เอกอัครราชทูต เหงวียนเฟืองงา ประธานสหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนามและอดีตหัวหน้าคณะผู้แทนถาวรของเวียดนามประจำสหประชาชาติ |
กราบเรียนท่านเอกอัครราชทูต เหงวียนเฟืองงา ท่านมีการประเมินเป็นอย่างไรเกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายเมื่อเวียดนามขึ้นดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020 -2021
“แนวโน้มหลักของโลกในปัจจุบันคือความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ซึ่งประเทศต่างๆ รวมทั้ง ประเทศใหญ่และประเทศเล็กต่างให้ความสำคัญต่อความร่วมมือพหุภาคีและกลไกพหุภาคีเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาร่วมของโลก เวียดนามได้ยกระดับสถานะบนเวทีโลกและมีประสบการณ์ในการเข้าร่วมฟอรั่มพหุภาคีใหญ่ในโลก ในสภาวการณ์ที่การแข่งขันระหว่างประเทศมหาอำนาจอยู่ในระดับสูง ความท้าทายที่เพิ่งเกิดขึ้นคือแนวโน้มเกี่ยวกับการลดคำมั่นต่างๆ ปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียว ยืนหยัดผลประโยชน์ของประชาชาติและลัทธิประชานิยม ซึ่งพวกเราต้องทำอย่างไรเพื่อค้ำประกันประโยชน์ของประเทศ ส่งเสริมคุณค่าร่วมและมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของมนุษย์เพื่อมุ่งสู่โลกที่สันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนา ดังนั้น พวกเราต้องลงทุนด้านแหล่งบุคลากรเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ผสานการพัฒนากับการรักษาความมั่นคงและการค้ำประกันสิทธิมนุษยชน พยายามปฏิบัติหน้าที่และบทบาทการเป็นประเทศสมาชิกของตน”
เวียดนามมีความสะดวกเป็นอย่างไรเมื่อเข้าเป็นสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเวียดนามต้องทำอย่างไรเพื่อปฏิบัติหน้าที่นี้ให้ลุล่วงไปด้วยดี
“เวียดนามมีความสะดวกเมื่อเข้าร่วมกลไกการทูตพหุภาคี โดยเฉพาะ ในฟอรั่มต่างๆของสหประชาชาติ เวียดนามมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์จากผู้นำ กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆ ความตั้งใจในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก คณะเลขาธิการกลางพรรคเพิ่งออกมติเกี่ยวกับการยกระดับประสิทธิภาพของงานการต่างประเทศแบบพหุภาคีในยุคใหม่ จากการมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในทุกระดับ เวียดนามจะเป็นฝ่ายรุกในการระดมแหล่งพลังต่างๆของทั้งระบบการเมืองเพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่เต็มไปด้วยความยากลำบากนี้”
เวียดนามต้องเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ทรัพยากรและแหล่งบุคลากรให้แก่การดำรงตำแหน่งใหม่ให้ลุล่วงไปด้วยดี ดิฉันหวังว่า ในวาระดำรงตำแหน่งนี้ เวียดนามจะยืนยันบทบาทการเป็นสมาชิกที่แข็งขันและมีความรับผิดชอบของประชาคมโลกโดยไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศตนเท่านั้นหากยังผลักดันการรักษาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในโลก นี่ก็เป็นสาส์นที่สำคัญที่เวียดนามอยากส่งถึงเพื่อนมิตรชาวต่างชาติผ่านปฏิบัติการต่างๆในสหประชาชาติ”
การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของสหประชาชาติ โดยเฉพาะ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีความหมายเช่นไรต่อการส่งเสริมการทูตแบบพหุภาคีในนโยบายการต่างประเทศของเวียดนาม
“การทูตพหุภาคีเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในนโยบายการต่างประเทศของทุกประเทศ รวมทั้ง เวียดนาม พวกเราให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อบทบาทของการทูตพหุภาคี ซึ่งได้รับการยืนยันผ่านการเข้าร่วมของเวียดนามในฟอรั่มพหุภาคีต่างๆ เช่น สหประชาชาติ อาเซียนและเอเปก การทูตพหุภาคีมีส่วนร่วมส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศเกี่ยวกับสันติภาพ ความมั่นคงและการพัฒนา ซึ่งการทูตพหุภาคีไม่เพียงแต่สร้างผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม เช่น การยกระดับสถานะของเวียดนามในฟอรั่มพหุภาคี ส่งเสริมความสัมพันธ์ร่วมมือกับประเทศต่างๆ อย่างเช่นที่ฟอรั่มผู้นำเอเปก พวกเราได้ให้การต้อนรับผู้นำของ 21ประเทศสมาชิกเอเปกที่มาเข้าร่วมการประชุมและเยือนเวียดนาม พวกเราได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือฉบับต่างๆ มูลค่าประมาณ 2 หมื่นพันล้านดอลลาร์สหรัฐ สิ่งที่สำคัญคือ การทูตพหุภาคีได้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์บรรยากาศที่สันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงเพื่อเอื้อให้แก่การพัฒนาประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ การทูตพหุภาคีก็เป็นฟอรั่มเพื่อให้เวียดนามแสดงจุดยืนต่อปัญหาระหว่างประเทศ แลกเปลี่ยนประสบการณ์และจุดยืน มีส่วนร่วมสร้างสรรค์โลกที่สันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
ขอขอบคุณท่าน.