ภายในร้าน

เรากำลังอยู่ที่ชั้นหนึ่งของร้านปัตตาเวียที่กว้างประมาณ 90 ตารางเมตร ซึ่งกำลังมีลูกค้าเต็มร้าน วันนี้สถานทูตอินโดนีเซียได้จัดงาน “เทสต์ออฟอินโดนีเซีย” ที่ร้านแห่งนี้เพื่อแนะนำอาหารต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ของอินโดนีเซีย

            “อาหารอินโดนีเซียอร่อย แปลกๆ ไม่เหมือนอาหารเวียดนาม โดยเฉพาะเมนูเนื้อวัว มีรสชาดเข้มข้นของโป๊ยกั๊ก อบเชยและกะทิ ฉันชอบขนมที่มีไส้หมูสับเหมือนขนม “โก๊ย”ของเวียดนามแต่รสชาดไม่เหมือน”

            “ตอนทานก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็น่ากิน รสชาดแตกต่างกับอาหารเวียดนาม เครื่องเทศก็ไม่เหมือน สำหรับฉัน แกงโซโตอร่อยที่สุด คิดว่าจะถูกปากชาวเอเชียมาก”

            “นี่คือโอกาสดีเพื่อลิ้มลองอาหารอินโดนีเซียแท้ในกรุงฮานอย อาหารอินโดนีเซียมีเครื่องเทศหลายอย่าง ซึ่งหายากในเวียดนาม รู้สึกดีมากที่ฉันได้ทานอาหารบ้านเกิดที่นี่”

ในช่วงที่มาทำงานในประเทศเวียดนามเมื่อปี 2016 นาย อาซาร์ รีซาล เจ้าของร้านก็สังเกตเห็นว่า นักท่องเที่ยวชาวมุสลิม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซียเมื่อเดินทางมากรุงฮานอยต่างประสบความลำบากในการหาอาหารฮาลาลรับประทาน ดังนั้นจึงเปิดร้านอาหารนี้ขึ้นมา “ปัตตาเวียคือชื่อเก่าของเมืองหลวงจาการ์ตา เราใช้ชื่อนี้เพื่อช่วยให้ลูกค้าจำง่าย หาง่าย ในตอนแรกเราเปิดร้านที่ถนนซวนเหยียว แต่เดี๋ยวนี้ มีลูกค้ามาอุดหนุนจำนวนมากจึงเช่าร้านที่ใหญ่ขึ้นที่บริเวณสุสานประธานโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นเขตท่องเที่ยวที่คึกคักในกรุงฮานอย คำขวัญของร้านคือ เผยแพร่อาหารและวัฒนธรรมอินโดนีเซียต่อคนฮานอยและนักท่องเที่ยว”

นาย เซดยา ปูร์วานโต คือพ่อครัวของร้านที่นาย รีซาล เชิญมาจากอินโดนีเซีย ซึ่งมีประสบการณ์กว่า 10 ปี ในห้องครัวที่กว้างประมาณ 20 ตารางเมตร วัตถุดิบและอุปกรณ์ทำครัวถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ มีการแยกพื้นที่เตรียมอาหารและพื้นที่ปรุงอาหารอย่างเป็นสัดส่วน นายปูร์วานโตและผู้ช่วยในชุดพ่อครัวสีขาว สวมผ้ากันเปื้อนและใส่ถูกมือเพื่อเตรียมอาหาร เขากำลังหั่นแตงกวาและพริกเพื่อใช้ในเมนูเนื้อวัว Rendang ที่ติด 1 ใน 10 เมนูที่อร่อยที่สุดในโลกที่โหวตโดยช่องข่าว CNN  “ในการทำอาหารฮาลาล ผมต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดคือ ผู้ฆ่าสัตว์ต้องเป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งก่อนที่จะฆ่าสัตว์ ต้องสวดมนต์ให้แก่สัตว์ตัวนั้น เมื่อทำอาหารต้องรักษาความสะอาดและผมปรุงอาหารด้วยใจเพื่อให้อาหารอร่อยที่สุด”

นายปูร์วานโตเผยอีกว่า มีหลายคนคิดว่า อาหารอินโดนีเซียมีไขมันสูงแต่จริงๆแล้วเราใส่กะทิในการปรุงและเพื่อให้ลูกค้าที่มาทานสามารถลิ้มลองรสชาดอาหารฮาลาลแท้ๆ เขาก็จะไม่ปรับสูตรของอาหารแต่อาจจะลดความเผ็ดของอาหารตามความต้องการเท่านั้น         “เราคงรสชาดเมนูอาหารอินโดนีเซีย คนเวียดนามหลายคนได้ทานแล้วก็ออกปากชมประทับใจและบอกว่า ทำไมอร่อยอย่างนี้ บางทีมีคนเวียดนามกินเผ็ดไม่เป็น เราก็จะลดความเผ็ดตามคำขอครับ”

เมนูเนื้อวัว Rendang ที่ติด 1 ใน 10 เมนูที่อร่อยที่สุดในโลกที่โหวตโดยช่องข่าว CNN

ร้านปัตตาเวียมีสองชั้น โดยชั้นบน เจ้าของร้านได้ประดับด้วยภาพทิวทัศน์ รูปอาหารอินโดนีเซียที่ดูน่าทานและภาพผ้าบาติกเพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมือนกำลังอยู่ในบ้านของชาวอินโดนีเซีย “เราให้บริการอาหารที่มีรสชาดถูกปากคนเวียดนาม เช่น Sate ayam หรือไก่ย่าง Rendang หรือเนื้อวัวตุ๋นและ NasiGoreng ซึ่งเป็นข้าวผัดอินโดนีเซีย ซึ่งล้วนแต่เป็นเมนูที่ CNN โหวตให้เป็นหนึ่งใน 10 เมนูที่อร่อยที่สุดในโลก ส่วนเครื่องเทศหาซื้อไม่ได้ในเวียดนาม เราต้องนำเข้าจากอินโดนีเซีย ในตอนแรก เมนูเหล่านี้เป็นอาหารแปลกใหม่สำหรับคนเวียดนาม ลูกค้าเวียดนามมาอุดหนุนน้อย แต่จากความพยายามประชาสัมพันธ์ เมนูต่างๆในร้านก็ได้รับความชื่นชอบจากลูกค้าคนเวียดนาม”

คนอินโดนีเซียมีคำพูดที่ว่า “จากปากสู่หัวใจ” โดยถืออาหารเป็นช่องทางเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างคนสู่คน ระหว่างวัฒนธรรมสู่วัฒนธรรม ดังนั้น ในงานแสดงสินค้าต่างๆที่จัดโดยสถานทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามหรือในงานราตรีและกิจกรรมแนะนำวัฒนธรรมต่างๆ ร้านปัตตาเวียก็มาทำอาหารอินโดนีเซียเพื่อแนะนำให้แก่ผู้ที่มาร่วมงานได้ลองทานและในเร็วๆนี้ ร้านปัตตาเวียจะร่วมมือกับทบวงการท่องเที่ยวเวียดนามศึกษาการเปิดทัวร์ท่องเที่ยวอาหารฮาลาลสำหรับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมที่มาเยือนประเทศเวียดนาม หากมีโอกาสแวะมาเที่ยวเวียดนามแล้วอยากลองอาหารฮาลาล ขอเชิญท่านมาสัมผัสบรรยากาศของประเทศหมู่เกาะได้ที่ร้านปัตตาเวีย เลขที่ 116 ถนนหงอกห่า กรุงฮานอย.