ภาพการประชุมสภาแห่งชาติ (VGP) |
กฎหมายสำหรับครูอาจารย์ได้แปรทัศนะของพรรคและรัฐเกี่ยวกับสถานะ บทบาทและลักษณะอาชีพครูให้เป็นกรอบทางกฎหมายอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นเอกภาพ
การสะท้อนแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคและรัฐ
พรรคและรัฐเวียดนามถือครูเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เป็นพื้นฐานและเป็นปัจจัยชี้ขาดต่อคุณภาพของการศึกษา โดยกฎหมายสำหรับครูอาจารย์ได้กำหนดฐานะนิติบุคคลของการเป็นครูในโรงเรียนของรัฐและโรงเรียนเอกชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการคุ้มครองการทำงานของครูโรงเรียนเอกชน มีมาตรฐานวิชาชีพครู มีสิทธิและหน้าที่เหมือนครูในโรงเรียนของรัฐ ไม่ใช่เป็นแค่ผู้ปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างแรงงาน
กฎหมายนี้ยังระบุว่า “เงินเดือนของครูอยู่ในระดับสูงสุดในฐานเงินเดือนข้าราชการ” โดยมอบหมายให้รัฐบาลกำหนดนโยบายเงินเดือนสำหรับครูอาจารย์อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ครูยังได้รับเงินอุดหนุนและเบี้ยเลี้ยงสำหรับการทำงานในเขตที่ยากจน เงินช่วยเหลือผู้เรียนในการเข้าถึงการศึกษาและเงินค่าตอบแทนพิเศษสำหรับครูที่มีส่วนร่วมสำคัญและมีประสบการณ์ทำงานหลายสิบปี ซึ่งมีส่วนร่วมเพิ่มรายได้ให้แก่คุณครูทุกคน
กฎหมายนี้ยังขยายขอบเขตและสอดแทรกนโยบายช่วยเหลือคุณครู การรับสมัครและส่งคุณครูไปสอนหนังสือในเขตทุรกันดาร เขตที่อยู่ห่างไกลความเจริญ เขตชายแดน ทะเลและเกาะแก่ง การดึงดูดผู้ที่มีความสามารถเข้าร่วมการฝึกสอนอาชีพหรือในด้านยุทธศาสตร์ เช่น วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล
เข้าใกล้มาตรฐานระดับโลก
ในบริบทของโลกาภิวัตน์ที่ปัญญาชนถือเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์และการพัฒนานวัตกรรมเป็นแรงกระตุ้นการขยายตัว การที่ทุกประเทศต่างเน้นพัฒนาแถวขบวนครูอาจารย์เป็นแนวโน้มที่สำคัญ ซึ่งเวียดนามก็ไม่ได้อยู่นอกแนวโน้มนี้
ทั้งนี้ กฎหมายว่าด้วยครูอาจารย์ได้รับการจัดทำบนพื้นฐานของการผสมผสาน มีการเรียนรู้มาตรฐานระดับโลก เช่น ข้อเสนอปี 1966 ของยูเนสโกและ ILO เกี่ยวกับสภาพการทำงานของครู ข้อเสนอปี 1997 ของยูเนสโกสำหรับอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นพื้นฐานเพื่อค้ำประกันสิทธิ หน้าที่และมาตรฐานวิชาชีพครูในทุกชั้นเรียน ซึ่งการประกาศใช้กฎหมายนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและความรับผิดชอบของเวียดนามในการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 4 ของสหประชาชาติ นั่นคือ “การสร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต”
นาย Jonathan Wallace Baker หัวหน้าสำนักงานตัวแทนของยูเนสโกประจำเวียดนามได้ชื่นชมสภาแห่งชาติเวียดนามที่อนุมัติกฎหมายว่าด้วยครูอาจารย์ โดยเฉพาะนโยบายที่เป็นก้าวกระโดดในการกำหนดเงินเดือนของครูอยู่ในระดับสูงสุดในฐานเงินเดือนข้าราชการ โดยความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ของสภาแห่งชาติในการอนุมัติกฎหมายนี้ได้แสดงให้เห็นถึงคำมั่นที่เข้มแข็งและวิสัยทัศน์ด้านการศึกษาระยะยาวของเวียดนาม พร้อมทั้งเผยว่า ผ่านการมอบอำนาจให้แก่ครู เวียดนามได้ส่งเสริมการลดช่องว่างในการเข้าถึงการศึกษา ยกระดับคุณภาพการศึกษาและมีส่วนร่วมสร้างสังคมที่เข้มแข็ง รอบด้านและมีความสุข
ประวัติศาสตร์การปฏิวัติเวียดนามได้แสดงให้เห็นว่า การศึกษาและฝึกอบรมมีบทบาทพิเศษในการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของประเทศ โดยมาตราที่ 61 ของรัฐธรรมนูญปี 2013 ได้ยืนยันว่า “การพัฒนาการศึกษาคือนโยบายสำคัญเป็นอันดับต้นๆเพื่อยกระดับวุฒิการศึกษา พัฒนาแหล่งบุคลากรและอบรมผู้ที่มีความสามารถ”
ทั้งนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ในโอกาสครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งพรรคและ 100 ปีการสถาปนาประเทศ นำประเทศย่างเข้าสู่ศักราชแห่งการผงาด ที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 10 สมัยที่ 13 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2024 ยังคงระบุการมีบุคลากรที่มีคุณภาพสูงเป็นก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงใหม่การศึกษาและฝึกอบรมคือหน้าที่และมาตรการเชิงยุทธศาสตร์ของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 14
ทั้งนี้และทั้งนั้น แสดงให้เห็นว่า การประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยครูอาจารย์ได้ตอบสนองการแปรทัศนะและแนวทางของพรรคเกี่ยวกับการพัฒนาแถวขบวนครูอาจารย์ ส่งสารเกี่ยวกับการที่เวียดนามให้ความเคารพปัญญาชน อาชีพครูและพร้อมร่วมมือเพื่ออนาคตแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน.