบริษัทหุ้นส่วนและการช่วยเหลือสถานประกอบการสตาร์ทอัพ  ปัจจุบัน  มีสถานประกอบการญี่ปุ่นกว่า1600แห่งที่กำลังประกอบธุรกิจในเวียดนามและในเวลาที่ผ่านมา สถานประกอบการญี่ปุ่นที่มีจุดแข็งด้านเทคโนโลยีขั้นสูง  มีประสบการณ์ในด้านการผลิตและการประกอบธุรกิจได้มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนาม  นาย Ando Kengo เลขาธิการสมาคมสถานประกอบการญี่ปุ่นประจำเวียดนามได้เผยว่า บรรดาสถานประกอบการญี่ปุ่นให้ความสนใจต่อตลาดเวียดนามและมีความประสงค์ที่จะประกอบธุรกิจในระยะยาวและส่งเสริมความร่วมมือกับหุ้นส่วนเวียดนาม “เวียดนามอยู่ใกล้ญี่ปุ่น  เวียดนามมีผู้ที่เรียนภาษาญี่ปุ่นมากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะ ภาษาญี่ปุ่นขั้นสูง    เวียดนามเป็นประเทศที่พัฒนา โดยเน้นด้านการผลิตเกษตร ดังนั้น แรงงานเวียดนามที่มีฝีมือดีและกำลังอยู่ในวัยหนุ่มสาวได้ดึงดูดความสนใจของบริษัทญี่ปุ่น โดยเฉพาะ ด้านการแปรรูปและการผลิต”

สัญญาณที่น่ายินดีของความสัมพันธ์ร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศคือเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา  เวียดนามได้ส่งแก้วมัวกรงวดแรกไปยังตลาดญี่ปุ่น  ควบคู่กันนั้น ผลิตภัณฑ์การเกษตรอื่นๆ เช่น มะม่วง กล้วย ลิ้นจี่ ผักและผลไม้ชนิดอื่นๆของเวียดนามจะมีโอกาสเจาะตลาดญี่ปุ่น  นาย เหงวียนเจื่องเซิน อัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศญี่ปุ่นได้เผยว่า “ถึงแม้ ญี่ปุ่นเป็นตลาดที่มีมาตรฐานที่เข้มงวดแต่ก็เป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการส่งออกของเวียดนาม ในเวลาที่ผ่านมา ตลาดผลิตภัณฑ์การเกษตรของเวียดนามมีก้าวเดินที่สำคัญในการครองส่วนแบ่งในตลาดญี่ปุ่น  การส่งออกแก้วมังกรเนื้อแดงและผลไม้ชนิดอื่นๆไปยังตลาดญี่ปุ่นจะสร้างโอกาสใหม่ให้แก่ผลิตภัณฑ์การเกษตรของเวียดนาม”

บนพื้นฐานของความคิดริเริ่มเวียดนาม-ญี่ปุ่นในระยะที่4และยุทธศาสตร์การพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมในกรอบความร่วมมือเวียดนาม-ญี่ปุ่นจนถึงปี2020และวิสัยทัศน์ปี2030  ทั้งสองประเทศกำลังผลักดันการปฏิบัติข้อตกลงที่ผู้นำทั้งสองประเทศได้ลงนามเพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายให้เข้าสู่ส่วนลึก

ผลักดันช่องทางการทูตระหว่างรัฐสภา

  ควบคู่กับความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีงาม ในหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศได้รับการเสริมสร้างและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง  ทั้งสองฝ่ายดำรงการฐแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนในทุกระดับ  โดยเฉพาะ คณะผู้แทนระดับคณะกรรมการและกลุ่มส.ส.มิตรภาพเวียดนาม-ญี่ปุ่นและสหภาพส.ส.มิตรภาพญี่ปุ่น-เวียดนาม  ในฟอรั่มรัฐสภาระดับภูมิภาคและโลก  คณะผู้แทนรัฐสภาเวียดนามและญี่ปุ่นต่างมีจุดยืนและมีความคิดเห็นที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับการสร้างสรรค์และรักษาสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อการพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและให้การสนับสนุนกันในการแก้ไขปัญหาในภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง

ภายหลังการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี1973  นี่เป็นการเยือนเวียดนามครั้งที่2ของประธานสภาล่างญี่ปุ่น  ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศและสองรัฐสภา  ผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองรัฐสภาตามเนื้อหาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกเวียดนาม-ญี่ปุ่นและการปฏิบัติวิสัยทัศน์ความสัมพันธ์เวียดนาม-ญี่ปุ่น.

คำติชม