สาวชนกลุ่มน้อยเผ่าเย้าไปตลาดนัดด่งวัน |
ทุกคนที่ได้แวะมาเยือนอำเภอเขตชายแดนบิ่งเลียวต่างรู้สึกประทับใจต่อเอกลักษณ์ของที่นี่เป็นอย่างมาก โดยในอดีต ตลาดนัดจะจัด 6 ครั้งต่อเดือนตามปฏิทินจันทรคติ คือ วันที่ 3 วันที่ 7 วันที่ 11 วันที่ 15 วันที่ 17 และวันที่ 23 แต่ปัจจุบันนี้ จัดทุกๆวันอาทิตย์ ส่วนสินค้าก็มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามยุคสมัยโดยนอกจากสินค้าการเกษตรและสินค้าเฉพาะถิ่น เช่น อุปกรณ์การเกษตร สินค้าการเกษตรและผลิตภัณฑ์จากป่าไม่ว่าจะเป็น เช่น น้ำผึ้ง สมุนไพร ขนม ดอกไม้และผลไม้แล้ว ก็มีสินค้าอุปโภค บริโภคเหมือนที่ขายตามตลาดทั่วไปจำหน่ายที่ตลาดนัดแห่งนี้ด้วย ตลาดนัดในวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งจับจ่ายซื้อของของกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ เช่น ชาวกิง ชาวฮัว ชนกลุ่มน้อยเผ่าไต เย้าและซ้านจี๋เท่านั้น หากยังเป็นจุดนัดพบของบรรดาชาวจีนที่อยู่อาศัยตามแนวชายแดนอีกด้วย ถ้ามาที่นี่ ทุกคนจะได้ฟังการร้องเพลงแทนของชนกลุ่มน้อยเผ่าไต เพลงซ้องเกาะของชนกลุ่มน้อยเผ่าซ้านจี๋ เพลงป๋ายุงของชนกลุ่มน้อยเผ่าเย้า การละเล่นพื้นบ้านต่างๆ และการนัดดูตัวหาคู่แต่งงาน เป็นต้น
ในเขตชายแดนเวียดนามที่ติดกับประเทศจีน ตลาดนัดในตำบลด่งวันที่เขา กาวบาแลง ในอำเภอบิ่งเลียว เป็นตลาดที่มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก เป็นตลาดเล็กๆ แต่น่าสนใจคือโซนขายอาหารที่มีหลายร้านที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายผู้ที่เดินผ่านไปมา
เฝอส่าว - อาหารประจำถิ่นในตลาดด่งวัน |
สำหรับนักท่องเที่ยว ถ้าหากไปเยือนตลาดนัดด่งวันแต่ไม่ได้ทานอาหารประจำถิ่นคือ “เฝอส่าว” หรือก๋วยเตี๋ยวผัดก็ถือว่ายังมาไม่ถึงบิ่งเลียว เพราะนี่คืออาหารพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของชนกลุ่มน้อยเผ่าเย้า ไตและซ้านจี๋ “เฝอส่าว” สามารถหาทานได้ไม่ยากในบิ่งเลียวแต่อร่อยที่สุดต้องที่ตลาดด่งวัน โดยเส้นก๋วยเตี๋ยวเจ้าของร้านทำเองทุกขั้นตอนส่วนเนื้อหมู ผักหรือถั่วงอกลูกค้าจะเป็นคนซื้อเอามาให้ทางร้านปรุงให้ ซึ่งนี่คือวิธีการปรุงเฉพาะที่บิ่งเลียวเท่านั้น นาง วีถิบิ๊ก เจ้าของร้านเฝอส่าวแห่งหนึ่งในตลาดด่งวัน กล่าวว่า “ฉันตื่นตอนตี 3 เพื่อโม่ข้าวทำแป้ง สำหรับนำไปทำเส้นก๋วยเตี๋ยว ลูกค้ามาตอนไหน เราก็ผัดตอนนั้น ในช่วงวันเทศกาลต่างๆ จะมีลูกค้ามาอุดหนุนจำนวนมาก บางทีฉันต้องโม่ข้าวนับสิบกิโลกรัม ส่วนลูกค้าจะนำวัตถุดิบมาให้เราเพื่อผัดกับเฝอ”
ทุกๆวันที่ 4 เดือน 4 ตามจันทรคติจะเป็นวันเปิดตลาดนัดพิเศษด่งวัน โดยจะมีการแสดงวัฒนธรรมและศิลปะต่างๆ รวมทั้งการประกวดปักดอกไม้บนเสื้อของสตรีและการทำหาบไม้ไผ่ของชาวเย้า โดยชนกลุ่มน้อยเผ่าเย้าเชื่อว่า วันที่ 4 เดือนที่ 4 คือวันแห่งโชคร้าย ไม่ควรทำอะไร ดังนั้นในวันนี้ ชาวเย้าทุกคนจะแต่งตัวสวยงามแล้วพากันไปเที่ยวตลาด นาง เหยื่องต่ายมุ๊ย กล่าวว่า “ตามประเพณีในวันที่ 4 เดือน 4 นี้ ชาวเย้าเราจะไม่ไปทำงาน โดยไปเที่ยวตลาดเท่านั้น เพื่อคุยกับเพื่อนเก่าหรือแฟนเก่า ซึ่งใครๆ ก็นัดเจอกับแฟนเก่า”
ตลาดนัดคือพื้นที่ที่ให้โอกาสทุกคนได้มาคุยกันอย่างสนุกสนาน ร่วมกันร้องเพลงหรือการละเล่นพื้นบ้านต่างๆ เช่น ชักเย่อและดันไม้ เป็นต้น นาย จ่างกี่สิง กล่าวว่า “ไปตลาดก็เพื่อพบกับเพื่อนๆ และเข้าร่วมการละเล่นพื้นบ้าน แม้จะอยู่ไกลแต่เราก็พยายามมาให้ได้ บางทีสนุกเพลินจนลืมกลับบ้าน”
ในเร็วๆนี้ อำเภอบิ่งเลียวจะเปิดตลาดนัดกลางคืนเพื่อฟื้นฟูบรรยากาศวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นโดยจะมีการร้องเพลง การละเล่นพื้นเมืองต่างๆ และการจำหน่ายสินค้า OCOP ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด.