(VOVworld)– ในกรอบการเยือนฮังการีอย่างเป็นทางการ เมื่อบ่ายวันที่๑๖เดือนนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ท่านเจืองเติ้นซาง ประธานประเทศเวียดนามได้มีการพบปะกับท่านวิกตอร์ โอร์บานนายกรัฐมนตรีและท่านลาสโล โกเวอร์ประธานรัฐสภาโดยทั้งสองฝ่ายเห็นว่า แม้จะอยู่ห่างไกลกันทางภูมิศาสตร์แต่ต่างก็มีจุดแข็งที่อาจสนับสนุนให้แก่กันโดยเวียดนามมีตลาดกว้างใหญ่ที่มีประชากรเกือบ๙๐ล้านคนตั้งอยู่ในภูมิภาคที่พัฒนาคล่องตัวที่สุดในโลก ส่วนฮังการีมีจุดแข็งทางด้านการแพทย์ เภสัชศาสตร์ การเกษตร การศึกษา ฝึกอบรม เทคโนโลยีสารสนเทศและการแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตร ฝ่ายฮังการีย้ำถึงความสำคัญของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ความร่วมมือด้านมนุษยศาสตร์ และชื่นชมชุมชนชาวเวียดนามที่กำลังอาศัย และปฏิบัติงานในฮังการีกว่า๔พันคน โอกาสนี้ ท่านเจืองเติ้นซางและบรรดาผู้นำฮังการีได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารฉบับต่างๆ รวมทั้งข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งมอบผู้ที่ถูกศาลตัดสินจำคุก ข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการฝึกอบรม การวิจัย เอกสารกฎหมาย และการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพและแผนการร่วมมือด้านวัฒนธรรมในช่วงปี๒๐๑๔ถึงปี๒๐๑๖ บ่ายวันเดียวกัน ประธานเจืองเติ้นซางได้ให้การต้อนรับสมาคมมิตรภาพฮังการี– เวียดนามและบรรดาทหารผ่านศึกที่เคยเข้าร่วมคณะกรรมการตรวจสอบข้อตกลงสันติภาพปารีสเกี่ยวกับเวียดนาม
ในโอกาสการเยือนนี้ ประธานเจืองเติ้นซางและประธานาธิบดีอาเดอร์ ยาโนสได้ออกแถลงการณ์ร่วมโดยยืนยันว่า ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมสัมพันธไมตรีและความร่วมมือให้พัฒนายิ่งขึ้น ขยายการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ประสานนโยบาย และความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้น ยิ่งขึ้นในฟอรั่มภูมิภาคและโลก ทั้งสองฝ่ายต่างมีทัศนะคือ แก้ไขการพิพาทระหว่างประเทศต่างๆอย่างสันติสอดคล้องกับกฎหมายสากลและแนวทางปฏิบัติสากล ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันว่า จะผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่อไปเพื่อใช้ศักยภาพและจุดแข็งของแต่ละประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ย้ำถึงความสำคัญของคณะกรรมการร่วมเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจเวียดนาม– ฮังการีโดยถือเป็นระเบียบการร่วมมือที่สำคัญเพื่อผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การศึกษาและฝึกอบรม ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่าจะปฏิบัติโครงการร่วมมือODAอย่างมีประสิทธิภาพ แสดงความประสงค์ที่จะร่วมมือในด้านการเกษตร โดยเฉพาะ การบริหารแหล่งน้ำ จัดสรรน้ำสะอาดและบำบัดน้ำเสีย ความร่วมมือในด้านพลังงานนิวเคลียร์ สาธารณสุขและ การศึกษาจะเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเวลาที่จะถึง ./.