(VOVworld) – เพลงพื้นเมืองก็ถือเป็นหนึ่งเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่งดงามของชนเผ่าหนุ่งในเวียดนามโดยชาวหนุ่งได้ใช้เพลงเป็นเครื่องมือช่วยสื่อสารและแสดงความในใจระหว่างชายหญิง สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อคนรอบตัว
พิณติ๋ง หนึ่งในเครื่องดนตรีที่โดดเด่นในการแสดงเพลงพื้นเมืองของชนเผ่าหนุ่ง
|
ชุมชนเผ่าหนุ่งตั้งหลักอาศัยในเขตเขาสูงและชีวิตมีความผูกพันธ์ใกล้ชิดกับธรรมชาติกับป่าเขา ซึ่งนี่ก็เป็นบรรยากาศที่เอื้อให้แก่การอนุรักษ์คุณค่าวัฒนธรรมที่หลากหลายของชนเผ่าตนรวมทั้งเพลงพื้นเมือง โดยเพลงพื้นเมืองต่างๆของชาวหนุ่งเกิดจากกระบวนการผลิตและชีวิตประจำวันดังนั้นทำนองเนื้อร้องจึงมีความเรียบง่ายและสะท้อนถึงอารมณ์ความรู้สึกของชาวเขา ชนเผ่าหนุ่งแต่ละกลุ่มจะมีวิธีการแสดงเพลงพื้นเมืองที่ไม่ซ้ำกันและเพลงพื้นเมืองก็มีหลายประเภทเช่น เพลงโต้ตอบ เพลงซลีและเพลงเหลือน นาย หนุ่งฝ่านสิ่น ชาวหนุ่งเผยว่า“ทำนองเนื้อร้องในเพลงพื้นเมืองล้วนมีคุณค่า มีความหมายที่ลึกซึ้งและเป็นคติสอนใจที่ได้รับการสืบต่อกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ผมก็ไม่ได้เรียนร้องเพลงพื้นเมืองหากมันซึมซับเข้าในใจมาตั้งแต่เด็กเมื่อได้ฟังบรรพบุรุษร้องตามงานเทศกาลต่างๆ เมื่อโตขึ้นก็สามารถร้องได้เองและไม่สามารถลืมได้ โดยเฉพาะในเนื้อร้องจะแฝงไว้ซึ่งความหมายที่ลึกซึ้งต่างๆเกี่ยวกับคุณธรรมของมนุษย์ ตลอดจนการยกย่องการผลิตและเทคนิกในการผลิตเพื่อให้ชนรุ่นหลังสืบทอดต่อไป”
เนื่องจากชนเผ่าหนุ่งไม่มีภาษาเขียนเป็นของตนเองดังนั้นการอนุรักษ์และสืบทอดเพลงพื้นเมืองนั้นจะได้รับการปฏิบัติผ่านการเล่าขานในชุมชน ด้วยเหตุนี้เพลงพื้นเมืองจึงเป็นผลงานแห่งศิลปะและภูมิปัญญาของคนหลายคนโดยได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างหลากหลายอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ นาง แถ่นถิเฮื้อง ชาวหนุ่งยิ้น เผยว่า“การฝึกเพลงพื้นเมืองของชาวหนุ่งยิ้นนั้นยากมากเพราะไม่มีการเขียนเป็นตัวอักษร ดังนั้นต้องอาศัยการสอนจากรุ่นอาวุโสที่ร้องเป็นตัวอย่างแล้วให้เราร้องตามทีละคำทีละประโยค”
สำหรับเพลงพื้นเมืองซลี ถือเป็นหนึ่งในเพลงพื้นเมืองที่โดดเด่นที่สุดและมีเอกลักษณ์ที่สุดของชนเผ่าหนุ่ง โดยมีทำนองเนื้อร้องที่สื่อถึงความรู้สึกและความปรารถนาของมนุษย์แต่สะท้อนผ่านภาพธรรมชาติ ซึ่งเป็นเพลงแบบโต้ตอบระหว่างชายหญิงและยกย่องความงดงามของชีวิตที่อิ่มนำผาสุก เพลงนี้มักจะได้รับการแสดงตามงานสังสรรต่างๆเช่นงานปีใหม่ งานบุญข้าวใหม่ งานฉลองการเก็บเกี่ยวได้ผลดี เป็นต้น เอกลักษณ์ของเพลงพื้นเมืองซลีนี้คือไม่ต้องการดนตรีประกอบจึงสามารถร้องได้ทุกที่ทุกเวลา ช่วยให้ผู้ร้องโชว์ความสามารถทั้งด้านการร้องเพลงและการโต้ตอบ
ในคลังวัฒนธรรมพื้นเมืองที่หลากหลายของชนเผ่าหนุ่ง เพลงพื้นเมืองมีบทบาทเป็นศูนย์กลางเพราะสามารถสะท้อนบุคลิกภาพและจิตใจของชาวหนุ่งอย่างเด่นชัด แม้ชีวิตทุกวันนี้ได้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ชาวหนุ่งก็ยังคงพยายามอนุรักษ์มรดกที่ล้ำค่านี้อย่างสมบูรณ์เพื่อให้เพลงพื้นเมืองของชนเผ่าตนได้รับการพัฒนาในชุมชนตลอดไป.