( VOV )- การเต้นรำซัลซ่ามีต้นกำเนิดจากแถบลาตินอเมริกาและแพร่หลายในแถบแคริบเบียน ส่วนที่เวียดนาม ซัลซ่าได้เข้ามาหลายปีมานี้และดึงดูดใจหนุ่มสาวคนเวียดนามโดยเฉพาะหนุ่มสาวคนฮานอย ซัลซ่าเป็นจังหวะที่เต้นง่ายที่สุด ลักษณะการขยับเท้ามีแค่ก้าวหน้าและก้าวหลังสามารถเต้นได้ในทุกสถานที่ไม่ว่าจะในสโมสร บาร์ สถานที่กลางแจ้งหรือบนท้องถนน  รายการสารคดีวันนี้ ขอเชิญท่านเข้าร่วมการเต้นซัลซ่ากับหนุ่มสาวกรุงฮานอยกันนะคะ

เต้นซัลซ่ากันอย่างเมามัน

สถานที่เต้นซัลซ่าของหนุ่มสาวฮานอยในเวลาสองทุ่มครึ่งค่ำวันเสาร์ทุกๆกลางเดือนคือบริเวณกลางแจ้งของอนุสาวรีย์กษัตริย์หลีท้ายโต๋ ติดกับทะเลสาบโห่เกือมหรือทะเลสาบคืนดาบใจกลางกรุงฮานอย  พวกเขาจับคู่กันเต้นซัลซ่าใต้แสงไฟตามจังหวะดนตรีและกลองที่สนุกสนานและเร้าใจ  ซัลเซร่าคือนักเต้นหญิงจะเน้นใช้บอดีย์ มูฟเม้นท์สื่อถึงความสง่างามและดึงความเซ็กซี่ในตัวออกมา ส่วนซัลเซโรคือนักเต้นชายจะเป็นตัวประกอบเท่านั้นทั้งนี้ทำให้ความเหน็จเหนื่อยจากการทำงานหรือการดิ้นรนเพื่อเลี้ยงชีพหายไป ส่วนผู้เต้นซัลซ่านับวันเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยนอกเหนือจากหนุ่มสาวแล้วนั้นยังมีข้าราชการ พนักงานและแรงงานที่หลงไหลซัลซ่า คุณฝุ่งเฟืองเงิน พนักงานคนหนึ่งในกรุงฮานอยเผยว่ “ ดิฉันต้นซัลซ่ามาได้ ๒ ปีและมักจะมาเต้นที่นี่เพราะการเต้นซัลซ่ากลางแจ้งนี้จะเปิดกว้างกว่าที่บาร์หรือสโมสรซึ่งเป็นสถานที่ที่มีคนรู้จักเต้นรำซัลซ่าล้วนๆ  ส่วนที่นี่มีผู้มาชมมากมายที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเรายิ่งขึ้น ”

การเต้นอย่างเมามันแบบวงกลมหลายๆคู่และจังหวะเต้นที่เร้าใจเป็นการเชื้อเชิญผู้มาร่วมวงและมาชม โดยผู้ชมและนักเต้นเพิ่มขึ้นเป็นร้อยคน  พวกเขายืนวงกลมหลายชั้นล้อมรอบบรรดาคู่ซัลซ่า  นายฌอง ฟรานโก นักธุรกิจอิตาเลียนเผยว่า เขามักจะไปมาระหว่างอิตาลีกับเวียดนามเพราะการทำธุรกิจ แต่ก็หาเวลามาที่นี่ทุกครั้งที่มาฮานอย “ ตื่นเต้นมาก แม้ผมเต้นซัลซ่าไม่เป็นแต่ชอบมาที่นี่เพื่อชมและดื่มด่ำบรรยากาศที่สนุกสนาน ”

คุณอานาน ฟลาเวีย พีแมนตา บรา-อาส์ช นักท่องเที่ยวชาวบราซิเลียนกับเพื่อนกำลังเดินเที่ยวรอบทะเลสาบโห่เกือมก็ถูกซัลซ่าเชื้อเชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จึงร่วมวงเต้นซัลซ่ากับหนุ่มสาวคนฮานอยอย่างเมามัน เธอกล่าวว่า “ ดิฉันเดินผ่านละแวกนี้และเห็นมีผู้คนมากมายจึงเข้าไปดูว่า มีอะไรเกิดขึ้น และสิ่งที่พบเห็นคือ พวกเขากำลังเต้นรำซัลซ่า  นี่เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ ซัลซ่าเป็นการเต้นรำที่มีถิ่นเกิดจากลาตินอเมริกาซึ่งเป็นบ้านเกิดของดิฉัน ดิฉันรู้สึกสนุกมากเมื่อได้เต้นซัลซ่า ณ ที่นี่ที่ห่างจากประเทศของฉันครึ่งซีกโลก ”

สนุกสนานกันทุกคน

สมาชิกซัลซ่ากลางแจ้งฮานอยมีทั้งคนฮานอยและต่างจังหวัดเช่น เมืองท่าไฮฟองที่ห่างจากฮานอยประมาณ ๑๒๐ กิโลเมตร  นายฝ่ามหว่ายนามจะมาที่นี่ในวันเสาร์ทุกๆกลางเดือนด้วยรถโดยสารเพื่อเต้นซัลซ่ากับเพื่อนคนฮานอย นายนามกล่าว “ ผมเข้าร่วมกับเพื่อนคนฮานอยเพื่อเป็นตัวเชื่อมระหว่างกลุ่มนักเต้นซัลซ่าไฮฟองกับฮานอยและได้ร่วมสนุกกับเพื่อนๆ ณ ที่นี่ด้วย ”

การจัดซัลซ่ากลางแจ้งรูปแบบนี้ได้ช่วยให้หนุ่มสาวไม่เพียงแต่มีโอกาสเต้นซัลซ่าด้วยกันเท่านั้น หากยังเป็นกิจกรรมการกุศลที่ได้รับการตอบรับอย่างดีอีกด้วย  นายเหงวียนแองต๊วน หัวหน้าสโมสรเอฟเอซัลซ่าที่จัดเต้นซัลซ่ากลางแจ้งเปิดเผยว่า  “ พวกเราจัดกิจกรรมนี้เพื่อเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวคนฮานอยเต้นซัลซ่าและมีการบริจาคเงินจากผู้เข้าร่วมโดยเงินส่วนหนึ่งเพื่อดำเนินกิจกรรมต่อไปและปรับหรุงระบบเสียง ส่วนที่เหลือเพื่อทำการกุศล ซึ่งกิจกรรมต่างๆของสโมสรล้วนเพื่อเป้าหมายการกุศล ”

เมื่อถึงเวลาประมาณ ๔ ทุ่มครึ่ง ทุกคนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน แม้เสื้อผ้าจะอาบเหงื่อแต่ทุกคนต่างรู้สึกสนุกเพราะได้เต้นซัลซ่าอย่างเต็มออกเต็มใจด้วยกันอย่างสนุกสนาน  ทุกคนอำลากันอย่างอาลัยและนัดพบกันอีกท่ามกลางเสียงเพลงซัลซ่าที่เบาลงๆจนคนสุดท้าย ./.