ภาพของการพบปะ |
ในการนี้ ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องที่จะส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมือง ปฏิบัติข้อตกลงระดับสูงต่างๆ ผลักดันการปรับปรุงกรอบทางนิตินัยให้แก่ความร่วมมือทวิภาคีให้มีความสมบูรณ์ ใช้ประโยชน์จากศักยภาพความร่วมมือระหว่างสองประเทศ จากการประเมินข้าวเป็นสินค้าหลักในความร่วมมือด้านการค้าระหว่างสองประเทศ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เสนอให้ทั้งสองฝ่ายขยายเวลาการปฏิบัติหรือลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับการค้าข้าว มีส่วนร่วมค้ำประกันความมั่นคงด้านอาหาร ส่งเสริมให้ติมอร์ เลสเต ผลักดันการนำเข้าสินค้าเวียดนามที่สอดคล้องกับความต้องการของติมอร์ เลสเต เช่น สินค้าสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า เครื่องดื่ม อาหารแปรรูป สินค้าการเกษตรและสัตว์น้ำ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เสนอให้ติมอร์ เลสเตแก้ไขปัญหาในการประกอบธุรกิจของสถานประกอบการ อำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการเวียดนามในการขยายการลงทุนและประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะด้านโทรคมนาคม การขุดเจาะปิโตรเลียม เป็นต้น
ส่วนประธานาธิบดีติมอร์ เลสเตแสดงความประทับใจต่อประสบการณ์ในการบริหารเศรษฐกิจมหภาคและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า เวียดนามจะให้ความช่วยเหลือติมอร์ เลสเตในด้านที่เวียดนามมีจุดแข็ง เช่น การเกษตร ค้ำประกันความมั่นคงด้านอาหาร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษาและฝึกอบรม การพัฒนาแหล่งบุคลากร สาธารณสุข การแก้ปัญหาความยากจน การผลักดันการลงทุนในติมอร์ เลสเต ให้คำมั่นที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการเวียดนาม
สำหรับปัญหาระดับภูมิภาคและโลก นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งย้ำว่า เวียดนามสนับสนุนติมอร์ เลสเตในการเข้าเป็นสมาชิกของอาเซียนอย่างสมบูรณ์ พร้อมทั้งยืนยันว่า ติมอร์ เลสเตพร้อมสนับสนุนการลงสมัครของเวียดนามในทุกกลไก องค์การพหุภาคี ภูมิภาคและโลก
ทั้งสองฝ่ายยังให้คำมั่นที่จะสนับสนุนจุดยืนและหลักการของอาเซียนเกี่ยวกับทะเลตะวันออก การธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือ การบินในทะเลตะวันออก การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ปฏิบัติดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ สร้างบรรยากาศที่สะดวกให้แก่การเจรจาซีโอซี.