 ทุ่งหญ้าหมู่บ้านสวยเถ่า |
อำเภอซิ้นเหมิ่นมีพื้นที่เกือบ 6 หมื่นเฮกตาร์ ด้วยประชากรประมาณ 7 หมื่น 1 พันคนแบ่งเป็น16 กลุ่มชาติพันธุ์ มีชายแดนยาวกว่า 30 กิโลเมตรที่ติดกับประเทศจีนพร้อมด่านชายแดนซิ้นเหมิ่น โดยทางการท้องถิ่นได้พยายามส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากศักยภาพและจุดแข็งต่างๆด้านการท่องเที่ยวเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ เชื่อมโยงและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ นาย ฝามยวีเหี่ยน รองเลขาธิการพรรคสาขาอำเภอและประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอซิ้นเหมื่น เผยว่า
" เรามุ่งสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์หมู่บ้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ผลักดันการเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดห่ายางกับท้องถิ่นชายแดนของจีนและท้องถิ่นภายในประเทศ ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยโดยเฉพาะเทศกาลต่างๆของชาวหนุ่งและชาวม้ง สร้างห่วงโซ่ระหว่างขบวนการผลิตเกษตรกับการบริการสร้างประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยวผ่านการพัฒนาพื้นที่สวนผลไม้และรูปแบบการพัฒนาปศุสัตว์หรือเลี้ยงปลาที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสวิถีชีวิตที่น่าสนใจของคนท้องถิ่น"
ในอำเภอซิ้นเหมิ่นมีแหล่งทัศนียภาพและประวัติศาสตร์แห่งชาติ 4 แห่งคือ สวนหินโบราณ Nấm Dẩn ช่องเขา Gió น้ำตกนางฟ้า น้ำตก Luồng และน้ำตก Trăn นอกจากนี้ พื้นที่ทุ่งหญ้าหมู่บ้านสวยเถ่า(Suoi Thau)ในอำเภอเมือง ก๊กปายของซิ้นเหมิ่นก็ได้รับการขนานนามว่าเปรียบเสมือนทุ่งหญ้าแห่งสวิตเซอแลนด์ในห่ายาง โดยตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและกว้างหลายร้อยเฮกตาร์ เป็นหนึ่งในทุ่งหญ้าที่สวยที่สุดในเวียดนาม แหล่งท่องเที่ยวบ่อน้ำแร่เหนิมจอง (Nam Choong) ในตำบลกวางเหงวียนควบคู่กับแหล่งทัศนียภาพอื่นๆ เช่น ถ้ำเทียนถุย ตลาดโต้รุ่งก๊กป่าย อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์หน่านมา เป็นต้น ก็เป็นอีกจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว คุณเจิ่นถิแทงเฮือง นักท่องเที่ยวจากฮานอย กล่าวว่า
"เรารู้สึกดีและประทับใจมากเมื่อมาเที่ยวที่นี่ ผู้คนเป็นกันเอง ธรรมชาติงดงามเหมือนภาพวาด ดอกไม้ป่าหลากหลายสีสันบานตลอดทาง สร้างเป็นภาพอันแสนโรแมนติก"
 ทุ่งดอกไม้สีชมพู-ดอกบัควีทที่สวยที่สุดในจังหวัดห่ายาง |
ซิ้นเหมิ่นยังเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นแหล่งชมดอกบัควีทที่สวยที่สุดในจังหวัดห่ายาง ด้วยทุ่งดอกไม้สีชมพูบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมและถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก ส่วนหมู่บ้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต่างๆเช่น หน่ารางและกว๋างหะก็ได้รับการส่งเสริมให้พัฒนาเพื่อสร้างโอกาสในการจัดรายการทัวร์ท่องเที่ยวชุมชนและการท่องเที่ยวเชิงสำรวจเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสมาค้นคว้าวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวม้งผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น เทศกาลเก่าต่าว การฟ้อนรำม้ากระดาษ รำแคนม้ง การแสดงขลุ่ยและเพลงพื้นบ้านที่น่าหลงไหล นอกจากนี้ทางการท้องถิ่นยังส่งเสริมให้มีการแนะนำผลิตภัณฑ์ OCOP และแบรนด์สินค้าถิ่นซิ้นเหมิ่นให้แก่ผู้ที่มาเยือน เช่น ข้าวเหนียว Quảng Nguyên ข้าว Gia Dui ชา Chế Là ชา Bản Vẽ เป็นต้น ส่วนเมื่อเดินทางถึงอำเภอเมืองก๊กป่ายซึ่งเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมของซิ้นเหมิ่น นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสดื่มด่ำกับบรรยากาศทางวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยสีสันของตลาดโต้รุ่งก๊กป่ายและเพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีของชนกลุ่มน้อย นาย เหงวียนแองต๊วน ประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอเมืองก๊กป่าย กล่าวว่า
"ปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนนับวันเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เราได้ส่งเสริมให้ประชาชนจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆเพื่อบริการนักท่องเที่ยว เช่น กิจกรรมปิคนิคและปลูกต้นไม้เพื่อส่งเสริมความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม"
เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ ทางการท้องถิ่นเน้นการลงทุนยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเพื่อรองรับและสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยปัจจุบันมีสถานที่บริการการท่องเที่ยวมากกว่า 30 แห่ง โดยเป็นโรงแรม 2 แห่ง โมเทล 8 แห่ง และโฮมสเตย์ตามชุมชนอีกหลายแห่ง นาย หว่างดึ๊กโถ หนึ่งในผู้เปิดบริการโฮมสเตย์ กล่าวว่า:
"เมื่อก่อนครอบครัวเราประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก หลังจากที่ทางการท้องถิ่นส่งเสริมให้พัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน เราก็เปิดให้บริการโฮมสเตย์ ซึ่งช่วยให้เรามีรายได้ที่มั่นคง"
ทุกวันนี้ซิ้นเหมิ่นเป็นเหมือนภาพที่เต็มไปด้วยสีสันของธรรมชาติ ของวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และเกียรติประวัติการปฏิวัติ ท่ามกลางภูเขาตระหง่าน และทิวทัศน์อันแสนงามดั่งบทกวี พร้อมผลิตภัณฑ์พื้นเมืองอันหลากหลาย ซึ่งได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่ต้องการแสวงหาแหล่งพักผ่อนที่เงียบสงบและเป็นมิตรกับธรรมชาติ./.