|
ท่าน เจืองเติ๊นซาง ให้การต้อนรับนาย Mestehazy Atila หัวหน้าพรรคสังคมฮังการีหรือ MSZP |
(VOVworld) – วันที่ 18 กันยายน ท่าน เจืองเติ๊นซาง ประธานประะเทศเวียดนามได้ออกจากกรุง บูดาเปสต์ เสร็จสิ้นการเยือนประเทศฮังการีและเริ่มการเยือนประเทศเดนมาร์กในระหว่างวันที่ 18-20 กันยายนในฐานะพระราชอาคันตุกะของสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 การเยือนดังกล่าวได้มีขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ร่วมมือเวียดนาม เดนมาร์กกำลังพัฒนาอย่างดีงามในตลอด 40 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและผลักดันสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างสองประเทศบนพื้นฐานแห่งความมีเสถียรภาพ ยาวนานและเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งจะเปิดโอกาสเพื่อขยายความร่วมมือในหลายด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พลังงาน สิ่งแวดล้อมและการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในรายการวิเคราะห์สถานการณ์ ทางผู้จัดทำรายการขอเสนอบทวิเคราะห์ที่พาดหัวว่า “เวียดนามและเดนมาร์กมุ่งสู่สัมพันธไมตรีและความร่วมมืออย่างยั่งยืน”
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 17 กันยายน ในกรอบการเยือนครั้งนี้ ท่าน เจืองเติ๊นซาง ได้เดินทางไปเยือนบริษัทเภสัชภัณฑ์ Richter Gedeon ฟาร์มพืชพันธุ์เกษตร Basbolna National Sud และให้การต้อนรับนาย Mestehazy Atila หัวหน้าพรรคสังคมฮังการีหรือ MSZP โดยท่าน เจืองเติ๊นซาง ได้ชื่นชมการธำรงและพัฒนาความสัมพันธ์ในหลายปีที่ผ่านมาระหว่างพรรคสังคมฮังการีกับพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม อีกทั้งย้ำว่า ทั้งสองพรรคมีความสัมพันธ์ที่ยาวนานและอวยพรให้พรรคสังคมฮังการีมีบทบาทสำคัญสมกับชีวิตการเมืองของประเทศฮังการี ส่วนนาย Mestehazy Atila ได้ยืนยันว่า พรรคสังคมฮังการีให้การสนับสนุนและมีความปราถนาว่า จะขยายความสัมพันธ์ระหว่างฮังการีกับเวียดนามให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่เพื่อตอบสนองความปรารถนาและผลประโยชน์ร่วมของประชาชนเวียดนาม ฮังการี พร้อมทั้งชื่นชมบทบาทของเวียดนามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยืนยันว่า พรรคสังคมฮังการีพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกเพื่อให้การช่วยเหลือสถานทูตและชุมชนชาวเวียดนามในฮังการี
ส่วนในการเยือนบริษัทเภสัชภัณฑ์ Richter Gedeon และฟาร์มพืชธุ์พันเกษตร Basbolna National Sud ท่าน เจืองเติ๊นซาง ได้เสนอให้ผู้ประกอบการฮังการีขยายความร่วมมือลงทุนและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เวียดนามและสถานประกอบการฮังการีสามารถใช้เวียดนามเป็นฐานในการเจาะตลาดเอเชียซึ่งเป็นตลาดที่กำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็งให้กว้างลึกยิ่งขึ้น
ภายหลังการเจรจาที่มีขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 17 กันยายน ท่าน เจืองเติ๊นซางและท่าน วิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการีได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและตอบคำถามของนักข่าวเกี่ยวกับศักยภาพของความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศโดยแสดงความเห็นว่า การเยือนประเทศฮังการีของท่าน เจืองเติ๊นซาง จะเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งความร่วมมือของทั้งสองประเทศ ส่วนท่านวิกเตอร์ ออร์บานได้ยืนยันว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนสำคัญที่สุดของฮังการีในอาเซียน ชื่นชมบทบาทที่นับวันเพิ่มมากขึ้นของเวียดนามทั้งในระดับภูมิภาคและโลกด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดและมีนโยบายต่างประเทศในเชิงรุกและเข้มแข็ง ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันถึงคำมั่นที่จะผลักดันการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การประสานงานและร่วมมืออย่างใกล้ชิดให้มากยิ่งขึ้นในฟอรั่มทั้งในระดับภูมิภาคและโลก สำหรับปัญหาในภูมิภาคและโลก ผู้นำทั้งสองประเทศต่างมีทัศนะร่วมกันคือ การพิพาทระหว่างประเทศต่างๆต้องได้รับการแก้ไขด้วยสันติวิธี สอดคล้องกับกฎหมายและหลักปฏิบัติสากลโดยท่าน เจืองเติ๊นซาง ได้ชื่นชมความสนใจของฮังการีต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย แปซิฟิก ตลอดจนการที่ฮังการีให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อเวียดนาม พร้อมทั้งยืนยันว่า เวียดนามพร้อมที่จะร่วมมือกับฮังการี ผู้นำทั้งสองประเทศยังย้ำถึงบทบาทของชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในฮังการี ตลอดจนชาวเวียดนามที่เคยศึกษาในฮังการีและถือว่า นี่เป็นสะพานเชื่อมสำคัญที่ช่วยกระชับและผลักดันความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ส่วนท่าน วิกเตอร์ ออร์บาน ได้ยืนยันว่า จะเพิ่มทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาเวียดนามที่กำลังศึกษาในฮังการีโดยเร็ว พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกเพื่อให้ชมรมชาวเวียดนามปรับตัวให้เข้ากับสังคมฮังการี./.