ประสิทธิภาพของรูปแบบปลูกกล้วยเพื่อการส่งออกในอำเภอดั๊กดวา จังหวัดยาลาย

Ngọc Anh
Chia sẻ
(VOVWORLD) - อำเภอดั๊กดวา จังหวัดยาลาย มีฟาร์ม การเกษตรเพื่อส่งออก ซึ่งส่วนใหญ่คือกล้วยหลายแห่ง ซึ่งนำประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจสูงและสร้างงานทำให้แก่แรงงานในท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก ที่น่าสนใจคือ ฟาร์มกล้วยพันธุ์อเมริกาใต้ของบริษัทหุ้นส่วนการเกษตรไฮเทคฮึงเซิน ซึ่งได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการปลูก
ประสิทธิภาพของรูปแบบปลูกกล้วยเพื่อการส่งออกในอำเภอดั๊กดวา จังหวัดยาลาย - ảnh 1ฟาร์มกล้วยพันธุ์อเมริกาใต้ของบริษัทหุ้นส่วนการเกษตรไฮเทคฮึงเซิน

บริษัทหุ้นส่วนการเกษตรไฮเทคฮึงเซินก่อตั้งเมื่อปี 2019 มีสำนักงานใหญ่ในตำบลชืออ๊า เมืองเปลกู จังหวัดยาลาย เป็นสถานประกอบการแห่งแรกในอำเภอดั๊กดวาที่มีการจดทะเบียนรับรองรหัสแหล่งปลูกกล้วยและรหัสสถานที่บรรจุกล้วย ทางบริษัทฯกำลังดำเนินโครงการปลูกกล้วยสายพันธุ์อเมริกาใต้ รวมพื้นที่ 460 เฮกตาร์ในตำบลอีอาเป๊ต กอนกางและเฮอแนง นี่เป็นพันธุ์กล้วยที่ให้ผลผลิตสูง มีเวลาสุกนาน มีเปลือกบาง เนื้อสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมและเหนียวนุ่ม  นอกจากการปลูกกล้วยแล้ว บริษัทยังปลูกต้นเล็บครุฑ หรือ Polyscias fruticosa ในพื้นที่ 50 เฮกตาร์ และพืชสมุนไพรอื่นๆ ในพื้นที่ 10 เฮกตาร์

บริษัทหุ้นส่วนการเกษตรไฮเทคฮึงเซินได้ประยุกต์ใช้ 3 วิธีการที่ทันสมัยในการผลิต ได้แก่ เรือนเพาะชำเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชเพื่อควบคุมคุณภาพของพันธุ์ได้ดีที่สุดและระบบน้ำหยดของอิสราเอล ซึ่งช่วยประหยัดทรัพยากรน้ำและใช้โดรนฉีดพ่นยาฆ่าแมลง นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังลงทุนในระบบห้องเย็นเพื่อเก็บรักษาผลิตภัณฑ์หลังการเก็บเกี่ยว นาย เลหว่างลิง ผู้อำนวยการฝ่ายพื้นที่ปลูกของบริษัทหุ้นส่วนการเกษตรไฮเทคฮึงเซิน เผยว่า

“กระบวนการปลูกและส่งออกกล้วยทั้งหมดดำเนินการตามมาตรฐาน GlobalGAP ปัจจุบัน บริษัทส่งออกกล้วยไปยังหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่คือสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่น ทุกปี ปริมาณการส่งออกกล้วยไปยังสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 20,000 ตัน รวมมูลค่าเกือบ 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยต้นกล้วย 1 ต้นตั้งแต่ปลูกจนถึงเวลาเก็บผลผลิตใช้เวลาประมาณ 11 เดือน และ1 เฮกตาร์ ให้ผลผลิต 50 ถึง 60 ตันต่อปี”

ประสิทธิภาพของรูปแบบปลูกกล้วยเพื่อการส่งออกในอำเภอดั๊กดวา จังหวัดยาลาย - ảnh 2ผลิตภัณฑ์กล้วยของบริษัทหุ้นส่วนการเกษตรไฮเทคฮึงเซินส่งออกไปยังหลายตลาดต่างประเทศ เช่น สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน ประเทศจีน สิงคโปร์

ปัจจุบัน บริษัทหุ้นส่วนการเกษตรไฮเทคฮึงเซินมีพนักงาน 120 คน และกรรมกร 1,100 คน โดยเป็นชาวท้องถิ่นจำนวนมาก นาย หลือก๊วกต๊วน ประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลอีอาเป๊ต เผยว่า

“สถานประกอบการให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อแรงงานในท้องถิ่น ซึ่งถ้าพวกเขาสมัครทำงานที่บริษัทฮึงเซินก็จะได้รับเข้าทำงาน นับตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน บริษัทได้สร้างงานทำให้แก่แรงงานในท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีส่วนร่วมแก้ปัญหาความยากจนและการพัฒนาเศรษฐกิจภาคครัวเรือน ปัจจุบัน บริษัทมีพื้นที่การผลิต 2 แห่ง ได้แก่ ตำบลอีอา เป๊ต และตำบลเฮอแนง”

บริษัทยังได้ร่วมมือกับเกษตรกรที่มีพื้นที่การผลิต สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ให้คำแนะนำทางเทคนิค ขั้นตอนการดูแลและการเก็บเกี่ยว บริโภคผลิตภัณฑ์และแบ่งปันผลกำไรร่วมกัน โดยเฉพาะในตำบลเฮอแนง ครัวเรือนร่วมมือกับบริษัทปลูกกล้วยในพื้นที่ 23 เฮกตาร์ หลังจากหักต้นทุนการลงทุน ครอบครัวที่ปลูกกล้วยจะได้รับผลกำไรตั้งแต่ 5,900 ดอลลาร์สหรัฐ - 7,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อเฮกตาร์ เมื่อรับพนักงานเข้าทำงานที่บริษัท ทีมงานด้านเทคนิคจะจัดการฝึกอบรมทักษะการทำงานและการผลิตภายใน 1 เดือน นาง Pyen ชนเผ่าบานา พนักงานของบริษัทหุ้นส่วนการเกษตรไฮเทคฮึงเซินเผยว่า

“ดิฉันทำงานแผนกชั่งน้ำหนักและบรรจุภัณฑ์ พอเริ่มทำงานก็ได้รับการฝึกเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก็สามารถทำงานได้  สภาพแวดล้อมในการทำงานดีมาก มีรายได้ 240 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนซึ่งเพียงพอต่อการดำรงชีพ”   

แรงงานที่ทำงานในบริษัทมี 2 กลุ่ม ได้แก่ แรงงานประจำและแรงงานชั่วคราว โดยแรงงานประจำที่ทำงานในระยะยาวมีสิทธิ์ได้รับประกันสังคม นาง มุย ชนเผ่า Jrai แรงงานของบริษัทหุ้นส่วนการเกษตรไฮเทคฮึงเซินเผยว่า

“ดิฉันทำงานที่นี่มา 4 ปีแล้ว เมื่อก่อนอาชีพทำการเกษตรยากลำบากและรายได้ไม่มั่นคง ตั้งแต่เข้ามาทำงานที่โรงงาน ชีวิตก็มีความมั่นคง โดยมีเงินเดือน 240 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน นอกจากนี้ ถ้าหากดิฉันมีงานพิเศษก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ในวันตรุษเต๊ต บริษัทจะจ่ายเงินโบนัสให้แก่แรงงาน”

ผลิตภัณฑ์กล้วยของบริษัทหุ้นส่วนการเกษตรไฮเทคฮึงเซินส่งออกไปยังหลายตลาดต่างประเทศ เช่น สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน ประเทศจีน สิงคโปร์ กาตาร์และอิสราเอล โดยปริมาณส่งออกอยู่ 25,000 ตันต่อปี สร้างรายได้ 17.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทมีแผนที่จะขยายพื้นที่ปลูกกล้วยในจังหวัดยาลาย พัฒนาการผลิตและประกอบธุรกิจเพื่อมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและท้องถิ่นมากขึ้น.

คำติชม