กว๋านบะกับตำนานแห่งภูเขาดินฝาแฝด

To Tuan/VOV5
Chia sẻ
(VOVWORLD) -กว๋านบะเป็นอำเภอเขตเขาชายแดนทางเหนือของจังหวัดห่ายาง เป็นประตูเข้าสู่แหล่งอนุรักษ์ธรณีวิทยาโลกที่ราบสูงหินด่งวัน ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของอำเภอกว๋านบะเป็นภูเขาหินที่มีลำธารและหุบเขาตัดผ่าน เส้นทางไปกว๋านบะมีความคดเคี้ยวโอบล้อมตามไหล่เขาได้สร้างเป็นภาพที่งดงามสำหรับผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัย โดยเฉพาะบนเส้นทางไปกว๋านบะจะมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว นั่นคือเขาโดยหรือภูเขาดินฝาแฝดธรรมชาติพร้อมตำนานที่น่าค้นคว้าของชนเผ่าต่างๆในกว๋านบะ

กว๋านบะกับตำนานแห่งภูเขาดินฝาแฝด - ảnh 1อำเภอกว๋านบะตั้งอยู่กลางหุบเขาที่เขียวขจีที่ถูกโอบล้อมด้วยเขาหินในความสูงประมาณ1000-1600เมตรจากระดับน้ำทะเล 

 ในอำเภอกว๋านบะมี12ตำบลเขตเขาที่เป็นหลักแหล่งอาศัยของ16ชนเผ่าพี่น้องโดยร้อยละ60เป็นชาวม้ง ร้อยละ14เป็นคนชนเผ่าเย้า ส่วนคนเผ่าไตมีอยู่ร้อยละ11 ที่เหลือเป็นชนกลุ่มน้อยเผ่าอื่นๆโดยเฉพาะเป็นท้องถิ่นเดียวในเวียดนามที่มีชนเผ่าน้อย ปูอี อาศัยที่ปัจจุบันมีประชากรไม่ถึงพันคน  ชนเผ่าต่างๆในกว๋านบะแม้จะมีวิถีชีวิตที่ไม่เหมือนกันแต่ด้วยวัฒนธรรมที่โดดเด่นของแต่ละชนเผ่าได้สร้างเป็นคลังวัฒนธรรมพื้นเมืองที่หลากหลายทั้งในเรื่องศิลปะการแสดงดนตรีพื้นบ้าน การร้องรำทำเพลง รวมถึงเรื่องตำนาน นิทานต่างๆที่น่าสนใจ

เมื่อพูดถึงกว๋านบะนักท่องเที่ยวก็นึกถึงทัศนียภาพที่ขึ้นชื่อหลายแห่งเช่น ประตูสู่สวรรค์กว๋านบะ ประตูกำแพงเมืองโบราณก๊านตี๋ ถ้ำ โค้หมีตุงวาย หรือแถกเซินเถิ่น รวมถึงเขาโดยหรือภูเขาดินฝาแฝด ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างไว้ให้กว๋านบะที่โอบล้อมด้วยเขาหินสูงเสียดฟ้าและนาบันไดที่สวยงามตามธรรมชาติ  เขาโดย มีความผูกพันกับตำนานรักระหว่างมนุษย์กับนางฟ้า คือเมื่อครั้งโบราณกาล ในท้องถิ่นนี้มีหนุ่มหล่อเผ่าม้งที่รูปร่างสูงใหญ่และมีความสามารถในการเป่าใบไม้ โดยเมื่อเขานั่งเป่าใบไม้ก็เหมือนเสียงลำธาร เสียงนกร้อง เสียงลมพัดที่ไพเราะเพราะพริ้งกังวาลทั่วป่าถึงฟ้าจนทำให้นางฟ้าองค์หนึ่งชื่อหฮวาด่าวบังเอิญได้ฟังเสียงเป่าก็เกิดความซาบซึ้งแล้วแอบลงมาหาคนเป่าและมีใจรักกัน ทั้งสองได้แต่งงานกันและมีลูกชายหนึ่งคน ถึงตอนนั้นเง็กเซียนฮ่องเต้ก็รู้เรื่องแล้วโกรธมากสั่งให้ไปจับนางฟ้าส่งกลับสวรรค์

กว๋านบะกับตำนานแห่งภูเขาดินฝาแฝด - ảnh 2เขาดินฝาแฝดที่มีรูปร่างสวยงามเหมือนเต้านมแม่ 

สำหรับนางฟ้าฮวาด่าวนั้น ด้วยความรักครอบครัวและหวงลูกน้อยที่ต้องการนมแม่ก่อนที่ต้องจากลากันก็ทิ้งนมสองข้างไว้ให้ลูกมีน้ำนมกินและ นั่นคือที่มาของ เขาดินฝาแฝดที่มีรูปร่างสวยงามเหมือนเต้านมแม่ และจากตำนานรักนั้นชาวบ้านก็เล่าขานกันว่าน้ำนมของนางฟ้าได้ช่วยหล่อเลี้ยงผืนดินนี้ให้มีความอุดมสมบูรณ์ พืชพันธุ์เจริญงอกงาม ส่วนผลไม้มีความหอมหวานอร่อยกว่าที่อื่น  ภาพอันสวยงามแห่งธรรมชาติพร้อมตำนานรักที่ซาบซึ้งใจนี้ยังได้สร้างอารมณ์สุนทรีให้นักเขียน นักดนตรีสร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรมต่างๆ นายเหงวียนต๊วนควา ช่างภาพจากฮานอยที่มาเที่ยวห่ายางเผยว่า“นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านทัศนียภาพนี้ต้องหยุดถ่ายรูปบันทึกความสวยงามอย่างน่ามหัศจรรย์ของธรรมชาติ ผมได้มาที่นี่หลายรอบแล้ว ซึ่งแต่ละฤดู ทัศนียภาพแถวนี้จะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน”

บนเส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดห่ายาง นักท่องเที่ยวยังมีโอกาสสัมผัสกับวิถิชีวิตชาวเขาเมื่อเยือนหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยต่างๆ เช่นหมู่บ้านวัฒนธรรมเหิบเตี๊ยน ต.หลุ่งต๊ามที่มีอาชีพทอผ้าลายพื้นเมือง หมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่าไตที่อ.เมืองตามเซินที่ขึ้นชื่อด้วยการแสดงเล่นพิณติ๊ง พิธีเกิ๊บซักของชนเผ่าเย้าที่หมู่บ้านเหนิมดำ งานเทศกาลเกิ่วต่างของชาวม้ง เป็นต้น รวมทั้งได้เที่ยวตลาดนัดเขตเขาที่คึกคักด้วยเสียงแคนเสียงเพลงท่ามกลางสีสันสดใสของชุดพื้นเมืองที่พี่น้องชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆใสไปตลาด ความประทับใจอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องจดจำไปอีกนานคืออาหารพื้นเมืองไม่ว่าจะเป็น เหล้าข้าวโพต หมูรมควัน แหม่นเเม้น ไก่ดำ กุนเชียง เป็นต้น.

คำติชม