(VOVworld) - เหตุการณ์อังกฤษถอนตัวออกจากอียู หรือ Brexit ได้ส่งผลกระทบไม่น้อยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโลก รวมทั้งตลาดการเงินและเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาของเวียดนาม แต่อย่างไรก็ดี จากการเตรียมความพร้อมและมาตรการรับมือที่เหมาะสม ตลาดการเงินของเวียดนามยังคงพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพต่อไป
(Photo: news.zing.vn)
|
หลังจากที่อังกฤษได้ถอนตัวออกจากอียู ตลาดหุ้นของเวียดนามได้สูญเสียเงินมากถึงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หลังจากที่ราคาหุ้นลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ตลาดหุ้นได้เริ่มฟื้นตัว โดยในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์การปฏิบัติหน้าที่ทางการเงินและงบประมาณแผ่นดินใน 6 เดือนแรกของปี 2016 และปฏิบัติหน้าที่ใน 6 เดือนที่เหลือของปีนี้ กระทรวงการคลังเวียดนามได้ยืนยันว่า Brexit ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดการเงินเวียดนาม ส่วนนาย เลดึ๊กแค้ง ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ของบริษัทหุ้น Maritime ให้ข้อสังเกตว่า“จากมุมมองของตลาดหุ้นแสดงให้เห็นว่า ใน 6 เดือนแรกของปีนี้ จำนวนบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติได้เพิ่มขึ้น ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศก็ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาราคาหุ้นลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนนั้น ก็เนื่องมาจากผลกระทบทางจิตวิทยา”
สำหรับแหล่งเงินลงทุนโดยตรงจากอียูและอังกฤษที่ไหลเข้าเวียดนามนั้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อสังเกตว่า Brexit ยังไม่ส่งผลกระทบ หรือ ส่งผลกระทบไม่มากต่อแหล่งเงินทุนดังกล่าว เพราะยังมีจำนวนไม่มากโดยจนถึงขณะนี้ ยอดเงินทุนจดทะเบียนของอียูในเวียดนามอยู่ที่กว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอังกฤษมีโครงการลงทุนโดยตรงที่ดำเนินการอยู่ในเวียดนาม 266 โครงการ รวมมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดร. เกิ๊นวันหลึก ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมของธนาคารเพื่อการลงทุนและการพัฒนาเวียดนามและสมาชิกสภาที่ปรึกษาเกี่ยวกับนโยบายด้านการเงินแห่งชาติได้เผยว่า“ขณะนี้ บรรดานักลงทุนกำลังเน้นแสวงหาจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยเพื่อลงทุนประกอบธุรกิจ ซึ่งถ้าหากเวียดนามมีการปรับปรุงด้านนโยบายและใช้ประโยชน์จากการผสมผสานอย่างเต็มที่ก็จะได้รับประโยชน์จากกระบวนการดังกล่าว ซึ่งนักลงทุนต่างชาติอาจถอนเงินจากตลาดหุ้นของเวียดนาม แต่ยังคงเงินลงทุนโดยตรงไว้ในเวียดนาม”
ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระดับโลกบางคนได้เผยว่า เศรษฐกิจเวียดนามไม่ได้รับผลกระทบมากนักจาก Brexit แต่ Brexit อาจจะช่วยเปิดโอกาสให้แก่ตลาดการเงินเวียดนามและช่วยดึงดูดเงินลงทุนมากขึ้น ในขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังเวียดนามก็ได้ยืนยันว่า Brexit ไม่ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อปัญหาหนี้สาธารณะของเวียดนาม นาย หวอฮึ๊วเหี๊ยน รองอธิบดีกรมบริหารจัดการหนี้และการเงินระหว่างประเทศได้เผยว่า Brexit ได้ทำให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงร้อยละ 8 รวมทั้งเงินหยวนก็อ่อนค่าลง แต่เงินเยนของญี่ปุ่นกลับแข็งค่าขึ้น ซึ่งในโครงสร้างหนี้สาธารณะของเวียดนาม ยอดหนี้สาธารณะของรัฐบาลเป็นเงินด่งอยู่ที่ร้อยละ 55 ส่วนเงินเยนคิดเป็นร้อยละ 13 และเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ร้อยละ 16 ซึ่งธนาคารชาติได้มีการปรับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างเหมาะสมเพื่อลดผลกระทบจาก Brexit ต่อปัญหาหนี้สาธารณะ
หลังจากที่อังกฤษถอนตัวออกจากอียู รัฐบาลเวียดนามได้ประเมินเกี่ยวกับผลกระทบจาก Brexit ต่อการพัฒนาการค้าและการลงทุนภายในประเทศ รวมทั้งเกาะติดสถานการณ์ในเวียดนามและโลกเพื่อปรับปรุงนโยบายต่างๆอย่างทันการณ์เพื่อปรับเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค สนับสนุนการพัฒนาการค้าและดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากอังกฤษและอียูในอนาคต.