ภาพการเจรจา

ในการเจรจาหลังพิธี ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องขยายการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงในทุกช่องทาง พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 และ 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ส่งเสริมการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับกลุ่มตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง หรือ MERCOSUR การลงนามข้อตกลงหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีซ้ำซ้อน ขยายความร่วมมือด้านกลาโหม ความมั่นคง การประสานงานในกลไกและกิจกรรมพหุภาคี การป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ กีฬา  ฟุตบอล นวัตกรรม การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล การพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พลังงานหมุนเวียน การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เชื้อเพลิงชีวภาพ การอนุรักษ์ระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพของป่าเขตร้อนและระบบนิเวศของแม่น้ำโขงและแม่น้ำแอมะซอน สำหรับปัญหาการพิพาทระหว่างประเทศ ฝ่ายต่างๆควรแก้ไขปัญหานี้ด้วยสันติวิธี ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้กำลัง ให้ความเคารพกฎหมายสากลและกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งบราซิลสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล ค้ำประกันความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก

ส่วนนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้บราซิลอำนวยความสะดวกให้แก่การนำเข้าสินค้าจากเวียดนามเพื่อมีส่วนร่วมสร้างความสมดุลด้านการค้า เสร็จสิ้นการรับรองกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามโดยเร็ว พร้อมทั้งยืนยันว่า พร้อมช่วยเหลือบราซิลในความร่วมมือกับอาเซียนและการผลักดันความสัมพันธ์อาเซียนกับภูมิภาคอเมริกาใต้

ส่วนในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการเจรจา นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า

“ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า ความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง  เช่น การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงได้รับการธำรง รวมถึงสัมพันธไมตรีและความสามัคคีระดับประชาชนได้รับการเสริมสร้าง ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าพัฒนาอย่างดีงาม  โดยบราซิลเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับหนึ่งของเวียดนามในแถบลาตินอเมริกาและเวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของบราซิลในอาเซียน ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องขยายความร่วมมืออย่างกว้างลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพในทุกด้าน ท่านประธานาธิบดีและรัฐบาลบราซิลจะให้การรับรองกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อมีส่วนร่วมส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนให้พัฒนาอย่างเข้มแข็งตามความปรารถนาของประชาชนทั้งสองประเทศ”

 ก่อนหน้านั้น นาย ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิลและนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารความร่วมมือระหว่างรัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานของทั้งสองประเทศ.