การผลิตในบริษัท Toyota Vietnam ในจังหวัดหวิงฟุก (VNA) |
หลังจากภาคธุรกิจสตาร์ทอัพเชิงนวัตกรรมของเวียดนามสามารถดึงดูดเงินลงทุนมากเป็นประวัติกาลคือ กว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2021 บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ว่า “เวียดนามจะยังคงดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศต่อไปเนื่องจากเป็น 1 ใน 3 เสาหลักของสามเหลี่ยมธุรกิจสตาร์ทอัพแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นี่คือข้อได้เปรียบให้แก่การพัฒนาของเวียดนาม บรรดานักลงทุนให้ความสนใจถึงเวียดนามเนื่องจากมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี มีประชากรที่อยู่ในวัยทำงานในระดับสูงและมีทักษะฝีมือดี และมีตลาดบริการขนาดใหญ่ ซึ่งกำลังได้รับการพัฒนาให้มีความทันสมัย
แต่อย่างไรก็ตาม ชมรมสถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานประกอบการสตาร์ทอัพก็กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นกัน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง และการปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก แต่จากมุมมองด้านสตาร์ทอัพ หลายๆ คนเชื่อว่า นักลงทุนยังคงเลือกที่จะลงทุนในสถานประกอบการด้านนวัตกรรมเนื่องจากมีความเชื่อมั่นในระยะยาวและมีโอกาสที่จะสามารถสร้างก้าวกระโดดได้ในช่วงที่เศรษฐกิจประสบความยากลำบากนี้ นักลงทุนบางรายอาจเน้นลงทุนในอุตสาหกรรมเกิดใหม่ และเพื่อใช้โอกาสเหล่านี้ บริษัทสตาร์ทอัพในเวียดนามกำลังพยายามส่งเสริมความคิดริเริ่มและแนวคิดเชิงนวัตกรรมที่เข้มแข็งมากขึ้นเพื่อสามารถดึงดูดกระแสเงินทุนจากต่างประเทศ นาย บุ่ยเตี๊ยนหยุง ตัวแทนบริษัทหุ้นส่วน BanKon ที่ทำธุรกิจสตาร์ทอัพโซลูชั่น “Bankon – ที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและเครื่องปรับอากาศ” ได้ยืนยันว่า
“มีรายงานสถิติว่า บริษัทสตาร์ทอัพร้อยละ 90 ประสบความล้มเหลวในช่วง 3-5 ปีแรก เราพร้อมที่จะยอมรับสิ่งนั้น ที่บริษัทโตโยต้า มีแนวคิดในการผลิตที่หลายคนพยายามปฏิบัติตาม นั่นคือ Kaizen ซึ่งหมายความว่า การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่สำคัญคือต้องพยายามคิดให้ได้มากที่สุด นั่นคือเหตุผลที่ชุมชนสตาร์ทอัพปฏิบัติตาม ยอมรับความล้มเหลวและแข่งขันกัน พวกเรามีความปรารถนาเกี่ยวกับนวัตกรรมและการปรับปรุงเทคโนโลยี สิ่งที่เราขาดแคลนคือการสนับสนุนจากชุมชน เราหวังว่า กลุ่มบริษัทใหญ่ๆจะต้อนรับเราไม่ใช่ในฐานะโซลูชันใหม่ๆ หากเป็นฝ่ายที่นำเสนอโซลูชั่น”
ตามความเห็นของศาสตราจารย์ ดร. เหงียนดึ๊กเคือง ประธานสมาคมนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญเวียดนามทั่วโลก ด้วยอัตราการเติบโตที่อยู่ในระดับสูงในหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามถือเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่คล่องตัวในโลก แรงดึงดูดของเวียดนามยังคงมาจากการที่ผู้นำรัฐบาลยืนยันเสมอว่า มุ่งมั่นที่จะถือนวัตกรรมเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของยุทธศาสตร์การเติบโต นี่คือแรงจูงใจเพื่อให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในเวียดนาม เพื่อให้ความพยายามนี้เกิดประสิทธิผลในทางปฏิบัติ เวียดนามต้องให้ความสนใจใน 3 ประเด็น ศาสตราจารย์ ดร. เหงียนดึ๊กเคือง เผยว่า
“พวกเรากำลังเผชิญกับความยากลำบากมากมาย ดังนั้น ต้องมีความคิดที่สร้างสรรค์และโซลูชั่นทางเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม ถ้าอยากแสวงหาเทคโนโลยีที่สร้างการพัฒนาที่เป็นก้าวกระโดด ประการแรกคือต้องมีนโยบายสนับสนุน และ 2 คือ ตัวผู้พัฒนานวัตกรรมที่เป็นเจ้าของสถานประกอบการต้องพยายามฟันฝ่าความยากลำบากและค้นหาวิธีการเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ”
นาย เหงียนชี้หยุง รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุน (baodautu.vn) |
ในเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นปฏิบัติมาตการต่างๆเพื่อแก้ไขอุปสรรค ผลักดันการเติบโต รักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค สนับสนุนสถานประกอบการและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน กระทรวงวางแผนและการลงทุนได้เสนอมาตรการและโครงการช่วยเหลือต่างๆ เช่น โครงการสนับสนุนสถานประกอบการในการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล สนับสนุนสถานประกอบการกว่า 100,000 แห่งด้วยเครื่องมือและโซลูชั่นในการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล โครงการสนับสนุนสถานประกอบการทำธุรกิจสตาร์ทอัพเชิงนวัตกรรม การฝึกอบรมและการพัฒนาผู้ที่มีความสามารถ การสร้างสรรค์และพัฒนาเครือข่ายนวัตกรรมเวียดนาม นาย เหงียนชี้หยุง รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุน ได้ยืนยันว่า
“เวียดนามกำลังมีแนวทางปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเติบโตตามแนวทางเพิ่มผลผลิต มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพและมีขีดความสามารถในการแข่งขันโดยอาศัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรม การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและการส่งเสริมแหล่งพลังของชาวเวียดนาม เพื่อให้นวัตกรรมได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง มีประสิทธิภาพและมีการขยายผล นอกจากการชี้นำและการกำหนดแนวทางจากพรรคและรัฐ ความสนใจและการประสานงานของกระทรวง หน่วยงานส่วนกลาง ท้องถิ่นและการเข้าร่วมของสถานประกอบการแล้ว ต้องมีความร่วมมือและการสนับสนุนจากสังคมด้วย”
ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้ ถ้าอยากสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากความพยายามในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและความสมดุลที่สำคัญของเศรษฐกิจแล้ว เวียดนามกำหนดว่า นวัตกรรมเป็นเนื้อหาหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ รัฐบาลให้ความสนใจ สนับสนุนชุมชนสถานประกอบการในด้านนวัตกรรมเพื่อให้มีความคิดสร้างสรรค์และความคิดริเริ่มมากขึ้นเพื่อไม่เพียงแต่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและการแก้ไขปัญหาภายในประเทศเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมต่อการส่งเสริมเศรษฐกิจโลกอีกด้วย.