ที่สโมสร นักศึกษายังจะมีโอกาสพบปะกับนักประวัติศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงและฝึกภาษาต่างประเทศผ่านการพบปะกับอาสาสมัครและนักท่องเที่ยวต่างชาติในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจ นางสาวเงียมทูห่า นักศึกษาปีที่ ๔ คณะภาษาฝรั่งเศสมหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยเผยว่านี่เป็นโอกาสให้เธอได้ฝึกในภาคปฏิบัติ  “ เพื่อนๆนักศึกษาไม่ค่อยสนใจประวัติศาสตร์ของประเทศมากนัก  พวกหนูเรียนวิชาภาษาต่างประเทศจึงไม่ค่อยได้เรียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศ หนูหวังว่า ทางพิพิธภัณฑ์จะจัดกิจกรรมในรูปแบบนี้เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้นักศึกษได้ศึกษาและมีความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศมากขึ้น ถ้าเราเป็นคนเวียดนามที่เข้าใจประวัติศาสตร์ของประเทศอย่างละเอียดก็จะเป็นทูตแห่งการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของเวียดนามสู่สายตาของชาวต่างประเทศ ”

พิธีออกตัวสโมสรอาสาสมัครพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ

บุ่ยมิงห์ดึ๊กนักศึกษาปีที่ ๒ มหาวิทยาลัยฮานอยที่สนใจศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศเห็นว่า การเข้าเป็นสมาชิกของสโมสรอาสาสมัครจะเป็นโอกาสดีเพื่อให้วัยรุ่นศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศอย่างกว้างลึกมากขึ้น มิงห์ดึ๊กกล่าว  “ ผมหวังว่า ทางสโมสรจะจัดกิจกรรมอย่างหลากหลายรูปแบบมากขึ้นเพื่อส่งสานส์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในมุมมองของวัยรุ่น อีกทั้งจัดกิจกรรมเป็นประจำทุกๆสัปดาห์ในขอบเขตที่กว้่งขึ้น  ผมหวังว่า ทางสโมสรจะมีการช่วยเหลือสมาชิกในการหล่อเลี้ยงใจรักวิชาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ”

แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันภายในพิพิธภัณฑ์ฯ

ส่วนนางสาวฟานทูห่านักศึกษาปีที่ ๔ มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสโมสร  ทั้งนี้ได้ช่วยให้เธอไม่เพียงแต่ได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเท่านั้น หากยังสามารถร่างแผนการ เขียนบทความ รายงานอย่างชำนาญและได้พบเพื่อนใหม่อีกด้วย  นางสายห่าเผยว่า พิพิธภัณฑ์เป็นช่องการศึกษาอีกช่องสำหรับวัยรุ่น  ดังนั้นทูห่ามีความหวังว่า จะสร้างเป็นเครือข่ายอาสาสมัครระหว่างพิพิธภัณฑ์ทุกแห่งทั่วประเทศเพื่อกลายเป็นจุดนัดพบที่มีประโยชน์ต่อพวกเขา  คุณ โตถิ่ถุ่ยเลิม หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพิพิธภัณฑ์และหัวหน้าสโมสรฯเห็นว่า สมาชิกทุกคนเป็นทูตรุ่นใหม่ไฟแรงของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ โดยกล่าวว่า  “ เด็กเหล่านี้มีความสามารถด้านประวัติศาสตร์ มีความรักพิพิธภัณฑ์และได้จัดกิจกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ จากผลสำเร็จเบื้องต้น ทางสโมสรได้ตัดสินใจจัดตั้งสโมสรอาสาสมัครแห่งแรกขึ้น  พวกเขาเป็นผู้ต่อยอดกิจกรรมต่างๆของพิพิธภัณฑ์และเป็นทูตของวัยรุ่นสะท้อนเสียงพูดในคนรุ่นเดียวกันเกี่ยวกับวิธีการอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาติ ”

ภาคเรียนประวัติศาสตร์ของนักเรียนโรงเรียนจูวันอาน ณ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ

ต่อจากสโมสร” หนูรักวิชาประวัติศาสตร์ ” และ” ชั่วโมงเรียนประวัติศาสตร์ ”สำหรับนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาไปจนถึงชั้นมัธยมปลายนั้น  การจัดตั้งสโมสรอาสาสมัครของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติได้เปิดโอกาสให้วัยรุ่นเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ อันเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆรักวิชาประวัติศาสตร์ อีกทั้งช่วยฝีกฝนความอดทน ความตั้งใจอันแน่วแน่ตลอดจนบุคลิกแห่งความเป็นเวียดนามด้วย ./.