การขยายตัวด้านเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนในไตรมาสที่ 2 ลดลงร้อยละ 12.1 (dw.com) |
ตามผลการสำรวจของ Standard Eurobarometer ที่ประกาศเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ชาวยุโรปร้อยละ 64 แสดงความเห็นว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังเลวร้ายและมีเพียงร้อยละ 42 ที่เชื่อว่า เศรษฐกิจของประเทศจะฟื้นตัวหลังผลกระทบในทางลบของการแพร่ระบาดของโควิด – 19 การที่เรื่องเศรษฐกิจกลายเป็นหนึ่งในเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้น ๆ ของชาวยุโรปในปี 2020 แทนปัญหาการอพยพและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามการสำรวจเมื่อปี 2019 ได้แสดงให้เห็นถึงภาพรวมส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจยุโรปในปัจจุบัน
ลดการคาดการณ์การเติบโตพร้อมกัน
ตามการคาดการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน คณะกรรมาธิการยุโรปได้แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจของเขตยูโรโซนจะเติบโตร้อยละ 4.2 ในปีหน้า ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ถูกเสนอในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาคือร้อยละ 6.1 อีซีเชื่อว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคกำลังถดถอยถึงแม้จะฟื้นตัวดีกว่าการคาดการณ์ในกลางปีที่ผ่านมา การเติบโตทางเศรษฐกิจของเขตยูโรโซนจะลดลงร้อยละ 7.8 ในปี 2021 แทนร้อยละ 8.7 ตามที่เคยคาดการณ์ไว้
การชะลอตัวของเศรษฐกิจมีความชัดเจนมากขึ้นในบางประเทศชั้นนำของยุโรป ในเยอรมนี แนวโน้มการฟื้นตัวของคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมได้ชะลอตัวในเดือนกันยายนในสภาวการณ์ที่รัฐบาลปฏิบัติมาตรการใหม่เพื่อรับมือสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโรคโควิด -19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้คือร้อยละ 1.5 ส่วนที่ฝรั่งเศส กิจกรรมทางธุรกิจได้รับการคาดการณ์ว่า จะลดลงประมาณร้อยละ 15 เมื่อคำสั่งล๊อกดาวน์ได้รับการประกาศใช้อีกครั้ง ที่สเปนเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในไตรมาสที่สาม แต่ผลผลิตทางเศรษฐกิจยังคงต่ำกว่าร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ในการแถลงข่าวหลังการประชุมกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรปผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน นาย Valdis Dombrovskis รองประธานบริหารของคณะกรรมาธิการยุโรปได้เผยว่า ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นช่วงที่เต็มไปด้วยความท้าทายต่อทุกประเทศอียู ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือประเทศต่างๆต้องหารือและประสานนโยบาย อีกทั้งเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเตรียมและปฏิบัติแผนการปฏิรูปและลงทุนเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
ร้านต่างๆในยุโรปต้องปิดประตูหลังคำสั่งล๊อกดาวน์ (Reuters) |
อนุมัติมาตรการด้านการเงิน
ในความพยายามเพื่อแก้ไขความชะงักงันเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน รัฐสภาสหภาพยุโรปหรืออีพีและ 27 ประเทศสมาชิกได้เห็นพ้องที่จะแนบร่างกฎหมายงบประมาณระยะยาวของกลุ่มเข้ากับกลไกที่กำหนดให้ประเทศต่างๆต้องให้ความเคารพกฎหมายของอียู ซึ่งการเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ถูกมองว่าจะช่วยแก้ไขความชะงักงันในการอนุมัติงบประมาณระยะยาว 1 ล้าน 1 แสนล้านยูโรและวงเงินช่วยเหลือมูลค่า 7 แสน 5 หมื่นล้านยูโรเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของภูมิภาคหลังจากผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 นาย Michael Clauss เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำสหภาพยุโรปยืนยันว่า นี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เปิดทางไปสู่การอนุมัติงบประมาณของสหภาพยุโรปและวงเงินช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ ก่อนหน้านี้ อีพีได้ปฏิเสธไม่อนุมัติร่างกฎหมายฉบับนี้ถ้าหากไม่มีเงื่อนไขที่คล้ายกันแนบมาด้วย
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นเพื่อเห็นพ้องเกี่ยวกับวงเงินช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่ "ไม่เคยมีมาก่อน" ภายใต้รูปแบบของเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือ บรรดาผู้นำของอียูได้เห็นพ้องว่าต้องระบุความเท่าเทียมเข้าในร่างกฎหมายด้วย อย่างไรก็ตาม ส.ส ของอีพีได้แสดงความเห็นว่า เงื่อนไขนี้คลุมเครือเกินไปและไม่สามารถค้ำประกันได้ว่า บางประเทศสมาชิกที่ได้รับเงินจากกองทุนช่วยเหลือจะปฏิบัติตามข้อกำหนดของกลุ่ม
ในขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ธนาคารกลางของอังกฤษได้ทำการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ตลาด 1 แสน 5 หมื่นล้านปอนด์ หรือประมาณ 1 แสน 9 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษอาจตกเข้าสู่ภาวะถดถอยที่รุนแรงมากขึ้นเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของหลายประเทศในยุโรป รวมทั้งเขตยูโรโซน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของทวีปโดยไม่รู้ว่าเศรษฐกิจยุโรปจะกลับสู่ภาวะปกติเมื่อใด./.