ใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ เพื่อฟื้นฟูการเติบโต

Huyền Hoa
Chia sẻ
(VOVWORLD) - หลังจากที่การขยายตัวจีดีพีเติบโตเพียงเล็กน้อยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้โดยอยู่ที่ร้อยละ 3.72   เศรษฐกิจของเวียดนามได้มีสัญญาณในเชิงบวก ซึ่งผลงานนี้ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการบริหารเศรษฐกิจมหภาคของรัฐบาลในเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆเพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายเพื่อฟื้นฟูการเติบโตและบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่วางไว้ในตลอดทั้งปี
ใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ เพื่อฟื้นฟูการเติบโต - ảnh 1กิจกรรมการผลิตที่บริษัทแห่งหนึ่งในเขตนิคมอุตสาหกรรม Khai Quang จังหวัดหวิงฟุก (VNA)

ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ทั้งภายในและต่างประเทศมีความยากลำบากและความท้าทายมากกว่าความสะดวก ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน รัฐบาลเวียดนามได้พยายามรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและส่งเสริมการเติบโต

ภาพรวมของเศรษฐกิจมีจุดเด่นมากมาย

ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์เศรษฐกิจประสบอุปสรรคและอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่เศรษฐกิจเวียดนามยังคงมีจุดเด่นในด้านต่างๆ เช่น ภาคบริการที่มีการฟื้นตัวที่ดี โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีส่วนร่วมเกือบร้อยละ 80 ต่อการเติบโตโดยรวมใน 7 เดือนแรกของปี อัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลงและสามารถควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ความสมดุลของเศรษฐกิจมหภาคยังคงได้รับการรักษา อัตราดอกเบี้ยปรับลดลง ค่าเงินด่องมีเสถียรภาพ การเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐได้รับการส่งเสริมและปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัด ที่น่าสนใจคือ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมกำลังฟื้นตัว โดยการขยายตัวในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ร้อยละ 4.14  สูงกว่าไตรมาสแรกซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 3.32  การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีการจัดซื้อหรือ PMI การนำเข้าและส่งออก การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและสถานการณ์การทำธุรกิจของสถานประกอบการดีขึ้น

ผลงานนี้มาจากการที่รัฐบาลได้ประกาศใช้มาตรการ นโยบาย การชี้นำและบริหารอย่างเคร่งครัดในทุกด้าน นโยบายที่สำคัญๆได้สร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในสังคม เช่น การขยายระยะเวลาการชำระภาษี  การลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ การลดภาษีมูลค่าเพิ่ม การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้  การปรับปรุงระยะเวลาการชำระหนี้ การชำระหนี้ การแก้ไขอุปสรรคในด้านอสังหาริมทรัพย์ การลงทุน สิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข

ใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ เพื่อฟื้นฟูการเติบโต - ảnh 2รองศาสตราจารย์ ดร. เจิ่นดิ่งเทียน อดีตหัวหน้าสถาบันเศรษฐกิจเวียดนาม

รองศาสตราจารย์ ดร. เจิ่นดิ่งเทียน อดีตหัวหน้าสถาบันเศรษฐกิจเวียดนามเผยว่า รัฐบาลได้เน้นติดตามและประเมินผลกระทบของตลาดในเชิงรุกเพื่อมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างคล่องตัว สนับสนุนการผลักดันกิจกรรมการผลิต ปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจ ลดระเบียบราชการ ควบคู่กับการเร่งเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเสาหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ นาย เจิ่นดิ่งเทียน แสดงความเห็นว่า

“ปีนี้ รัฐบาลระบุปัญหาและกำหนดแนวทางแก้ไข ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกกำลังมีความท้าทายมากมาย เราต้องติดตามสถานการณ์ของโลกเพื่อสามารถแก้ไขได้อย่างคล่องตัว สิ่งที่สำคัญคือต้องรักษาพื้นฐานเพื่อสร้างสถานะที่แข็งแกร่งมากขึ้นในระยะต่อไป ในโลกที่ไม่มีเสถียรภาพและมีความยากลำบากในปัจจุบัน ผมคิดว่า นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

เพื่อปฏิบัติเป้าหมายการเติบโตในช่วงเดือนที่เหลือของปีและปีต่อไป ตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันคือการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค สร้างความสมดุลระหว่างการควบคุมอัตราเงินเฟ้อกับการเติบโต ระหว่างอัตราดอกเบี้ยกับค่าเงินด่อง ระหว่างความสมดุลของงบประมาณกับการสนับสนุนประชาชนและสถานประกอบการ ดร. เกิ๊นวันหลึก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเพื่อการลงทุนและการพัฒนาเวียดนามหรือ BIDV ได้เสนอให้ใช้ประโยชน์จากโอกาสและความได้เปรียบใหม่ ๆ ฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายเพื่อฟื้นฟูการเติบโตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

“3 แนวทางสำคัญเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนในระยะยาวคือ 1 การปรับปรุงโครงสร้างเนื่องจากขณะนี้ ประเทศที่ต้องการสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนต้องกลับไปสู่ปัญหาโครงสร้าง 2คือเรื่องของผลผลิต 3 คือการพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับรูปแบบการเติบโตตามแนวทางปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและนวัตกรรมมากขึ้น นั่นคือพลังขับเคลื่อนแห่งการเติบโต”

ใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ เพื่อฟื้นฟูการเติบโต - ảnh 3นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เป็นประธานการประชุมประจำเดือนกรกฎาคมของรัฐบาล (VNA)

มุ่งมั่นบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในระดับสูงสุด

ด้วยการระบุความยากลำบากและความท้าทาย เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 6.5 ตามแผนที่วางไว้ นอกจากมาตรการดังกล่าว ในการประชุมประจำเดือนกรกฎาคมของรัฐบาล นาย ฝ่ามมิงชิ้ง นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำถึงแนวทางการชี้นำว่า

“ผมขอสั่งให้รัฐมนตรี หัวหน้าสำนักงานและประธานคณะกรรมการประชาชนของท้องถิ่นต่างๆปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบของตน โดยเน้นชี้นำและบริหารด้วยความมุ่งมั่นและความพยายามมากขึ้นเพื่อปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่วางไว้ กระทรวงวางแผนและการลงทุนต้องจัดทำแผนการลงทุนงบประมาณของรัฐปี 2023 ให้แล้วเสร็จ  ผลักดันการปฏิบัติงานของคณะปฏิบัติงานเกี่ยวกับการกระตุ้นการเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐ 5 คณะ ท้องถิ่นต่างๆทบทวนและลดเงื่อนไขและขั้นตอนการประกอบธุรกิจ อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการ ผลักดันการส่งเสริมการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ที่มีคุณภาพสูง ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน เพิ่มความสามารถในการคาดการณ์ และกล่าวถึงแผนการบริหารเศรษฐกิจมหภาค”

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสั่งให้กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมผลักดันโครงการผลิตภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ส่งเสริมให้สถานประกอบการต่างๆ เข้าร่วมห่วงโซ่คุณค่าระดับโลกที่ลึกซึ้งมากขึ้น ผลักดันการแลกเปลี่ยนการค้า ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีที่ได้ลงนาม ส่งเสริมการทูตสีเขียว จัดทำกลไกและนโยบายสำหรับการเติบโตสีเขียวเพื่อปฏิบัติตามคำมั่นระหว่างประเทศที่ให้ไว้เพื่อค้ำประกันตามมาตรฐานและธรรมเนียมปฏิบัติสากล

ถึงแม้ว่า ดัชนีเศรษฐกิจมหภาคจะไม่เป็นไปตามความคาดหวัง แต่มีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้น เดือนหน้าสูงกว่าเดือนก่อน ไตรมาสหน้าดีกว่าไตรมาสก่อน ข้อมูลเกี่ยวกับการเติบโตของจีดีพี หรือการนำเข้าและส่งออกล้วนแสดงให้เห็นถึงสัญญาณในเชิงบวกดังกล่าว ซึ่งถึงแม้จะมีความยากลำบากและความท้าทายมากมาย แต่รัฐบาลจะไม่ปรับลดเป้าหมายการเติบโต หากจะใช้ประโยชน์จากทุกโอกาสเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในระดับสูงสุด.

Komentar