( VOVworld )-ท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกฯเวียดนามได้เข้าร่วมการประชุมผู้นำสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ครั้งที่ 23 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ บรูไนระหว่างวันที่ ๘ ถึงวันที่ ๑๐ ตุลาคม โดยในการประชุมครั้งนี้ เวียดนามกับชาติสมาชิกอาเซียนอื่นๆได้ส่งเสริมบทบาทเป็นชาติสมาชิกที่กระตือรือร้นและมีความรับผิดชอบในการสร้างสรรค์อาเซียนให้เข้มแข็งมากขึ้นเพื่อมุ่งสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๐๑๕
ท่านเหงวียนเติ้นหยุง
นายกฯเวียดนาม
การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ ๒๓ มีขึ้นในขณะที่อาเซียนกำลังเร่งสร้างประชาคมให้เสร็จโดยเร็วและขยายการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนภายในกลุ่ม อีกทั้งกำลังร่างวิสัยทัศน์อาเซียนหลังปี ๒๐๑๕โดยมีเป้าหมายสำคัญๆคือ การเสริมสร้างกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมและผสมผสานของอาเซียนในปัจจุบัน การส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคและการแก้ไขปัญหาของโลก ทั้งนี้ การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ ๒๓ นี้และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้องจะเน้นหารือถึงการมุ่งสู่ความเป็นประชาคมอาเซียนภายในปี ๒๐๑๕ การขยายการเชื่อมสัมพันธ์และเชื่อมโยงตลอดจนความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประเทศหุ้นส่วนในกรอบอาเซียนบวก๑ อาเซียนบวก๓และการประชุมผู้นำเอเชียตะวันออกหรืออีเอเอสเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอาเซียนภายหลังปี ๒๐๑๕
ความท้าทายบนเส้นทางไปสู่ประชาคมอาเซียน
ภายหลังได้รับการจัดตั้งและพัฒนามา ๔๖ ปีผ่านระยะต่างๆที่มีทั้งความรุ่งเรืองและความท้าทาย ปัจจุบันองค์การอาเซียนได้พัฒนากลายเป็นองค์การร่วมมือในทุกด้านของภูมิภาค เป็นองค์การการเมืองและเศรษฐกิจที่คล่องตัวที่ดำเนินกิจกรรมบนพื้นฐานกฎบัตรอาเซียน มีบทบาทและสถานะที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย-แปซิฟิก อาเซียนยังเป็นศูนย์กลางในการรักษาสันติภาพ ความมั่นคง ความมีเสถียรภาพและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก จนถึงขณะนี้ อาเซียนได้ปฏิบัติกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนภายในปี ๒๐๑๕ ได้ร้อยละ ๗๐ บนพื้นฐาน ๓ เสาหลักคือ การเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคม อย่างไรก็ตาม การสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนตามกำหนดการ การร่างวิสัยทัศน์ภายหลังปี ๒๐๑๕ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาต่างๆของภูมิภาคอย่างกลมกลืนนั้นกำลังเป็นความท้าทายสำหรับอาเซียนที่เรียกร้องให้องค์กรนี้ต้องมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่และความพยายามในการฟันฝ่าอุปสรรค์เหล่านี้ให้ได้
เวียดนามเป็นชาติสมาชิกที่เหนี่ยวแน่นของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในกระบวนการพัฒนาของอาเซียนดังกล่าวและสืบสานผลงานภายหลังเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนมา ๑๘ ปี นับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆอย่างแข็งขัน รวมถึงกระบวนการพัฒนาอาเซียน มีส่วนร่วมต่อการผลักดันสันติภาพ ความมั่นคง ความมีเสถียรภาพและความร่วมมือในภูมิภาค นอกจากนี้ เวียดนามยังร่วมกับชาติสมาชิกอาเซียนในการผลักดันความสามัคคีและปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานขององค์กร โดยเฉพาะหลักการเกี่ยวกับการทาบทามและตกลงกัน เวียดนามสามารถแก้ไขปัญหาที่อ่อนไหวและซับซ้อน อีกทั้งร่วมกับชาติสมาชิกอื่นๆในการแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างสมเหตุสมผลบนเจตนารมณ์ของกฎบัตรอาเซียนเพื่อผลประโยชน์ขององค์กรฯ ทั้งนี้ได้มีส่วนร่วมในการรักษาสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือและชื่อเสียงของอาเซียน เวียดนามยังคงผลักดันการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ ขยายการเชื่อมสัมพันธ์และเชื่อมโยงภายในกลุ่มและภูมิภาค การลดความเหลื่อมล้ำในการพัฒนา การส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยความเท่าเทียม นายฝ่ามกวางวินห์ รมช.ต่างประเทศเปิดเผยว่า “ เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนเมื่อปี ๑๙๙๕ ซึ่งตรงกับช่วงที่มีการกำหนดแผนสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน เวียดนามสามารถปฏิบัติหน้าที่ของชาติสมาชิกต่อเป้าหมายของอาเซียนอย่างสมบูรณ์ โดยลดภาษีสินค้าได้ร้อยละ ๙๙ เหลือตั้งแต่ร้อยละ๐ถึงร้อยละ ๕ เท่านั้นตามกำหนดแม้จะเป็นเศรษฐกิจที่ด้อยพัฒนาก็ตาม นอกจากนี้แล้ว เวียดนามยังเข้าร่วมการสร้างกลไกระดับภูมิภาคด้วย ”
ปี ๒๐๑๓ นี้ เวียดนามดำรงตำแหน่งผู้ประสานการสนทนาระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรปหรืออียู ( วาระปี ๒๐๑๒-๒๐๑๕ ) ประธานคณะกรรมการอาเซียนนดูแลการบริหารจัดการภัยธรรมชาติหรือเอซีดีเอ็ม ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมอาเซียนครั้งที่ ๒๓ นี้ นายกฯเหงวียนเติ้นหยุงจะเป็นประธานการประชุมเอซีดีเอ็มครั้งที่ ๒๓ และการประชุมเอซีดีเอ็มกับประเทศคู่เจรจา นายฝ่ามกวางวินห์เปิดเผยต่อไปว่า “ เวียดนามตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นหากภูมิภาคนี้พัฒนาอย่างสันติเราก็พลอยได้รับประโยชน์ด้วย ดังนั้นผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของเราคือการพัฒนาเป็นประชาคมอาเซียนซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ที่สำคัญของเวียดนามเพราะเราจะได้อยู่ในบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความมีเสถียรภาพและการพัฒนา อีกทั้งสามารถแสวงหาผลประโยชน์จากเศรษฐกิจต่างๆในกลุ่มอาเซียนเพื่อพัฒนา ซึ่งเราทำได้ดีแล้ว ”
การที่ท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกฯเวียดนามเข้าร่วมการประชุมอาเซียนครั้งที่ ๒๓ ก็เพื่อส่งเสริมบทบาทของเวียดนามต่อไปในการผลักดันความสามัคคีและบทบาทของอาเซียนที่เป็นศูนย์กลางในกลไกของภูมิภาคที่กำลังก่อตัวขึ้น อันเป็นการมีส่วนร่วมต่อการผลักดันสันติภาพ ความมั่นคง ความมีเสถียรภาพและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในโลก ./.