ความมั่นคงด้านนิวเคลียร์- เรื่องที่ทุกประเทศให้ความสนใจ

Chia sẻ
(VOVworld)- วันที่ 27มีนาคมนี้ การประชุมสุดยอดความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งที่ 2 ได้เปิดขึ้นเพื่อหารือถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์จากภัยก่อการร้าย ซึ่งถึงแม้ว่าเป้าหมายที่บรรดาผู้นำโลกได้ตั้งไว้นั้นจะมีความชัดเจนแต่การปฏิบัติกลับเป็นสิ่งที่ยากและมีหลายปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้
(VOVworld)- วันที่ 27มีนาคมนี้ การประชุมสุดยอดความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งที่ 2 ได้เปิดขึ้นเพื่อหารือถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์จากภัยก่อการร้าย ซึ่งถึงแม้ว่าเป้าหมายที่บรรดาผู้นำโลกได้ตั้งไว้นั้นจะมีความชัดเจนแต่การปฏิบัติกลับเป็นสิ่งที่ยากและมีหลายปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้
ความมั่นคงด้านนิวเคลียร์- เรื่องที่ทุกประเทศให้ความสนใจ - ảnh 1
การประชุมสุดยอดความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งที่ 2

     การประชุมสุดยอดความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดโดยมีการเข้าร่วมของผู้นำประเทศและรัฐบาล53ประเทศพร้อมผู้นำองค์การระหว่างประเทศ4องค์กร ซึ่งเพิ่มขึ้น10คนเมื่อเทียบกับการประชุมครั้งก่อนที่มีขึ้น ณ กรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐเมื่อปี2010 ซึ่งตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ที่ประชุมครั้งนี้อาจจะสามารถยืนยันถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของประชาคมระหว่างประเทศในการป้องกันการก่อการร้ายด้านนิวเคลียร์ สนับสนุนกิจกรรมขององค์การระหว่างประเทศต่างๆเช่น สหประชาชาติและไอเออีเอในการป้องกันการผลิตนิวเคลียร์ หรือโดยการถอดบทเรียนจากอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะของญี่ปุ่นเพื่อแสวงหามาตรการปกป้องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จากภัยพิบัติและป้องกันการก่อการร้ายด้วยสารกัมมันตรังสี ประกาศผลงานล่าสุดในการปรับลดวัตถุนิวเคลียร์และพันธกรณีใหม่ของประเทศที่ร่วมประชุม นอกจากนี้ สื่อต่างๆของสาธารณรัฐเกาหลียังรายงานว่า ในนัดปิดประชุมจะมีการออกแถลงการณ์โซล เพื่อยืนยันถึงคำมั่นระหว่างประเทศในการลดการใช้แร่ยูเรเนี่ยมที่ผ่านการเสริมสมรรถภาพให้เข้มข้น รวมทั้งการขยายการหารือว่าด้วยปัญหาความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์  ซึ่งถึงแม้ว่าการประชุมครั้งนี้ไม่ได้ตั้งเป้าหมายใหม่ที่มีลักษณะแบบก้าวกระโดดแต่การปฏิบัติข้อสรุปต่างๆของที่ประชุมก็ถือว่าไม่ง่าย

ความมั่นคงด้านนิวเคลียร์- เรื่องที่ทุกประเทศให้ความสนใจ - ảnh 2

      ย้อนกลับไปในการประชุมครั้งแรกเมื่อปี2010นั้น ประธานาธิบดีสหรัฐบารักโอบามาก็ได้กำหนดเป้าหมายในการควบคุมวัตถุนิวเคลียร์ภายในปี2014แต่ดูเหมือนว่าจนถึงขณะนี้ โลกก็ยังวุ่นอยู่กับการแสวงหาทางออกให้แก่ปัญหาความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ โดยปัจจุบันจำนวนประเทศที่มีพลังงานนิงเคลียร์ในครอบครองนับวันเพิ่มมากขึ้น บวกกับการขยายตัวขององค์การก่อการร้ายต่างๆ ซึ่งเป็นกองกำลังที่จงใจแสวงหาทุกโอกาสเพื่อเข้าถึงนิวเคลียร์ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพโลก และที่น่าวิตกกว่าก็คือตามรายงานขององค์การระหว่างประเทศปัจจุบัน วัตถุด้านนิวเคลียร์ได้กระจายไปในขอบเขตที่กว้างขึ้นและเทคโนโลยี่ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ก็ได้รับการเผยแพร่มากขึ้นเช่นกัน  ส่วนตามรายงานฉบับล่าสุดของสำนักงาน ไอเออีเอนั้น จนถึงปี2011ทั่วโลกมีแร่ยูเรเนี่ยมรวม1600ตันที่ได้รับการเสริมสมรรถภาพในระดับสูงและแร่พลูโตเนี่ยมอีก500ตัน ซึ่งสามารถนำไปผลิตหัวรบนิวเคลียร์ได้กว่า1แสน2หมื่นหัว นอกจากนี้ ยูเรเนี่ยมที่ได้รับการเสริมสมรรถภาพเพื่อเป้าหมายพลเรือนก็ไม่ได้ถูกควบคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งนั่นไม่รวมถึงการที่ในช่วงปี1993-2011 มีรายงานกว่า2พันฉบับเกี่ยวกับการรั่วไหล การโขมยหรือการค้าแร่สำหรับการผลิตนิวเคลียร์อย่างผิดกฎหมายและจำนวนแร่สำหรับการผลิตนิวเคลียร์ที่หายไปคิดเป็นร้อยละ60 ทั้งนี้การประชุมความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งที่2ที่กำลังมีขึ้น ณ กรุงโซล ถือเป็นการสานต่อการประชุมสุดยอดว่าด้วยการปลดและไม่เผยแพร่อาวุธนิวเคลียร์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อปี2009และการประชุมสุดยอดความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งแรกที่กรุงวอชิงตันเมื่อปี2010  โดยการที่ผู้นำโลกได้ประชุมหารือกันรวม3ครั้งในรอบหลายปีมานี้เพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาเดิมๆนั้นก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงด้านนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพของมนุษยชาติ

            ซึ่งจากเนื้อหาสาระที่จะถูกระบุในแถลงการณ์ในนัดปิดประชุมครั้งนี้ ประชามติโลกได้ตั้งความหวังไว้ว่า ประเทศต่างๆจะปฏิบัติมาตรการรักษาความมั่นคงด้านนิวเคลียร์อย่างเข้มแข็งและจริงจังมากขึ้นถึงแม้ทุกคนต่างตระหนักเป็นอย่างดีแล้วว่า การปฏิบัติคำมั่นที่เป็นรูปธรรมนั้นจะเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลานานก็ตาม./.

Hong Van-VOV5

คำติชม