 จังหวัดกว๋างนิงห์มอบใบรับรองการลงทุนให้แก่โครงการของกลุ่มบริษัท Foxconn ไต้หวัน ประเทศจีน รวมยอดเงินลงทุนกว่า 246 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จังหวัดกว๋างนิงห์ได้มอบใบรับรองการลงทุนให้แก่โครงการใหม่ 2 โครงการของกลุ่มบริษัท Foxconn ไต้หวัน ประเทศจีน รวมยอดเงินลงทุนกว่า 246 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงโรงงานผลิตและประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ เครื่องควบคุมการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า การผลิตชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดังนั้น ปัจจุบัน กว๋างนิงห์มี 3 โครงการของกลุ่มบริษัท Foxconn รวมยอดเงินลงทุน 383 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายหลังความสำเร็จของโครงการ S-Vietnam ซึ่งเริ่มดำเนินการผลิตเมื่อปลายปี 2020
การเห็นนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาลงทุนในจังหวัดกว๋างนิงห์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการอุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรกลที่มีความแม่นยำ ซึ่งโครงการเหล่านี้นับวันเพิ่มมากขึ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขตนิคมอุตสาหกรรม ซงควาย สังกัดเขตเศรษฐกิจชายฝั่งของกว๋างเอียนยังได้ดึงดูดโครงการลงทุนในด้านเครื่องจักร 2 โครงการของญี่ปุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสัญญาณในเชิงบวกจากตลาดที่มีศักยภาพนี้ นาย โคโมโตะ โทโมชิ ประธานบริษัท Castem Vietnam ที่เพิ่งลงนามสัญญาเช่าที่ดินให้แก่โครงการฯ รวมมูลค่า 19 ล้านดอลลาร์ ได้เผยว่า
“เราเลือกลงทุนที่กว๋างนิงห์เนื่องจากใกล้สนามบินและท่าเรือ เหมาะสำหรับการผลิตและส่งออก นอกจากนี้ เราได้ศึกษาและทราบว่า ชาวเวียดนามมีความขยันและมีความตั้งใจในการทำงานมาก บรรยากาศการลงทุนที่เอื้ออำนวยและโปร่งใสล้วนเป็นข้อได้เปรียบเพื่อดึงดูดนักลงทุน”
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในจังหวัดกว๋างนิงห์บรรลุกว่า 832 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 83 ของแผนการที่วางไว้ และร้อยละ 69 ของแผนการที่จังหวัดกว๋างนิงห์ได้วางไว้สำหรับปีนี้คืออยู่ที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากความได้เปรียบที่มีอยู่เกี่ยวกับที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติแล้ว จังหวัดกว๋างนิงห์ยังพยายามสร้างข้อได้เปรียบเพิ่มเติม เช่น ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โครงสร้างพื้นฐานในตัวเมืองและเขตนิคมอุตสาหกรรมที่พัฒนา นาย เหงียนวันเญิน ประธานบริษัทตัวเมือง Amata ฮาลอง นักลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของเขตนิคมอุตสาหกรรม ซงควาย ได้แสดงความเห็นว่า พื้นที่ของเขตนิคมอุตสาหกรรมยังมีอีกมากและมีศักยภาพเพื่อพัฒนา ความคืบหน้าของการเวนคืนที่ดินและกองทุนที่ดินที่โปรงใสเป็น “ข้อดี” เพื่อให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนและประกอบธุรกิจในจังหวัดกว๋างนิงห์
“จากการสนับสนุนเป็นอย่างมากของทางการจังหวัดกว๋างนิงห์และสำนักงานต่างๆ โดยเฉพาะ เมืองกว๋างเอียนที่ได้อำนวยความสะดวกในการเวนคืนที่ดินได้ช่วยให้เราดึงดูดนักลงทุน นอกจากนั้น เรายังพยายามลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆเพื่อสนับสนุนพวกเขา”
นอกจากการดึงดูดสถานประกอบการขนาดใหญ่ระดับโลกให้เข้ามาลงทุนและประกอบธุรกิจในจังหวัดกว๋างนิงห์แล้ว ทางจังหวัดฯยังพยายามดึงดูดนักลงทุนผ่านการยกระดับคุณภาพของบริการสาธารณะ สนับสนุนการลงทุนหลังการออกใบอนุญาตให้แก่โครงการ FDI และลดขั้นตอนหลังการลงทุน เช่น การออกใบรับรองการลงทุนให้แก่ 2 โครงการของกลุ่มบริษัท Foxconn ภายในเวลาเพียง 12 ชั่วโมง จัดตั้งกลุ่มปฏิบัติงานพิเศษเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการและนักลงทุน นาย Koen Soenens หัวหน้าฝ่ายธุรกิจและการตลาดในเขตนิคมอุตสาหกรรม Deep C นักลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของเขตนิคมอุตสาหกรรม บั๊กเตี่ยนฟอง และนามเตี่ยนฟองได้แสดงความเห็นว่า
“การได้รับกองทุนที่ดินที่ได้รับการเวนคืนอย่างรวดเร็ว มีไฟฟ้าใช้และมีแหล่งบุคลากรอย่างเพียงพอเพื่อให้สถานประกอบการดำเนินธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย เรารับทราบความพยายามของจังหวัดกว๋างนิงห์ และกำลังพยายามช่วยเหลือเพื่อสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เสนอมาตรการและแผนการเพื่อดึงดูดนักลงทุนที่มีศักยภาพมาลงทุนในจังหวัดกว๋างนิงห์”
 แรงผลักดันจากโครงการอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป เทคโนโลยีขั้นสูงจะช่วยให้กว๋างนิงห์ธำรงการเติบโตใจเลข 2 หลักเป็นเวลา 8 ปีติดต่อกัน |
เมื่อปลายปี 2020 จังหวัดกว๋างนิงห์ได้ประกาศใช้มติฉบับแรกในช่วงปี 2020-2025 คือการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปและการผลิตอย่างรวดเร็วและยั่งยืน หลังจากผ่านมาครึ่งระยะ เงินลงทุนในด้านนี้ได้บรรลุกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในนั้น เงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติบรรลุกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กว๋างนิงห์กำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจมากขึ้นเพื่อดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ FDI ใหม่ อัตราการเติบโตเฉลี่ยของอุตสาหกรรมแปรรูปและการผลิตอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 ต่อปี มีส่วนร่วมกว่าร้อยละ 10 ต่อโครงสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GRDP และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างงานให้แก่แรงงานในจังหวัดและต่างจังหวัดประมาณ 16,000 ตำแหน่ง
ไม่เพียงแต่ดึงดูดการลงทุนตามแนวทางที่เน้นถึงด้านที่ให้ความสนใจเท่านั้น หากจังหวัดกว๋างนิงห์ยังให้ความสำคัญต่อการดึงดูดโครงการ FDI ใหม่ ๆ ที่เป็นโครงการอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สะอาดและไฮเทคในเขตเศรษฐกิจแปรรูปและเขตนิคมอุตสาหกรรมอีกด้วย ซึ่งช่วยให้จังหวัดกว๋างนิงห์สร้างเครือข่ายโครงการ ระบบนิเวศเพื่อให้สถานประกอบการในท้องถิ่นเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทาน เช่น ห่วงโซ่อุตสาหกรรมสิ่งทอที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในเขตนิคมอุตสาหกรรม Texhong ห่วงโซ่อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในเขตนิคมอุตสาหกรรมเวียดฮึง ซงควาย ดงมาย บั๊กเตี่ยนฟอง โดยมีกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Autoliv, Samsong Vina และ Boltun เป็นต้น ห่วงโซ่อุตสาหกรรมเครื่องกล การผลิตและการประกอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเขตนิคมอุตสาหกรรมดงมายและซงควาย โดยมีกลุ่มบริษัท Foxconn และ Jinko Solar ที่เข้าไปลงทุน นาย กาวเตื่องฮวี รักษาการประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว๋างนิงห์ ยืนยันว่า
“กว๋างนิงห์จะใช้โอกาสอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจ เขตนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มเขตนิคมอุตสาหกรรม โดยเน้นถึงเขตเศรษฐกิจชายฝั่งกว๋างเอียน เขตเศรษฐกิจเวินด่น และเขตเศรษฐกิจในจุดผ่านแดนม้องก๊าย โดยเน้นคัดเลือกดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ใหม่ด้วยมาตรฐานตามแนวทางชี้นำของรัฐบาล ส่งเสริมการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”
ตั้งแต่บัดนี้จนถึงปลายปี จังหวัดกว๋างนิงห์ได้มีแผนเพื่อดึงดูดโครงการ FDI ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้เงินลงทุนในระดับสูงเและมีส่วนร่วมต่องบประมาณ คาดว่า แรงผลักดันจากโครงการอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป เทคโนโลยีขั้นสูงจะช่วยให้กว๋างนิงห์ธำรงการเติบโตใจเลข 2 หลักเป็นเวลา 8 ปีติดต่อกัน ปฏิบัติยุทธศาสตร์เศรษฐกิจสีเขียวและพัฒนาตามแนวทางที่ยั่งยืนต่อไป.