(VOVWorld)-นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามกำลังอยู่ระหว่างการเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดการค้าและการลงทุนจีน-อาเซียนและงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียนครั้งที่๑๓ ซึ่งในภาพรวมของกระบวนการพัฒนาและการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนก็ได้สร้างโอกาสความร่วมมือใหม่ให้แก่ทั้งอาเซียนและจีน โดยเฉพาะ แต่ละประเทศสมาชิก รวมทั้ง เวียดนาม
นาย เหงวียนซวนฟุกเข้าร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้าอาเซียน-จีน
|
เวียดนามและจีนได้ปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี๑๙๙๑ จนถึงขณะนี้ ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็วและนับวันยิ่งพัฒนา
ตัวเลขที่น่าประทับใจ
ในรอบ๒๕ปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างเวียดนามกับจีนได้เพิ่มขึ้น๒,๐๐๐เท่า จาก๓๐ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี๑๙๙๑ขึ้นเป็นกว่า๖หมื่น๖พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี๒๐๑๕ จนถึงปลายเดือนกรกฎาคมปี๒๐๑๖ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่กว่า๓หมื่น๘พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ๑.๒เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ส่วนเวียดนามก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของจีนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งสองฝ่ายตั้งใจปฏิบัติมาตรการผลักดันการแลกเปลี่ยนการค้าทวิภาคีอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนเพื่อมุ่งสู่การเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี๒๐๑๗ขึ้นเป็น๑แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในด้านการลงทุน จีนมีโครงการลงทุนในเวียดนาม๑,๕๐๐โครงการ รวมยอดเงินลงทุนจดทะเบียนอยู่ที่เกือบ๑หมื่น๑พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่อันดับที่๙ในจำนวนทั้งหมด๑๑๖ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนามมากที่สุดและการลงทุนของจีนในเวียดนามได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในด้านปริมาณและขอบเขต
นาย เหงวียนซวนฟุกเดินทางไปเยือยบูธของสถานประกอบการเวียดนาม
|
โอกาสใหม่
ในปัจจุบัน จีนกำลังกลายเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจชั้นนำของโลกและการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปี๒๐๑๕ก็ได้สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับจีน ส่วนเวียดนามกำลังผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างลึกผ่านการเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ จนถึงขณะนี้ เวียดนามได้เข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรี๑๒ฉบับและกำลังเจรจาข้อตกลงการค้าใหม่อีก๔ฉบับ โดยเฉพาะ ข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ RCEPที่มีการเข้าร่วมของประเทศสมาชิกอาเซียนและจีน เมื่อเร็วๆนี้ ธนาคารโลกได้เพิ่มอันดับบรรยากาศการลงทุนของเวียดนามขึ้นเป็น๓อันดับมาอยู่ให้อันดับ๕ในจำนวน๑๐ประเทศสมาชิกอาเซียนและเวียดนามกำลังพยายามติด๑ใน๔ภายในปี๒๐๑๗เพื่อสร้างโอกาสความร่วมมือใหม่
จากการเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับจีนและเป็นประเทศสมาชิกที่แข็งขันของอาเซียน เวียดนามกำลังผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกับจีนทั้งในระดับทวิภาคและพหุภาคี ดังนั้น เวียดนามจึงเข้าร่วมกิจกรรมความร่วมมือที่สำคัญอย่างแข็งขัน เช่น การประชุมสุดยอดการค้าและการลงทุนจีน-อาเซียนและงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน ในโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมนี้ คณะผู้แทนเวียดนามนำโดยนายเหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้มีการสนทนากับบรรดาผู้บริหารสถานประกอบการชั้นนำของจีน พร้อมทั้ง ยืนยันถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามในการดึงดูดการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้ง นักลงทุนจีน นาย เหงวียนซวนฟุกได้เผยว่า “พวกเราพยายามสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่เปิดเผยและโปร่งใสให้แก่สถานประกอบการทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งความสำเร็จของนักลงทุนก็ถือเป็นความสำเร็จของเวียดนาม พวกเราได้กำหนดแนวทางอย่างชัดเจนคือ สร้างรัฐบาลที่โปร่งใสและสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนา มีปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมเพื่อประชาชนและสถานประกอบการ เน้นเสร็จสิ้นการจัดทำกลไกระเบียบการ ผลักดันการปรับปรุงระเบียบราชการเพื่อยกระดับทักษะความสามารถในการแข่งขัน แก้ไขอุปสรรคในการผลิตและการประกอบธุรกิจเพื่อผลักดันการสร้างฐานะ”
การปรากฎตัวของสถานประกอบการชั้นนำของจีนนับร้อยแห่งในฟอรั่มครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสนใจของบรรดานักลงทุนจีนต่อเวียดนาม โดยการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป ธนาคาร คมนาคม โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ พลังงานและการลงทุนเป็นด้านที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากนักลงทุนจีนแต่อย่างไรก็ดี จุดยืนของเวียดนามคือชื่นชมศักยภาพด้านการพัฒนาเทคโนโลยีของนักลงทุนจีนแต่ไม่เปิดรับเทคโนโลยีที่ล้าสมัยเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นาย เหงวียนซวนฟุกยังแสดงความประสงค์ว่า เวียดนามอยากได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากจีนเพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเรียกร้องบรรดานักลงทุนจีนให้ความสนใจต่อการลงทุนด้านพลังงาน ซึ่งเป็นด้านที่เวียดนามมีความต้องการสูง สำหรับปัญหานี้ นาย เจิ่นต๊วนแอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามได้เผยว่า “จีนเป็นประเทศที่มีทักษะความสามารถสูงในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน รวมทั้ง เทคโนโลยีที่กำลังได้รับการพัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพต่อไป เพื่อลดต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า เป้าหมายของเวียดนามคือ จนถึงปี๒๐๓๐ จะเพิ่มอัตราการใช้พลังงานหมุนเวียนขึ้นเป็นร้อยละ๒๐ ซึ่งการเข้าร่วมของบริษัทด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนในเวียดนาม โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและแสงอาทิตย์มีสูงมาก”
จากการเป็นสมาชิกที่แข็งขันของอาเซียน เวียดนามให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนความร่วมมืออาเซียน-จีนและพร้อมที่จะส่งเสริมบทบาทการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอาเซียนกับจีน ร่วมกับประเทศอาเซียนผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ รักษาสันติภาพ เสถียรภาพ แก้ไขปัญหาต่างๆเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายต่างๆ ค้ำประกันกิจกรรมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า มีส่วนร่วมต่อสันติภาพ ความร่วมมือ การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค เวียดนามกำลังร่วมกับจีนใช้โอกาสใหม่เพื่อผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศในเวลาที่จะถึง.