สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติทางหลวงหมายเลข9คือหนึ่งในจุดหมายสำคัญบนเส้นทางนี้ |
ทางหลวงหมายเลข9มีระยะทางกว่า300กิโลเมตร เชื่อมระหว่างปากน้ำเกื๋อเวียดผ่านเมืองดงฮา ของจังหวัดกว๋างตริไปถึงฝั่งตะวันออกของแม่น้ำโขงที่ติดกับประเทศไทยของ แขวงสุวรรณเขตประเทศลาว ในช่วงสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกาเพื่อกู้ชาติ เส้นทางนี้มีสถานะที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัดผ่านเทือกเขาเจื่องเซิน ทางเท้าโฮจิมินห์ และเป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงกรังยุทธศาสตร์จากภาคเหนือสู่ภาคใต้ เนื่องจากบทบาทที่สำคัญนี้กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ตั้งระบบฐานทัพทหารอย่างหนาแน่นเลียบตามเส้นทางนี้เช่น แค้มป์คารอล แค้มป์ ฟูลเลอร์ แค้ม แคแซง แค้มหล่างเวิย เป็นต้น เพื่อควบคุมและขัดขวางการสนับสนุนของกองทัพเวียดนามให้แก่สมรภูมิภาคใต้ โดยในช่วงปี1965-1972 กองทัพและประชาชน เวียดนาม-ลาวได้ร่วมการสู้รบและสามารถสร้างชัยชนะที่รุ่งโรจน์บนเส้นทางแห่งนี้ โดยเฉพาะชัยชนะแคแซง ปี1968 ยุทธนาการณ์ทางหลวงหมายเลข9-ภาคใต้ลาวปี1971 ซึ่งได้มีส่วนร่วมสำคัญต่อชัยชนะของยุทธนาการณ์โฮจิมินห์แห่งประวัติศาสตร์ ปลดปล่อยภาคใต้รวมประเทศเป็นเอกภาพเมื่อปี1975
สงครามได้ผ่านพ้นไปหลายสิบปี ทางหลวงหมายเลข9ได้กลายเป็นผืนดินอันศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกพันธ์กับชัยชนะที่รุ่งโรจน์เกรียงไกรในภารกิจการต่อสู้กู้ชาติของประชาชาติเวียดนาม-ลาวที่ปัจจุบันยงคงร่องรอยที่เป็นพยานแห่งประวัติศาสตร์ต่างๆ เช่น ฐานที่มั่นแคแซง หมู่บ้านหล่างเวิย สนามบินต่าเกิน รวมถึงสุสานทหารพลีชีพทางหลวงหมายเลข9 ซึ่งเป็นสถานที่ฝังศพวีรชนที่พลีชีพเพื่อชาติทั้งบนแนวรบนี้และที่ประเทศลาว นาย เหงวียนเวียดมิง รองหัวหน้าคณะกรรมการบริหารเขตโบราณสถานทางหลวงหมายเลข9 สนามบินต่าเกินและฐานที่มั่นแคแซง เผยว่า“จากความพยายามของทุกหน่วยงาน พวกเราสามารถรวบรวมและนำสิ่งของวัตถุขนาดใหญ่เช่น เครื่องบิน รถถัง มาจัดวางแสดงในเขตโบราณสถานแห่งนี้ พร้อมทั้งได้ทำการบูรณะซ่อมแซยกระดับให้มีความสมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง พวกเราได้ต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนจำนวนมากซึ่งรวมทั้งชาวอเมริกันที่เคยเข้าร่วมสงครามในเวียดนามหรือเป็นทหารผ่านศึกอเมริกันก็สนใจอยากกลับมาเยี่ยมสมรภูมิเก่า”
ในขณะเดียวกัน ทางฝ่ายรัฐบาลลาวก็ได้เก็บรักษาสิ่งของต่างๆที่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาแห่งการต่อสู้อย่างดุเดือดและกล้าหาญเพื่อปกป้องชาติบ้านเมืองของทั้งสองประชาชาติลาว-เวียดนามบนเส้นทางหมายเลข9นี้ นาย บุญตานิตทา นายกสมาคมทหารผ่านศึกแขวงสุวรรณเขต กล่าวว่า ทางหลวงหมายเลข9ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวและความสามัคคีพิเศษของกองทัพและประชาชนทั้งสองประเทศ“ภาพทหารอาสาสมัครเวียดนามยังคงฝังลึกอยู่ในใจของพี่น้องประชาชนลาว เพราะกองกำลังทหารเวียดนามได้เดินทัพจากเหนือลงใต้ผ่านเส้นทางนี้เพื่อปลดปล่อยภาคใต้ เส้นทางหมายเลข9ที่ผ่านเทือกเขาเจื่องเซินและเป็นเส้นทางสายหลักเพื่อสนับสนุนภารกิจการปลดปล่อยประเทศลาวและภาคใต้เวียดนาม”
จนถึงทุกวันนี้ ในภารกิจการพัฒนาเปิดประเทศเพื่อผสมผสานปัจจุบัน ทางหลวงหมายเลข9ก็ยังเป็นเส้นทางคมนาคมที่มีบทบาทที่สำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจต่างๆในภูมิภาคอาเซียน และเปิดโอกาสแห่งการพัฒนาใหม่ให้แก่ทั้งเขตอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงที่กว้างใหญ่เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของทุกชาติในภูมิภาค.