ความท้าทายที่ยากจะฝ่าฟันสำหรับคณะผู้บริหารชุดใหม่ของอัฟกานิสถาน

Hong Van/VOV5
Chia sẻ
(VOVworld)-วันที่29กันยายน นายอาชราฟ กานี ได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน อันเป็นการเสร็จสิ้นการบริหารประเทศอัฟกานิสถานเป็นเวลา13ปีของนายฮามิด คาร์ไซนับตั้งแต่ระบอบตาลิบันถูกโค่นล้มเมื่อปี2001 รวมทั้งเป็นการสร้างนิมิตหมายแห่งการถ่ายโอนอำนาจอย่างมีประชาธิปไตยครั้งแรกในประเทศนี้ หลังพิธีสาบานตน นายกานีได้ประกาศแต่งตั้งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเทียบเท่านายกฯ

(VOVworld)-วันที่29กันยายน นายอาชราฟ กานี ได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน อันเป็นการเสร็จสิ้นการบริหารประเทศอัฟกานิสถานเป็นเวลา13ปีของนายฮามิด คาร์ไซนับตั้งแต่ระบอบตาลิบันถูกโค่นล้มเมื่อปี2001 รวมทั้งเป็นการสร้างนิมิตหมายแห่งการถ่ายโอนอำนาจอย่างมีประชาธิปไตยครั้งแรกในประเทศนี้ หลังพิธีสาบานตน นายกานีได้ประกาศแต่งตั้งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเทียบเท่านายกฯ

ความท้าทายที่ยากจะฝ่าฟันสำหรับคณะผู้บริหารชุดใหม่ของอัฟกานิสถาน - ảnh 1
นาย อาสราฟ กานี(ขวา)และนาย อับดุลเลาะห์(AFP)

กว่าที่จะมีพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีคนใหม่นี้ ชาวอัฟกานิสถานและประชาคมระหว่างประเทศก็ต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่อรอคู่แข่งสองคนในการชิงตำแหน่งที่มีอำนาจสูงสุดนี้ทำการเจรจาเพื่อบรรลุความตกลงในการแบ่งอำนาจ โดยนายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์ คู่แข่งของนายกานีรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงหรือซีอีโอ

ความขัดแย้งภายในคืออุปสรรค

ประชามติทั้งในอัฟกานิสถานและระหว่างประเทศต่างมีความคาดหวังว่าผู้นำคนใหม่ทั้งสองคนสามารถสร้างรัฐบาลแห่งการไกล่เกลี่ยปรองดองกันเพื่อนำสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่อัฟกานิสถาน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเห็นว่า ประเทศนี้จะต้องเผชิญกับความท้าทายอีกมากมายซึ่งจะเห็นได้จากปัญหาการจัดตั้งพันธมิตรที่กุมอำนาจระหว่างสองฝ่ายที่เป็นคู่แข่งกันนั้นมิใช่เรื่องง่าย โดยนายอับดุลเลาะห์ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มชาติพันธุ์ทาจิก ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่อันดับสองของอัฟกานิสถานรวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์อีกหลายกลุ่มทางภาคเหนือ ส่วนนายกานีได้รับการสนับสนุนจากชาวปาซตุนทางภาคตะวันออกและภาคใต้ ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดปัญหาพรรคฝ่ายในรัฐบาลที่ยากจะให้ความร่วมมือกันได้

นอกจากนั้นอันที่จริงแล้ว การที่ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงการแบ่งอำนาจก็มาจากแรงกดดันของสหประชาชาติและประชาคมระหว่างประเทศหากมิใช่เป็นความปรารถนาของแต่ละคนรวมทั้งผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย ดังนั้นผู้สังเกตุการณ์หลายคนเห็นว่าข้อตกลงแบ่งปันอำนาจจะช่วยนำพาประเทศอัฟกานิสถานพ้นจากวิกฤตทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาหลายเดือนเป็นการชั่วคราวเท่านั้นเพราะความขัดแย้งที่ลึกซึ้งที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ผ่านมาจะทำให้อัฟกานิสถานยากที่จะสร้างพันธมิตรที่สามารถทำการบริหารประเทศอย่างมีประสิทธิภาพได้

ค้ำประกันความมั่นคง ฟื้นฟูเศรษฐกิจ

นอกจากต้องปรับเสถียรภาพภายในแล้วผู้บริหารชุดใหม่ของอัฟกานิสถานยังต้องรับมือกับปัญหาความมั่นคงและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยก่อนพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีได้เกิดเหตุโจมตีพลีชีพสถานีตำรวจแห่งหนึ่งใกล้สนามบินในกรุงคาบูลจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน ซึ่งกลุ่มตาลิบันได้ออกมายอมรับผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ว่าเป็นผู้ลงมือ อันเป็นการแสดงให้เห็นว่าการต่อต้านกลุ่มตาลิบันคือหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องรับมือและยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าสงครามต่อต้านตาลิบันที่ดำเนินการในรอบ10ปีที่ผ่านมาไม่บรรลุผลตามความหวัง ทั้งนี้จึงไม่แปลกใจที่ในบทปราศรัยหลังพิธีสาบานตน ประธานาธิบดีคนใหม่ของอัฟกานิสถานได้เรียกร้องให้กลุ่มตาลิบันเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพ นอกจากนี้นายกานียังลงนามสนธิสัญญาความมั่นคงทวิภาคีหรือบีเอสเอกับสหรัฐซึ่งเป็นข้อตกลงที่อดีตประธานาธิบดีฮามิดคาร์ไซได้ปฏิเสธมาแล้วในขณะที่กำลังดำรงตำแหน่ง สนธิสัญญานี้อนุญาตให้ทหารพันธมิตรที่สหรัฐเป็นแกนนำกว่า1หมื่นนายประจำการต่อในอัฟกานิสถานเพื่อสนับสนุนด้านการฝึกอบรมให้แก่กองทัพและตำรวจของประเทศนี้ แต่อย่างไรก็ดีการลงนามบีเอสเอก็ถือเป็นดาบสองคมเพราะตาลิบันได้ยืนยันว่าจะต่อต้านการปรากฎตัวของทหารสหรัฐในอัฟกานิสถานหลังปี2014

นอกจากสนธิสัญญาบีเอสเอ ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน อาชราฟ กานี ยังมีแผนที่จะลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับระเบียบการปฏิบัติงานของกองกำลังนาโต้โดยอนุญาตให้องค์การนี้คงทหารประมาณ2พันนายไว้ในอัฟกานิสถาน

ในขณะเดียวกัน ความไร้เสถียรภาพทางการเมือง การใช้ความรุนแรงและการพัฒนาโดยขาดการปฏิรูปที่จำเป็นกำลังคุกคามแนวโน้มการพัฒนาของเศรษฐกิจอัฟกานิสถาน ซึ่งตามรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศไอเอ็มเอฟ คาดว่าจีดีพีของอัฟกานิสถานจะลดจากร้อยละ3.6ในปี2013ลงเหลือร้อยละ3.2ในปีนี้ ซึ่งเป็นอันว่ารัฐบาลชุดใหม่จะต้องเผชิญกับวิกฤตงบประมาณที่ต้องชลอเงินเดือนเดือนตุลาคมของข้าราชการเนื่องจากที่งบเหลืออยู่ไม่ถึง116ล้านเหรียญสหรัฐ

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าความท้าทายที่กำลังรออยู่นั้นไม่ง่ายที่จะฝ่าฟันสำหรับคณะผู้นำชุดใหม่ของอัฟกานิสถาน ซึ่งพวกเขาจะประสบความสำเร็จในการรักษาความมั่นคงทางการเมืองและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้หรือไม่นั้น ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่มีตอนจบ./.

คำติชม