นาย Alain Cany นายกสมาคมสถานประกอบการยุโรปประจำเวียดนาม (doanhnghiephoinhap.vn)

กระแสเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้รับการฟื้นฟูเนื่องจากนโยบายการลงทุนที่น่าดึงดูดใจและแนวทางการเปิดเศรษฐกิจภายหลัง 2 ปีที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19

สถานประกอบการเอฟดีไอและความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเวียดนาม

นับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2022 นักลงทุนต่างชาติได้เห็นสัญญาณที่น่ายินดีในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนามหลังวิกฤตโควิด -19 นักลงทุนที่เป็นหุ้นส่วนเก่าแก่ของยุโรปและสหรัฐกำลังแสวงหาสถานที่ลงทุนในระยะยาวและปลอดภัย โดยสถานะทางการค้าพร้อมกับข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆที่เวียดนามได้ลงนามกับประเทศอาเซียนและอีกหลายประเทศได้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเวียดนาม ตามข้อมูลจากกระทรวงวางแผนและการลงทุน อุตสาหกรรมแปรรูปและการประดิษฐ์เป็นด้านที่กลุ่มบริษัทใหญ่ๆ เช่น Apple Lego และ Samsung  ลงทุนมากที่สุดและล้วนแต่เป็นโครงการที่มีคุณภาพสูงเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน อีกทั้งโครงการลงทุนใหญ่ ๆ ก็ค่อย ๆ เข้ามาแทนที่โครงการลงทุนขนาดเล็ก นาย โด๋เญิ๊ดหว่าง อธิบดีกรมการลงทุนจากต่างประเทศ สังกัดกระทรวงวางแผนและการลงทุน เผยว่า

“ในโครงสร้างเงินลงทุนของโครงการต่างๆ เราสามารถเห็นได้ว่า เงินลงทุนสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูปและการประดิษฐ์คิดค้นอิเล็กทรอนิกส์นับวันเพิ่มสูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 60 โดยเฉพาะในปี 2022 ได้มีโครงการลงทุนผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งช่วยให้เงินลงทุนจากต่างประเทศของเวียดนามนับวันมีคุณภาพมากขึ้น”

ส่วนในมุมมองของนักลงทุนจากต่างประเทศ นาย Alain Cany นายกสมาคมสถานประกอบการยุโรปประจำเวียดนาม ยืนยันว่า

“เวียดนามกำลังเปิดโอกาสการลงทุนมากมายให้แก่สถานประกอบการยุโรป เรามีความยินดีเป็นอย่างมากเกี่ยวกับศักยภาพการพัฒนาของเวียดนามในระยะสั้นและระยะกลาง โดยจะมีสถานะดีขึ้นในสองสามปีข้างหน้าอย่างแน่นอนและพิสูจน์ให้เห็นถึงการเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คล่องตัวที่สุดของการลงทุนและการประกอบธุรกิจ ชมรมสถานประกอบการยุโรปชื่นชมบรรยากาศการลงทุนในเวียดนาม โดยเฉพาะหลังจากที่เวียดนามยืนยันคำมั่นและการกำหนดแนวทางอย่างชัดเจนของเวียดนามในการประชุม COP -26 เกี่ยวกับการดึงดูดการลงทุนที่มีคุณภาพสูง การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เวียดนามกำลังมุ่งสู่การปฏิบัติคำมั่นดังกล่าวพร้อมกับการปฏิบัติเพื่ออำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ทั้งในด้านนิตินัยและการเงินเพื่อสนันสนุนการปรับเปลี่ยนด้านพลังงาน ผลักดันการขยายตัวอย่างยั่งยืนและการถ่ายทอดเทคโนโลยี ผมคิดว่า เวียดนามไม่ควรมองแค่เห็นในตัวเลขในการดึงดูดการลงทุนใหม่แต่ควรมองตัวเลขการเบิกจ่ายเงินลงทุนที่กำลังอยู่ในระดับสูงด้วยและในปี 2022 ก็ทำลายสถิติแล้ว”

จนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนปี 2022 ยอดเงินลงทุนเอฟดีไอที่เบิกจ่ายในเวียดนามได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 และเงินลงทุนจดทะเบียนได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือเป็นการยืนยันความไว้วางใจของนักลงทุนจากต่างประเทศต่อเศรษฐกิจและบรรยากาศการลงทุนในเวียดนาม นาย Niels Christiansen ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของกลุ่มบริษัท LEGO แสดงความคิดเห็นว่า

“โรงงานในเวียดนามเป็นโรงงานแห่งที่ 6 ของเราและเป็นโรงงานที่มีการควบคุมการปล่อยคาร์บอนในระดับต่ำแห่งแรก เราจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในเวียดนามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนามหลังวิกฤตโควิด -19 ได้สร้างความเชื่อมั่นให้เราประกอบธุรกิจอย่างยั่งยืนในเวียดนาม”

เวียดนามพยายามปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนให้ดีขึ้น

ถึงแม้ตามการคาดการณ์ สถานการณ์เศรษฐกิจของเวียดนามจะยังคงประสบความยากลำบากต่างๆ ในสภาวการณ์ที่ยากที่จะคาดเดาเกี่ยวกับสถานการณ์โลก แต่ในระยะยาว เวียดนามยังคงได้รับความสนใจจากองค์กรและสถานประกอบการระหว่างประเทศในการเป็นฐานการลงทุนการผลิตที่น่าสนใจสำหรับเจาะตลาดอาเซียนและทั่วโลก นาง Virgina B. Foote รองประธานหอการค้าสหรัฐประจำเวียดนามหรือ Amcham แสดงความคิดเห็นว่า

“นี่เป็นช่วงเวลาที่เวียดนามปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพต่อนักลงทุน แก้ไขอุปสรรคด้านบุคลากร โลจิสติกส์และความปลอดภัยในการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 วิกฤตโควิด -19 เป็นตัวที่กำหนดสถานที่ลงทุน ดังนั้น นักลงทุนจึงเลือกสถานที่ลงทุนที่ไม่เพียงแต่มีบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่น่าสนใจและค่าจ้างแรงงานถูกเท่านั้น หากยังมองในเรื่องของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและมูลค่าเพิ่มในห่วงโซ่อุปทานโลกอีกด้วย”

การตัดสินใจที่ทันท่วงทีของพรรคฯ รัฐและรัฐบาลเวียดนามได้สร้างความไว้วางใจให้แก่ชมรมสถานประกอบการเอฟดีไอเป็นอย่างมาก นาง ฟี๊ถิเฮืองงา รองอธิบดีกรมสถิติการก่อสร้างและเงินลงทุน สังกัดทบวงสถิติ แสดงความคิดเห็นว่า

“การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศคือสีสดใสในภาพรวมของเศรษฐกิจเวียดนามและจากความได้เปรียบในด้านเงินทุน ความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจและการเมืองในระดับมหภาค มีประชากรในวัยทำงานเป็นจำนวนมากและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเป็นตลาดที่มีมาตรการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ได้ทำให้เวียดนามยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนต่อไป”