(VOVworld)-ในชุมชนของชนเผ่าเขมร เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงมีวัดประมาณ600แห่งซึ่งในนั้นวัด Doi (เยย) หรือวัดค้างคาวในจังหวัดซอกจังเป็นหนึ่งในวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามโดดเด่นเฉพาะ โดยถูกก่อสร้างในศตวรรษที่16และมีชื่อในภาษาเขมรว่า เซไร เตโจ มาฮาตุบ
มีบางช่วงจำนวนค้างคาวที่วัดมีเป็นล้านตัว(photo : internet)
|
วัด เซไร เตโจ มาฮาตุบ ในภาษากลางเรียกว่า ม้าตก แต่คนทั่วไปคุ้นเคยกับชื่อ วัดเยย หรือวัดค้างคาวเพราะที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวยักษ์มานับร้อยปีแล้ว วัดแห่งนี้เปรียบเสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งวัฒนธรรมศิลปะที่ยอดเยี่ยมโดยทุกรายละเอียดในตัววัดต่างมีความปราณีตไม่ว่าจะเป็นซุ้มประตู สถาปัตยกรรมของพระอุโบสถ หรือพระวิหาร ตลอดจนลวดลายต่างๆที่ออกมาในลักษณะเป็นรูปกลีบบัว เป็นต้น โดยภาพรวมแล้วสถาปัตยกรรมได้สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชุมชนชนเผ่าเขมรในภาคใต้อย่างเด่นชัด นอกจากนั้นล้อมรอบบริเวณวัดรวมพื้นที่กว่า3เฮกต้านั้นเป็นทิวต้นตะเคียนใหญ่ที่ให้ความร่มรื่นตลอดปีซึ่งช่วยให้บรรยากาศที่เงียบสงบของวัดเยยเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว
ประตูทางเข้าวัดเยย (Photo : Internet)
|
ในวันฟ้าใส สิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณวัดคือตัวพระอุโบสถสีเหลืองทองที่สะท้อนแสงแดดเหลืองอร่ามงามตายิ่งนัก ฝีมืออันยอดเยี่ยมของช่างศิลป์ชนเผ่าเขมรได้สร้างสรรค์ผลงานด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยหลังคามุงกระเบื้องเคลือบสองสี มีรูปพญานาค ที่ประดับอยู่ตามหน้าจั่วของพระอุโบสถ ส่วนตามเสาวัดมีการสลักลวดลายเป็นนางฟ้า แกมนาร์ ที่กำลังพนมมือเหมือนเป็นการสวัสดีต้อนรับผู้ที่มาสักการะ ภายในพระอุโบสถยังมีการสลักหรือวาดลวดลายต่างๆที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าเขมรโดยเฉพาะพระพุทธรูปลงรักปิดทอง นายหว่างวันเวียด เจ้าหน้าที่หน่วยงานการท่องเที่ยวนครโฮจิมินห์เผยว่า“สำหรับวัดของชนเผ่าเขมรนั้น ส่วนที่สำคัญคือพระอุโบสถเพราะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป และก็มีเพียงองค์เดียวซึ่งแตกต่างกับวัดของชนเผ่าอื่นๆเช่นชนชาติกิงที่ในพระอุโบสถนั้นมีทั้งพระพุทธรูปและพระปางต่างๆด้วย”
ค้างคาวยักษ์เกาะเต็มกิ่งไม้ มีทั้งพันธุ์ที่ถูกระบุในหนังสือปกแดงของเวียดมาม
(Photo:Vietgiaitri.com)
|
ด้านนอกของพระอุโบสถได้รับการตกแต่งด้วยลวดลายและภาพแกะสลักลายปั้นนูนที่เป็นวัฒนธรรมเขมร โดยเฉพาะภาพแกะสลักลายปั้นนูน28ชิ้นที่บรรยายเกี่ยวกับพุทธประวัติ ตั้งแต่ช่วงที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ ไปจนถึงการเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ส่วนรอบนอกของพระอุโบสถเป็นสถูป หรือเจดีย์ ที่บรรจุอัฐิธาตุของพระสงฆ์และเครือญาติตามประเพณีของชนเผ่าเขมร ซึ่งจะมีลักษณะที่ไม่เหมือนกัน นอกจากจะมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นแล้ว วัดเยยยังเป็นสถานที่สำคัญเพื่อจัดกิจกรรมวัฒนธรรม การกีฬา การสอนหนังสือและงานเทศกาลสำคัญๆของชุมชนชาวเขมร นาย เจิ่นวันนาม ชาวเขมรที่อาศัยใกล้วัดเยยเผยว่า“ทุกเช้าผมจะไปจุดธูปที่วัดส่วนในวันเทศกาลเช่นตรุษเต๊ตพี่น้องประชาชนแถบนี้ก็มักจะร่วมกันห่อขนม ทำอาหารเพื่อนำไปถวายที่วัด รำลึกถึงบรรพบุรุษ ในเทศกาลเซนดอลตาชาวบ้านจะมาที่นี่ทำพิธีหลังจากเซ่นไหว้ที่บ้านมา3วัน”
จุดเด่นที่เป็นธรรมชาติของวัดแห่งนี้คือได้เป็นแหล่งอาศัยของค้างคาวยักษ์เป็นร้อยๆปี โดยเมื่อเดินเข้าไปในบริเวนสวนต้นไม้ของวัดก็สามารถเห็นค้างคาวเป็นพันตัวเกาะเต็มกิ่งไม้ สิ่งที่แปลกใจก็คือค้างคาวเหล่านี้จะไม่เข้าไปกินผลไม้ในวัดแม้บางช่วงจำนวนค้างคาวที่มาอาศัยในบริเวณนี้จะมีมากเป็นล้านตัวก็ตาม.