รองนายกรัฐมนตรี เจิ่นห่งห่า มอบการตัดสินใจการวางแผนจังหวัดกว๋างนิงห์ในช่วงปี 2021-2030 และวิสัยทัศน์ถึงปี 2045 ให้แก่ผู้บริหารจังหวัดกว๋างนิงห์ |
ในตลอดเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา จังหวัดกว๋างนิงห์ได้รับการประเมินว่า มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วยการเติบโตที่มั่นคงในระดับสูงสุดของประเทศ การขยายตัว GRDP เฉลี่ยต่อหัวประชากรอยู่ที่เลข 2 หลักเป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน สูงกว่า 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ยของประเทศ และโครงสร้างทางเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก
ตามแผนการวางผังการพัฒนาจังหวัดกว๋างนิงห์ในช่วงปี 2021-2030 วิสัยทัศน์ถึงปี 2050 ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แนวทางหลักของจังหวัดกว๋างนิงห์คือการพัฒนาที่ยั่งยืน การเติบโตแห่งสีเขียว เดินหน้าการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมบนพื้นฐานของ 3 เสาหลัก คือธรรมชาติ มนุษย์และวัฒนธรรม การวางผังนี้มีการสานต่อแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ในอดีต อีกทั้ง กำหนดก้าวกกระโดดใหม่ๆ นาย Marco Breu ผู้อำนวยการบริษัท McKinsey & Company Vietnam จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในฝ่ายที่ปรึกษาด้านการก่อสร้างในจังหวัดกว๋างนิงห์ได้ยืนยันว่า
“เราค้ำประกันว่า เมื่อเปลี่ยนมาใช้การวางผังใหม่นี้งานต่าง ๆ จะมีความต่อเนื่องจากแผนการพัฒนาตั้งแต่ปี 2011-2020 เช่น การพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจแห่งสีเขียว พร้อมทั้งมีการเพิ่มเติมเนื้อหาต่างๆ มากมาย เพื่อให้สอดคล้องเข้ากับยุคสมัยและกระแสใหม่ๆ ทั่วโลก”
ปัจจุบัน จังหวัดกว๋างนิงห์มีแนวทางการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมสำหรับอุตสาหกรรมและด้านที่สำคัญ โดยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสีเขียว เพิ่มการมีส่วนร่วมอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมการแปรรูปและการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง นอกจากนั้น เป้าหมายของการเป็น “ศูนย์กลางโลจิสติกส์ ศูนย์กลางเศรษฐกิจทางทะเล เกษตรนิเวศสีเขียวสะอาด” ก็เป็นแนวทางหลักเช่นกัน นาย สุรศักดิ์ พันธ์เรืองวงศ์ รองประธานคนที่ 1 ฝ่ายพัฒนาธุรกิจของบริษัท B.Grimm ประเทศไทยที่กำลังแสวงหาโอกาสการลงทุนในจังหวัดกว๋างนิงห์ได้ประเมินว่า
“ก่อนอื่น เราอยากพัฒนาพลังงานลม จากนั้นคือพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ LNG ให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของจังหวัดกว๋างนิงห์ จังหวัดกว๋างนิงห์เป็นท้องถิ่นที่มีแหล่งลมที่ดี มีศักยภาพและอุตสาหกรรมมีการพัฒนาอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยงทางคมนาคมและระบบส่งไฟฟ้าให้แก่ภูมิภาค”
ทางไฮเวย์ เวินด่น-ม้องก๊าย |
ตามการวางผังในช่วงปี 2021-2030 และวิสัยทัศน์ถึงปี 2050 กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดกว๋างนิงห์มีการขยายออกไปยังพื้นที่โดยรอบ โดยไม่ได้เน้นเฉพาะแค่ในพื้นที่ที่เอื้ออำนวยและมีความได้เปรียบอีกต่อไป ทางจังหวัดฯมุ่งสู่การใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทางทะเลและเกาะอย่างยั่งยืน สร้างระเบียงการคมนาคมที่มีความผูกพันกับระเบียงเศรษฐกิจและตัวเมือง มุ่งสู่การสร้างเมืองสังกัดส่วนกลาง โดยเฉพาะ จังหวัดกว๋างนิงห์กำหนดบทบาทของตนในการส่งเสริมการเชื่อมโยงภายในเขต ความเชื่อมโยงระหว่างเขตและความร่วมมือระดับประเทศ นี่เป็นกลุ่มมาตรการสำคัญที่นาย เหงียนซวนกี๊ ประธานสภาประชาชนจังหวัดกว๋างนิงห์ได้ย้ำว่า
“สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งยุทธศาสตร์ บนพื้นฐานของเครือข่ายทางไฮเวย์ไฮฟอง-ฮาลอง-เวินโด่น-ม้องก๊ายที่เกิดประสิทธิผลนั้น ต้องมีมาตรการและแผนงานที่เป็นรูปธรรมเพื่อเชื่อมโยงแหล่งพลังของท้องถิ่นต่างๆในเขตเพื่อผลักดันกระบวนการก่อสร้าง ความคืบหน้าของกิจการให้เสร็จเรียบร้อย แก้ไขอุปสรรคที่ขัดขวางการเชื่อมโยงระหว่างเขต นอกจากนั้น ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจและแรงงาน ลดช่องว่างระหว่างท้องถิ่น อีกทั้ง ยกระดับความสามารถในการเชื่อมโยง ส่งเสริมการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตามแผนการพัฒนาของเขตและภาคเหนือ”
ควบคู่กับเส้นทางและสะพานที่เชื่อมระหว่างจังกวัดกว๋างนิงห์กับเมืองไฮฟอง จังหวัดหายเยือง บั๊กยางและหล่างเซินกำลังก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ จังหวัดกว๋างนิงห์ยังเสนอการวางผังตามแนวทางการพัฒนาร่วมมือ โดยมีการมอบหมายหน้าที่ระหว่างท้องถิ่นต่างๆ ในภูมิภาคเพื่อ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสร้างระบบนิเวศการดำรงชีวิตที่น่าอยู่
แผนผังการพัฒนาจังหวัดกว๋างนิงห์ช่วงปี 2021-2030 วิสัยทัศน์ถึงปี 2050 ถือ “เป็นตราประกัน” เพื่อช่วยแก้ไขอุปสรรคในการดำเนินงาน ซึ่ง ไม่เพียงแต่ช่วยให้ท้องถิ่นต่างๆระดม จัดสรรและใช้แหล่งพลังอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น หากยังช่วยให้ท้องถิ่นต่างๆในเขตสามเหลี่ยมแห่งพลังขับเคลื่อนฮานอย-ไฮฟอง-กว๋างนิงห์ เขตเศรษฐกิจหลักในภาคเหนือและเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดงสามารถสนับสนุนและร่วมกันพัฒนาอย่างเข้มแข็ง.