แพลตฟอร์ม Make in Vietnam – ร่วมปกป้องอธิปไตยของประเทศในโลกไซเบอร์

Anh Huyen
Chia sẻ
(VOVWORLD) - “สร้างสรรค์ในเวียดนาม ออกแบบในเวียดนาม และผลิตในเวียดนาม” เป็นแนวทางใหญ่ของรัฐบาลเวียดนามเพื่อกระตุ้นแหล่งพลังภายในและความมุ่งมั่นพัฒนาประเทศในการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 นับตั้งแต่โครงการ "Make in Vietnam" เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2019 ก็ได้สร้างพลังใหม่ในเชิงบวก และความตระหนักเกี่ยวกับความสำคัญของสถานประกอบการด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะปัญหาการปกป้องอธิปไตยของชาติในโลกไซเบอร์ 
แพลตฟอร์ม Make in Vietnam – ร่วมปกป้องอธิปไตยของประเทศในโลกไซเบอร์ - ảnh 1ปัจจุบัน Facebook เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในเวียดนาม (Reuters)
 
 

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จิตสำนึกของประชาชนส่วนใหญ่ยังคงคุ้นเคยกับกระบวนการสนับสนุนการปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับเขตน่านน้ำและดินแดน แต่ปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคของการพัฒนาโลกแห่งข้อมูล อธิปไตยของชาติในโลกไซเบอร์ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสนใจเช่นกัน จากการเป็นประเทศที่มีประชากรรุ่นใหม่ 97.3 ล้านคน ซึ่งกว่าร้อยละ 70 ใช้งานอินเทอร์เน็ต เวียดนามจึงกลายเป็นประเทศที่มีศักยภาพสำหรับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล

ตามรายงานสถิติล่าสุดของ We are social ปี 2022 ปัจจุบัน Facebook เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในเวียดนาม ด้วยจำนวนผู้ใช้งานถึงร้อยละ 93.8 และมีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มส่งข้อความ Messenger แอปแชร์วิดีโอ TikTok และรูปภาพผ่าน Instagram มากกว่าร้อยละ60ของกลุ่มผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต 

แต่อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างเข้มแข็งของแพลตฟอร์มดิจิทัลกำลังสร้างความท้าทายใหม่ๆ นั่นคือความมั่นคงของชาติที่กลายเป็นเป้าหมายโจมตีแบบแทรกซึมและรวบรวมข่าวกรองชั้นนำของกลุ่มแฮ็กเกอร์ ซึ่งผู้ใช้งาน สถานประกอบการและหน่วยงานภาครัฐล้วนแต่มีโอกาสถูกโจมตีทั้งสิ้น นาย เหงียนมิงชิ้ง อธิบดีกรมความมั่นคงทางไซเบอร์และการป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปแสดงความเห็นว่า

"ความท้าทายในปัจจุบันคือโลกไซเบอร์กำลังถูกกลุ่มอิทธิพลที่เป็นอริและอาชญากรใช้เพื่อดำเนินกิจกรรมที่ละเมิดความมั่นคงของชาติและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม โดยเฉพาะกิจกรรมการโฆษณาชวนเชื่อและต่อต้านระบอบการปกครอง ยุยงปลุกปั่นให้เกิดการประท้วงที่รุนแรง การก่อจลาจล และมุ่งเปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองในเวียดนาม โดยเฉพาะ ได้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีความรุนแรงและอันตราย ซึ่งสร้างภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของชาติและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม"

จากสถานการณ์ที่เป็นจริงนี้ ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้ผลักดันความตระหนักในเรื่องโลกไซเบอร์และความสำคัญของความมั่นคงแห่งชาติในโลกไซเบอร์ กฎหมายว่าด้วยความมั่นคง ความปลอดภัยทางไซเบอร์และร่างกฎหมายด้านกลาโหมฉบับแก้ไขเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงก้าวเดินที่เข้มแข็งของพรรคและรัฐเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยของชาติในโลกไซเบอร์

ภายหลังกว่าหนึ่งปีหลังจากที่นายกรัฐมนตรีอนุมัติ "โครงการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลแห่งชาติจนถึงปี 2025 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2030" การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลแห่งชาติในเวียดนามได้บรรลุผลงานในเบื้องต้นที่ชัดเจนมาก โดยเฉพาะจิตสำนึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลในสำนักงานภาครัฐ สถานประกอบการและประชาชนซึ่งได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โครงสร้างพื้นฐาน แพลตฟอร์ม ผลิตภัณฑ์และการบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจำนวนมากโดยสถานประกอบการเวียดนามพัฒนาเองได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะจิตสำนึกเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลในโลกไซเบอร์ การปกป้องอธิปไตยของชาติในแต่ละสำนักงาน สถานประกอบการและองค์กร นาย เหงียนแถ่งฮึง ประธานสมาพันธ์ความปลอดภัยด้านข้อมูลเวียดนามกล่าวว่า

"ความสามารถของประเทศในการค้ำประกันความปลอดภัยของข้อมูลอยู่บนพื้นฐานของพื้นฐานที่สำคัญในผลิตภัณฑ์บริการและโซลูชั่นในระบบนิเวศความปลอดภัยและความปลอดภัยทางไซเบอร์โดยสถานประกอบการเวียดนามเป็นเจ้าของ พร้อมที่จะรักษาความปลอดภัยเและความมั่นคงสำหรับการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลแห่งชาติ สิ่งที่สำคัญคือการเชื่อมโยงสถานประกอบการความปลอดภัยทางไซเบอร์  ผู้ใช้บริการของผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์และหน่วยงานจัดทำนโยบายของรัฐบาล"

แพลตฟอร์ม Make in Vietnam – ร่วมปกป้องอธิปไตยของประเทศในโลกไซเบอร์ - ảnh 2รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ เหงียนแหม่งหุ่ง (vneconomy.vn)

ในก้าวเดินแรกในการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติในโลกไซเบอร์คือจนถึงขณะนี้ เวียดนามได้เข้าใจถึงระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์ความมั่นคงและความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับหน่วยงานของพรรคและรัฐถึงร้อยละ 90 และมุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่สามารถควบคุมระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์ความมั่นคงและความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้ 100% ปัจจุบัน เวียดนามกำลังพยายามสร้างทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อสามารถค้ำประกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับสูงสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ เหงียนแหม่งหุ่ง ยืนยันว่า 

"เราต้องสร้างทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและความมั่นคงทางไซเบอร์ที่เข้มแข็ง   นอกจากนี้ มาตรการการค้ำประกันความมั่นคงและความปลอดภัยทางไซเบอร์ต้องได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ต้องมีต้นทุนที่เหมาะสมและใช้งานง่าย สถานประกอบการด้านความปลอดภัยข้อมูลต้องมีวิธีการเข้าถึงใหม่เพื่อเผยแพร่ความปลอดภัยทางไซเบอร์ไปสู่บุคคลและองค์กรทุกแห่ง กระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ส่งเสริมให้สถานประกอบการด้านความปลอดภัยและความมั่นคงทางไซเบอร์มีวิธีการเข้าถึงใหม่ๆ ในด้านเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์และการตลาด เพื่อเร่งเผยแพร่ผลิตภัณฑ์และบริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ไปสู่ทุกคนและองค์กรทุกแห่ง"

ปัจจุบัน ในเวียดนาม แพลตฟอร์มคลาวด์คอมพิวติ้งที่สร้างสรรค์และพัฒนาโดยสถานประกอบการเวียดนามที่สามารถตอบสนองข้อกำหนดเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทางไซเบอร์เพื่อสนับสนุนรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น VNPT cloud, Viettel cloud , VNG cloud, Bizfly cloud และ CMC cloud โดยซัพพลายเออร์เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและได้รับใบรับรองความเป็นเจ้าของเพื่อตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยของข้อมูลทางอินเตอร์เนตเพื่อเป็นแรงจูงใจให้มีความพร้อมในกระบวนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลระดับประเทศ.

คำติชม