(VOVworld) – ในการดำเนินชีวิตนั้น เนื่องจากอาศัยในเขตเขาสูงและประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกข้าวเลี้ยงสัตว์ เก็บพืชผักในป่า ดังนั้นเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้แก่มื้ออาหารในทุกๆวันโดยเฉพาะในวันงานสำคัญๆชาวหนุ่งจึงได้คิดค้นสร้างสรรค์เมนูอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ต่างๆและมีอาหารหลายอย่างได้กลายเป็นอาหารพื้นเมืองประจำถิ่นของจังหวัดลาวกายซึ่งเป็นท้องถิ่นที่มีชุมชนชนเผ่าหนุ่งอาศัยมากที่สุด

Khau nhuc ที่มีส่วนประกอบเป็นหมูสามชั้นนึ่งกับเครื่องปรุงหลายอย่าง

จากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกข้าวสารและข้าวเหนียวเป็นหลักดังนั้นในมื้ออาหารทุกวันของชนเผ่าหนุ่ง ข้าวคือส่วนที่ไม่อาดขาดได้ซึ่งอาจจะเป็นข้าวสวยทานกับผักป่ารวมมิตรและต้มถั่วชนิดต่างๆหรือในหน้าร้อนก็จะต้มข้ามต้มแทนข้าว ส่วนในวันงานสำคัญหรือเทศกาลจะมีการนึ่งข้าวเหนียวและทำขนมจากแป้งข้าวเหนียว โดยข้าวเหนียวหรือขนมนั้นจะมีรสชาดและสีสันที่แตกต่างกันเพื่อสื่อความหมายตามประเพณีการเซ่นไหว้แต่ละอย่าง คนชนเผ่าหนุ่งไม่นิยมทานผักลวกโดยผักทุกอย่างจะนำไปผัดก่อนที่จะใส่น้ำต้มเป็นแกง ส่วนอาหารจากปลาและเนื้อสัตว์มักจะเอาไปทอดไม่ค่อยนิยมทำแบบต้มเค็มและไม่กินเนื้อวัวควาย

เอกลักษณ์วัฒนธรรมอาหารการกินของชนเผ่าหนุ่งจะสะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดที่สุดในถาดอาหารวันตรุษเต๊ตเพราะเชื่อว่านี่คือมื้ออาหารสุดท้ายของปีเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปให้หมด โดยจะมีอาหารทำจากเนื้อสัตว์หลายอย่างรวมทั้งเนื้อเป็ดที่ทำเป็นอาหารหลายอย่างแต่หลักๆแล้วก็คือเป็ดต้มหน่อไม้ดอง นอกนั้นก็มีอาหารจากเผือก กุนเจียง หน่อไม้และผัก เป็นต้น นายเลืองวันแบก ชาวหนุ่งที่จังหวัดหลางเซินเผยว่า“ชาวหนุ่งฝ่านสิ่งที่หลางเซินยังคงรักษาประเพณีการจัดถาดอาหารเพื่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบดั้งเดิม โดยต้องมีอาหารหลายอย่างและที่ขาดมิได้คือเนื้อเป็ด ซึ่งเป็นอาหารที่ช่วยไล่สิ่งที่ไม่ดีต้องกินในช่วงส่งท้ายปีเก่าเพื่อรับปีใหม่ที่มาพร้อมกับสิ่งที่ดีๆเท่านั้น”

สำหรับอาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อเป็นอาหารท้องถิ่นนั้นต้องพูดถึง Khau nhuc ที่มีส่วนประกอบเป็นหมูสามชั้นนึ่งกับเครื่องปรุงหลายอย่างเช่น อบเชย เฉาก๊วย กระเทียม พริก เหล้าขาว น้ำส้มสายชู พริกไทย เป็นต้น และนี่ยังเป็นอาหารพิเศษสำหรับต้อนรับแขกที่มาบ้านหรือในงานเลี้ยงแต่งงาน งานเซ่นไหว้สำคัญต่างๆ

เป็ดย่างหมักใบและลูกมักเหมิด

นอกจาก Khau Nhuc แล้วอาหารที่ทุกคนรู้จักดีเมื่อไปเที่ยวเมืองหลางเซินคือหมูและเป็ดย่างหมักใบและลูกมักเหมิด ซึ่งเป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีเฉพาะแถวจังหวัดชายแดนทางเหนือคือหลางเซิน กาวบั่ง บั๊กก๋าน โดยในภาษาหนุ่ง คำว่ามักเหมิดหมายถึงพืชที่มีรสหวาน ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องปรุงอาหารที่สำคัญของชนเผ่าหนุ่ง นายนงวันชี้ ชาวหนุ่งเผยว่า“ใบมักเหมิดเป็นเครื่องปรุงสำคัญเพื่อให้เป็ดย่างหรือหมูย่างของเรามีรสชาดพิเศษไม่เหมือนที่อื่น โดยเราจะผสมทั้งใบและลูกกับเครื่องปรุงอื่นๆแล้วยัดในใส้ของเป็ดหรือหมูก่อนนำไปย่าง เมื่อสุกแล้วใบที่อยู่ข้างในจะทำให้เนื้อย่างนั้นมีกลิ่นหอมพิเศษ”

ในโอกาสวันงานต่างๆเช่นปีใหม่ แต่งงาน หรือต้อนรับแขกพิเศษ สิ่งที่ขาดมิได้อีกอย่างคือเหล้าพื้นเมืองที่ชาวบ้านทำเองและเมื่อเชิญคนอื่นๆดื่มเหล้าก็ต้องไขว้แขนกันดื่มให้หมดแก้ว โดยมีความหมายว่าสองคนจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป นอกจากนั้นในชุมชนชนเผ่าหนุ่ง ไตและไทที่อาศัยในทางเหนือของเวียดนาม พิธีนี้จะใช้สำหรับแขกพิเศษเท่านั้น แม้ทุกวันนี้สังคมได้พัฒนาและมีวัฒนธรรมใหม่เข้ามาในวิถีชีวิตของชนเผ่าต่างๆแต่ชุมชนชนเผ่าหนุ่งก็ยังคงอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามต่างๆของตนไว้อย่างสมบูรณ์มาตราบเท่าทุกวันนี้และนี่ก็คือหนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเพื่อสร้างเป็นเครื่องหมายการค้าแห่งการท่องเที่ยวของจังหวัดหลางเซิน.