พิธีลงนามข้อตกลงร่วมมือในการปฏิบัติโครงการให้การศึกษาเกี่ยวกับมรดกหว่างแถ่งทังลองและโบราณสถานโก๊ะลวาตามโรงเรียนต่างๆในกรุงฮานอย (hoangthanhthanglong.vn)

พิธีลงนามข้อตกลงร่วมมือในการปฏิบัติโครงการให้การศึกษาเกี่ยวกับมรดกหว่างแถ่งทังลองและโบราณสถานโก๊ะลวาตามโรงเรียนต่างๆในกรุงฮานอยได้มีขึ้น ณ เขตโบราณสถานหว่างแถ่งทังลองในกรุงฮานอยก่อนวันมรดกเวียดนาม 23 พฤศจิกายน โดยโรงเรียนต่างๆในกรุงฮานอยจะจัดทำแผนประสานงานกับศูนย์อนุรักษ์มรดกทังลอง-ฮานอยเพื่อส่งนักเรียนไปทัศนศึกษาที่เขตโบราณสถานหว่างแถ่งทังลองเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับมรดกของเวียดนาม อีกทั้งปลูกฝังจิตสำนึกให้แก่นักเรียนมีส่วนร่วมอนุรักษ์มรดกให้พัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต

ส่วนที่จังหวัดกว๋างนาม ทางการท้องถิ่นได้ตระหนักถึงคุณค่าของการร้องเพลงทำนองบ่ายจ่อยภาคกลางเวียดนาม โดยได้มีโครงการวิจัยต่างๆ อีกทั้งส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้แก่การอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าของการร้องเพลงทำนองบ่ายจ่อยในชีวิตวัฒนธรรมทางจิตวิญญาณของประชาชน นาย เลวันแทง รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว๋างนามได้เผยว่า“พวกเรามีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นอนุรักษ์ศิลปะการร้องเพลงทำนองบ่ายจ่อยเพื่อทำการแสดง โดยศิลปินรุ่นอาวุโสจะอนุรักษ์และสืบทอดให้แก่ศิลปินรุ่นใหม่ นอกจากนี้ การยกย่องและส่งเสริมคุณค่าของการร้องเพลงทำนองบ่ายจ่อยจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวและช่วยให้นักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศได้ชมมรดกวัฒนธรรมนามธรรมการร้องเพลงบ่ายจ่อยในเวลาข้างหน้า”

ส่วนนักวิชาการหลายคนได้เสนอให้ขยายการมีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการอนุรักษ์ปฏิสังขรณ์มรดกวัฒนธรรมเพื่อระดมแหล่งพลังต่างๆ ส่งเสริมความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนและนักท่องเที่ยวในการพัฒนาโบราณสถานกรุงเก่าเว้อย่างยั่งยืน นาย เจิ่นดึ๊กเกื่อง ประธานสมาคมวิทยาศาสตร์ประวัติศาสตร์เวียดนามได้เผยว่า“การส่งเสริมบทบาทและความรับผิดชอบของทางการปกครองทุกระดับและหน่วยงานบริหารภาครัฐในการอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่ามรดกวัฒนธรรมถือเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยการปกป้องและอนุรักษ์คุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ต้องมีการเข้าร่วมของทางการปกครองทุกระดับ โดยเฉพาะการเข้าร่วมของประชาชนถึงจะช่วยให้มรดกวัฒนธรรมสามารถคงอยู่ได้”

ประชาชนเข้าชมการร้องเพลงทำนองบ่ายจ่อย

การที่โครงการปกป้องและส่งเสริมมรดกโลกในเวียดนามได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและมีความคิดสร้างสรรค์เป็นผลจากการที่รัฐบาลเวียดนามมีแนวทางการบริหารมรดกวัฒนธรรมอย่างถูกต้อง โดยนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้กำชับว่า ต้องปฏิบัติหลักการห้ามทำลาย หรือ สร้างความเสียหายให้แก่มรดกเพื่อการพัฒนา ซึ่งในการประชุมปกป้องและส่งเสริมคุณค่ามรดกวัฒนธรรมเวียดนามเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้ชี้ชัดว่า“ต้องส่งเสริมการให้การศึกษาเกี่ยวกับมรดกเพื่อจุดประกายความรักความภาคภูมิใจในชาติ อีกทั้งต้องแสวงหามาตรการที่เหมาะสม เช่น อัพเดทนโยบาย กฎหมาย การแบ่งอำนาจการบริหาร การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อส่งเสริมคุณค่าของมรดก สร้างสรรค์เครื่องหมายการท่องเที่ยวแห่งชาติและมีส่วนร่วมแก้ปัญหาความยากจน ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนสร้างฐานะจากการอนุรักษ์และพัฒนามรดกเพราะการพัฒนามรดกต้องมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังนั้น หน้าที่ของพวกเราคือต้องฟื้นฟูและทำให้มรดกมีประโยชน์ต่อชีวิตของประชาชน”

ทั้งนี้และทั้งนั้น แสดงให้เห็นว่า การอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกในเวียดนามไม่เพียงแต่เป็นความรับผิดชอบของรัฐเท่านั้น หากยังเป็นภารกิจของประชาชนทุกคน โดยรัฐจะสร้างกรอบทางนิตินัยและกลไก นโยบายเพื่อให้ประชาชนส่งเสริมบทบาทเป็นแกนหลักในการปกป้อง อนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าของมรดก ซึ่งการผลักดันให้ประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมมีส่วนร่วมในภารกิจนี้คือแนวโน้มที่จำเป็นและกำลังได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพในเวียดนาม.