นาย หลือเท้หุ่ง สตาร์ทอัพของบริษัทแบ๊กฮว้าเหวียดเผยว่า การใช้แอพ GT Link ช่วยให้ร้านขายของชำในเวียดนามสามารถใช้ระบบดิจิทัลในการบริหารจัดการร้านค้าได้เหมือน ร้านสะดวกและซุปเปอร์มาร์เก็ต เน้นเชื่อมโยงกับสถานประกอบการภายในประเทศประมาณ 200 แห่งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน “แอพของเราใช้พื้นฐานระบบการขายปลีกแบบเก่าผ่านการเชื่อมโยงกับผู้ผลิต 200 แห่งและผู้จำหน่าย 600 แห่งเข้ากับร้านขายของชำประมาณ 80,000 แห่งในทั่วประเทศ”
แอพ GT Link ช่วยให้สถานประกอบการลดค่าใช้จ่ายอย่างน้อยร้อยละ 5 พร้อมทั้งแก้ไขจุดอ่อนของการขายปลีกแบบเก่าในเวียดนาม โดยเพิ่มการเชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทานอย่างเป็นระบบ เข้มงวดและโปร่งใสมากขึ้น ซึ่งนี่เป็นความแตกต่างระหว่างบริษัทฯ กับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ขายสินค้าออนไลน์ต่างๆ เช่น Lazara และ Shopee เป็นต้น นาย หุ่ง เผยต่อไปว่า “แอพนี้ช่วยปรับปรุงร้านขายของชำแบบเก่า ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 60 ในตลาดเวียดนามปัจจุบัน โดยมีจำนวนทั้งหมดประมาณ 1.5 ล้านแห่งและปัจจุบันเราสามารถสนับสนุนร้านขายแบบนี้ประมาณ 80,000 แห่ง ซึ่งก่อนอื่นเราเน้นเชื่อมโยงกับผู้จำหน่าย 600 แห่งโดยแต่ละบริษัทมักจะมีร้านขายของชำที่เป็นตัวแทนจำหน่ายประมาณ 200-500 แห่ง ต่อจากนั้นเราได้สร้างกลุ่มร้านขายของชำที่เข้มแข็ง แล้วเราจะขยายรูปแบบนี้ต่อไป”
นาย เหงียนหิวต๊วด ผู้อำนวยการของบริษัท NextPay Holdings ให้ข้อสังเกตว่า แอพนี้ของบริษัทแบ๊กฮว้าเหวียดช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่ายและร้านขายของชำ “บทบาทของบริษัทฯ คือสร้างแหล่งจัดสรรสินค้าที่หลากหลายให้แก่ร้านขายของชำผ่านการเชื่อมโยงระหว่างผู้จำหน่ายกับผู้ผลิต นี่คือสิ่งที่สำคัญของร้านขายของชำ นอกจากนี้เราจะช่วยให้ร้านขายของชำทราบข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมโปรโมชั่นและแนวโน้มความนิยมของผู้บริโภค ช่วยให้ร้านขายของชำค่อยๆปรับเปลี่ยนไปไช้เทคโนโลยีในการบริหารร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ทางบริษัทต้องแก้ไขคือเจ้าของร้านขายของชำส่วนใหญ่ขาดความสามารถในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงยากที่จะโน้มน้าวให้พวกเขาซื้อและใช้แอพนี้ นาย หลือเท้หุ่งเผยว่า “ทางบริษัทเริ่มเจาะตลาดตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2019 หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เราได้เจาะตลาดขายส่งและตลาดแบบเก่าเพื่อสนับสนุนให้ผู้ค้าเข้าร่วมโครงการของเราและช่วยให้พวกเขาประยุกต์ใช้ระบบดิจิทัลเพื่อยกระดับให้ร้านขายของชำทันสมัยมากขึ้นโดยใช้แอพนี้เพื่อบริหารการซื้อขายสินค้า”
ตามข้อมูลสถิติ รายได้จากการขายปลีกสินค้าของเวียดนามในปี 2019 เพิ่มขึ้นเกือบ 1แสน 6 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนช่องทางขายปลีกต่างๆ เช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ขายสินค้าออนไลน์คิดเป็นร้อยละ 22 ส่วนที่เหลือกว่าร้อยละ 70 เป็นตัวแทนจำหน่ายและตลาดแบบเก่า ซึ่งเป็นส่วนแบ่งตลาดที่เต็มไปด้วยศักยภาพสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพเหมือนบริษัทแบ๊กฮว้าเหวียด
ในระยะแรก GT Link จะช่วยพัฒนาร้านขายของชำประมาณ 80,000 แห่งในเวียดนาม ส่วนในระยะต่อไป แอพนี้จะพัฒนาเพื่อช่วยให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าจากร้านขายปลีกแบบเก่าได้อย่างสะดวก
แม้การใช้เทคโนโลยีจะมีความสำคัญแต่เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนั้นต้องมีความคิดสร้างสรรค์เพื่อประสบความสำเร็จ นี่คือแนวทางที่บริษัทแบ๊กฮว้าเหวียดกำลังปฏิบัติเพื่อแปรความฝันเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในร้านขายของชำต่างๆให้เป็นความจริง.