 นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้งและนางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย |
ส่วนนางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยได้ชี้ชัดว่า การเยือนนี้ได้สร้างนิมิตหมายของการฟื้นฟูการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ หรือ Joint Cabinet Retreat (JCR) ที่ไทยตั้งใจจัดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสำหรับเวียดนามนี่เป็นกลไกการประชุม JCR ที่มีเฉพาะกับไทยเท่านั้น ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจสังคมของเวียดนามโดยตั้งเป้าหมายอัตราการขยายตัวในปีนี้ที่กว่าร้อยละ 8และอยู่ในระดับเลขสองหลักในปีต่อๆไป พร้อมทั้งเสนอให้ฝ่ายไทยสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าวของเวียดนามเพื่อนำประโยชน์มาสู่ทั้งสองประเทศ สำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ย้ำถึง5จุดเด่นสำคัญ นั่นคือความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์ทางการเมืองที่ได้รับการยกระดับอย่างต่อเนื่อง การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงนับวันเข้าสู่ส่วนลึก และเป็นเสาหลักสำคัญ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างเข้มแข็ง ตั้งแต่ปี 2016 จนถึงปัจจุบัน ไทยคือหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับหนึ่งของเวียดนามและเวียดนามคือหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับสองของไทยในอาเซียน ด้วยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2024 อยู่ที่กว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐและมุ่งสู่ 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีต่อๆไป การลงทุนของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 9 จากทั้งหมด 150 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม ความร่วมมือในระดับท้องถิ่น การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน วัฒนธรรม การศึกษาและการฝึกอบรมก็มีขอบเขตกว้างขวาง เป็นรูปธรรมและหลากหลายมากขึ้น ในเวทีระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ ทั้งสองประเทศยังส่งเสริมบทบาทการเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างแข็งขันอย่างมีประสิทธิผล
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเชื่อมโยง 2 เศรษฐกิจในกรอบยุทธศาสตร์การเชื่อมโยง 3 ด้าน (Three Connects) อำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการระหว่างสองประเทศเข้าถึงตลาดและขยายการลงทุนระหว่างกัน ส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงาน การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรม การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียว ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องส่งเสริมกิจกรรมการพบปะแลกเปลี่ยนระดับประชาชน การเปิดเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างท้องถิ่นทั้งสองประเทศ ตลอดจนผลักดันการปฏิบัติความคิดริเริ่ม “6 ประเทศ 1 จุดหมาย" (6 Countries, 1 Destination) และอำนวยความสะดวกให้แก่การพำนักอาศัยและศึกษา ทำงานของประชาชนอีกฝ่ายในไทยและเวียดนาม ในเวทีระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ ทั้งสองประเทศได้ส่งเสริมบทบาทการเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิผล ย้ำถึงบทบาทสำคัญในการธำรงความสามัคคี การพึ่งตนเองและความเป็นเอกภาพในความหลากหลายของอาเซียน ส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง การเดินเรืออย่างเสรีและปลอดภัยในทะเลตะวันออกบนพื้นฐานของกฎหมายสากลและผลักดันการอนุมัติซีโอซีโดยเร็ว
 การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน (VGP) |
ภายหลังการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการไทย–เวียดนาม หรือ JCR ครั้งที่ 4 นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนเอกสารความร่วมมือระหว่างกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ของทั้งสองประเทศ รวม 8 ฉบับ จากนั้น นายกฯทั้งสองประเทศได้แถลงข่าวร่วมกัน ยืนยันถึงการยกระดับความสัมพันธ์เป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนปัจจุบัน โดยกล่าวว่า “การที่ทั้งสองประเทศเห็นพ้องยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่รอบด้านครั้งนี้ไม่เพียงแต่มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นความต้องการทางยุทธศาสตร์เพื่อนำความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศเข้าสู่ระยะการพัฒนาใหม่ในระดับที่สูงขึ้น ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ครอบคลุมมากขึ้น และเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ เพื่อสันติภาพและความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียน เพื่อการพึ่งตนเอง เพื่อภูมิภาคเอเชียที่สันติ มั่นคง และร่วมมือกันในอนาคต”.
 VGP/Nhật Bắc |
เอกสารความร่วมมือระหว่างกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ของทั้งสองประเทศ รวม 8 ฉบับ ได้แก่
1. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า
2. กิจกรรมส่งมอบงบประมาณสนับสนุนโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการบังคับใช้กฎหมายและการสกัดกั้นยาเสพติด ทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
3.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามกับ Central Group ระยะปี 2026 - 2028
4.บันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมฝู่กื่อในจังหวัดฮึงเอียนระหว่างกลุ่มบริษัท WHA กับคณะกรรมการประชาชนจังหวัดฮึงเอียน (Hung Yen)
5. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือลงทุนทางยุทธศาสตร์ระหว่างเครือบริษัท AMATA Vietnam กับจังหวัดฟู้เถาะ (Phu Tho)
6.การประกาศการอนุมัติหนังสือขออนุญาตการลงทุนของ WHA ในด้านโครงสร้างพื้นฐานนิคมอุตสาหกรรม ยางกวาง จังหวัดแทงฮว้า (Thanh Hoa)
7.บันทึกความร่วมมือที่รอบด้านในการสนับสนุนสินเชื่อแก่ธุรกิจสีเขียวและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมัยใหมระหว่าง ธนาคาร BIDV และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
8. เอกสารแสดงเจตจำนงระหว่าง ม.ขอนแก่น - ม.FPT เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการฝึกอบรมเซมิคอนดักเตอร์.