การลงมติไว้วางใจต่อเจ้าหน้าที่บริหารเป็นสิ่งจำเป็น

VOV
Chia sẻ
(VOV)-วันที่๒๙เดือนนี้ ที่ประชุมรัฐสภาครั้งที่๔สมัยที่๑๓ได้ทำการอภิปรายร่างมติเกี่ยวกับการลงมติไว้วางใจและการลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้งหรือสรรหาซึ่งได้รับการชื่นชมจากบรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเพราะแสดงให้เห็นถึงการปรังปรุงงานด้านเจ้าหน้าที่ให้ดีขึ้น

(VOV) –  วันที่๒๙เดือนนี้ ที่ประชุมรัฐสภาครั้งที่๔สมัยที่๑๓ได้ทำการอภิปรายร่างมติเกี่ยวกับการลงมติไว้วางใจและการลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้งหรือสรรหาซึ่งได้รับการชื่นชมจากบรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเพราะแสดงให้เห็นถึงการปรังปรุงงานด้านเจ้าหน้าที่ให้ดีขึ้น

การลงมติไว้วางใจต่อเจ้าหน้าที่บริหารเป็นสิ่งจำเป็น - ảnh 1
การลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้งหรือสรรหา(Photo:Internet)

เมื่อได้ถูกถามเกี่ยวกับร่างมติว่าด้วยขั้นตอน ระเบียบการและวิธีการลงมติไว้วางใจและลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้งหรือสรรหา ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแทบทุกคนเห็นว่า นี่เป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงการดำเนินงานของรัฐสภาและ สภาประชาชนให้ดีขึ้นเพื่อให้การดำเนินงานของรัฐสภาและสภาประชาชนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นายTrân Thanh Vânเจ้าหน้าที่เกษียรอายุราชการของแขวงNgô Quyền เมืองท่าไฮฟองกล่าวว่า ผลของการลงมติไว้วางใจจะมีส่วนร่วมประเมินทักษะความสามารถ และความรู้ของเจ้าหน้าที่บริหารอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพพร้อมทั้งปรับปรุงแถวขบวนเจ้าหน้าที่บริหารทุกระดับให้มีความสมบูรณ์ นายTrân Thanh Vânเห็นว่า ผลของการลงคะแนนไว้วางใจควรได้รับการเผยแพร่อย่างเปิดเผย“ไม่เพียงแต่ผมเท่านั้นหากทุกคนต่างให้การสนับสนุนการลงคะแนนไว้วางใจและควรเผยแพร่ผลการลงคะแนนเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้รับทราบอย่างเปิดเผย”  บรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเห็นว่า การแบ่งขอบเขตที่แตกต่างกันเพื่อประเมินความไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้งหรือสรรหาเป็นสิ่งที่สอดคล้อง แสดงให้เห็นถึงความเคร่งครัดและเป็นสิ่งจำเป็นต่อผู้ที่ถูกลงมติไว้วางใจอีกทั้งอาจช่วยเลี่ยงความเข้าใจผิดระหว่างการลงมติไว้วางใจกับการลงคะแนนไว้วางใจ นายNguyễn Trọng Dũng ประธานสภาประชาชนเขตBa Đình กรุงฮานอยเห็นว่า ควรลงคะแนนไว้วางใจทันทีหลังจากที่มีผลการลงมติไว้วางใจต่ำโดยไม่ต้องรอจนถึงการลงมติไว้วางใจครั้งที่๒ อย่างไรก็ดี ต้องสร้างโอกาสเพื่อให้เจ้าหน้าที่บริหารมีโอกาสอธิบายข้อบกพร่อง“ถ้าการลงมติไว้วางใจได้เกินกว่าร้อยละ๕๐ ผมคิดว่า ๑ปี โดยไม่ต้องรอถึง๒ปี ควรต้องลงคะแนนไม่ไว้วางใจทันที แต่ต้องมีรายงานอธิบายของผู้ที่พวกเราจะลงคะแนนไม่ไว้วางใจก่อนซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้งานด้านเจ้าหน้าที่ของพรรคสามารถปฏิบัติขั้นตอนต่อๆไป”   นายNguyễn Xuân Điệp รองประธานแนวร่วมปิตุภูมิสาขากรุงฮานอยเห็นว่า ควรไตร่ตรองต่อข้อกำหนดว่าด้วยการลงมติไว้วางใจต่อรองประธานสภาชนเผ่า รองหัวหน้าคณะกรรมาธิการต่างๆของรัฐสภาซึ่งยากที่จะปฏิบัติข้อกำหนดนี้เพราะผู้ที่ดำรงตำแหน่งรองยังควบดูแลอีกตำแหน่ง  นายNguyễn Xuân Điệp ยังเสนอให้มีความเข้มงวดต่อขั้นตอนการลงมติไว้วางใจ“ขั้นตอนการลงคะแนนไว้วางใจมีความสำคัญกว่าการลงมติไว้วางใจ  การลงมติไว้วางใจเป็นการสำรวจเบื้องต้น ตามความเห็นของผมขั้นตอนการลงคะแนนไว้วางใจต้องรัดกุมกว่าการลงมติไว้วางใจเพราะขั้นตอนการลงคะแนนไว้วางใจเกี่ยวข้องถึงท่าทีและความรับผิดชอบของบรรดาผู้แทนรัฐสภาต่อตำแหน่งที่รัฐสภาได้เลือก”  ร่างมติดังกล่าวเป็นการแปรข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ กฏหมายเจ้าหน้าที่ของรัฐสภา กฏหมายการตรวจสอบของรัฐสภาให้เป็นรูปธรรมอีกทั้งเป็นงานที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติมติของการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่๔เกี่ยวกับปัญหาเร่งด่วนในการสร้างสรรค์พรรคอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชนทั่วประเทศมีความเชื่อมั่นว่า หลังจากที่ได้รับการอนุมัติในการประชุมรัฐสภาครั้งที่๔นี้ มติดังกล่าวจะมีส่วนร่วมในการสร้างมาตรฐานการประเมินทักษะความสามารถของเจ้าหน้าที่บริหารและปรับปรุงแถวขบวนเจ้าหน้าที่ทุกระดับให้มีความสมบูรณ์ ./.


คำติชม